คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน ราชวังสัน
เมื่อการแข่งขันเข้าสู่ช่วงสุดท้ายใกล้ถึงเส้นชัยแล้ว ไทยเรามีสำนวนเปรียบกับการแข่งม้า โดยเฉพาะที่ ราชตฤณมัยสมาคมแห่งประเทศไทย หรือ สนามม้านางเลิ้ง ตอนที่ม้าควบมาจนถึงโค้งสุดท้ายซึ่งตรงกับทิศทางที่ตั้งของ วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม หมดโค้งนี้ก็เขาทางตรงมุ่งสู่เส้นชัยได้รู้ผลกันแล้ว จึงเกิดเป็นสำนวนว่า “เข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้าย” หรือ “โค้งวัดเบญจ” นั่นเอง อันนี้ เพื่อนรักต่างวัยของผม “บี บางปะกง” เพื่อนร่วมอาชีพสื่อมวลชนชอบนำมาพูดอยู่บ่อยๆ การเปรียบเปรยคล้ายกันนี้ฝรั่งก็มี ต่างกันตรงที่เขาจะใช้คำว่า “ทางตรง 100 เมตรสุดท้าย” ของลู่วิ่งเป็นสำนวนเรียกช่วงสุดท้ายของการแข่งขัน ซึ่งตอนนี้ฟุตบอลลีกสูงสุดของ 5 ชาติชั้นนำในทวีปยุโรปก็กำลังเข้าสู่ทางตรง 100 เมตรสุดท้ายกันแล้ว
เริ่มที่ เพรอมิเอ ลีก ที่เหลือการแข่งขันอีก 8-9 นัด แมนเช้สเต้อร์ ซิตี้ รั้งจ่าฝูง มีคะแนนนำโด่ง 71 แต้ม ทิ้งอันดับ 2 แมนเช้สเต้อร์ ยูนายเถ็ด ถึง 14 แต้ม ถ้าแต้มเสมอกันก็นับผลต่างประตู ได้-เสีย ก่อน ซึ่ง ซิตี้ เหนือกว่าตั้ง 19 ประตู เหมือนกับนำ 14 คะแนนครึ่ง คือเกมที่เหลือนั้นต้องชวดคะแนนเท่ากับการแพ้ 5 นัด ใครจะแซงได้ก็ต้องชนะทั้ง 5 นัดนี้ด้วย โอกาสริบหรี่ ส่วนดาวซัลโวกำลังลุ้นกันระหว่าง แฮร์รี่ เคน โมฮาเหม็ด ซาละฮ์ และ บรูโน แฟรนานเด็ส 1 ใน 3 รายนี้แหละครับ
บุนเด็สลีกา 26 เกมผ่านไป ลีกนี้มี 18 ทีม เหลืออีกแค่ 8 นัด บาแยร์น มึนเชิ่น กำลังกรุยทางสู่แช้มพ์เป็นสมัยที่ 9 ติดต่อกัน มี 61 แต้ม ทิ้ง ไล้พ์ซิช ที่ตามมา 4 แต้ม พร้อมผลต่างประตู ได้-เสีย เหนือกว่า 16 ประตู ซึ่งจะมีผลในกรณีคะแนนเท่ากัน ดังนั้น ถ้าคิดจะแซง แค่ทำแต้มเท่า บาแยร์น ไม่พอ จะขาดทุนก็ตรงนี้ ยิ่งไปกว่านั้น บาแยร์น ยังมี โรเบิร์ต เลวันด๊อฟสกี้ เครื่องจักรทำประตูที่ตอนนี้ซัดไป 35 ประตูแล้ว ตำแหน่งดาวซัลโวปีที่ 4 ติดต่อกันไม่มีทางหลุดไปได้ เพราะทิ้งอันดับ 2 ที่ทำได้แค่ 21 ประตู อยู่ห่างๆอย่างหายห่วง
เซริเอ อา ใช้เกณฑ์การพิจารณาทีมที่ได้อันดับดีกว่าในกรณีมีคะแนนเท่ากัน โดยดูที่ เฮ้ด-ทู-เฮ้ด (Head-to-head) ดังนั้น ผลต่างประตู ได้-เสีย จึงกลายเป็นเรื่องรอง เพราะจะมามีผลทีหลัง แม้ยังเหลือเกมอีกร่วม 10 นัด แต่ดูท่าว่า ยูเว็นตุ๊ส คงไม่อาจรักษาแช้มพ์ไว้ได้อีกแล้ว หลังจากที่ครองถ้วยใบนี้มาตลอด 9 ฤดูกาลที่ผ่านมา ตอนนี้รั้งแค่อันดับ 4 คะแนนตาม อินเตรนาซิโอนาเล จ่าฝูงที่มี 65 คะแนนถึง 10 แต้ม ถ้วยใหญ่ยุโรปก็ตกรอบไปแล้วด้วย ดูยังไงแช้พม์ปีนี้ก็ต้องตกเป็นของทีมจากเมืองมีลาน โดยมี เอซี มีลาน ตามมาเป็นอันดับ 2 ที่ 59 แต้ม ส่วนตำแหน่งดาวซัลโวนั้น คริชติอาโน โรเนาโด นำตารางอยู่ที่ 23 ประตู ยังมีลุ้น แม้เรี่ยวแรงในวัย 36 ปี ดูถดถอยลงไปมาก ฟอร์มสับขา กระชาก ลาก เลื้อย ด้วยความคล่องแคล่ว รวดเร็ว ไม่มีให้เห็นแล้ว แต่ทางสโมสรก็ตกลงใจเก็บไว้เล่นฤดูกาลหน้าแล้วด้วย โรเมลู ลูกากู อาจเป็นคนเดียวที่มีสิทธิ์แย่งตำแหน่ง ตอนนี้ตามอยู่ที่ 19 ประตู
ลา ลีกา เป็นอีกลีกที่ใช้ เฮ้ด-ทู-เฮ้ด ในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมานั้น เรอัล มาดริด กับ บารเซโลนา ต่างผลัดกันครอบครองเป็นส่วนใหญ่ แต่นี่อาจเป็นอีกฤดูกาลที่ไม่มีชื่อของทั้ง 2 ในตำแหน่งแช้มพ์ เหลืออีก 10 นัด อั๊ตเลตีโก มาดริด ทีมที่เสียประตูยากมาก รั้งจ่าฝูงมาร่วม 3 เดือนแล้ว มี 66 แต้ม นำ บารซา อันดับ 2 อยู่ 4 คะแนน ส่วน เรอัล มาดริด แช้มพ์เก่า ตามมาเป็นอันดับ 3 มี 60 แต้ม เป็น 3 ทีมที่มีโอกาสลุ้นแช้มพ์ และกองหน้าของทั้ง 3 ทีมนี้ก็กำลังลุ้นตำแหน่งดาวซัลโว ลิโอเน็ล เม้สซี่ 23 ประตู ลูอิส ซูอาเร้ส 19 ประตู และ การิม เบ็นเซมา 17 ประตู
ลีก เอิง ปารี แซ็ง แชรแม็ง เพิ่งตะกายกลับมายึดตำแหน่งจ่าฝูง หลังจากตกบัลลังก์มาเกือบ 2 เดือน ด้วย 63 คะแนนเท่ากับ ลิล แต่ผลต่างประตูเหนือกว่า 15 ประตู ซึ่ง คีเลียน อึมบั๊ปเป กองหน้าดาวยิง บอกว่าที่เหลืออีก 8 นัดนั้นจะไม่ยอมปล่อยให้หลุดไปอีกแล้ว แม้ว่าจะมี ลิล ลิอง และ โมนาโก ด้วยรวมเป็น 4 ทีมที่มีโอกาสคว้าถ้วยใบนี้ไปครอง แต่ เปแอ๊สเช กลับมาเป็นทีมเต็งที่จะได้ครองแช้มพ์เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน ส่วนดาวซัลโว คีเลียน อึมบั๊ปเป นำโด่งที่ 20 ประตู โดยมี เม็มฟิส เดไป ตามมาห่างๆที่ 14 ประตู คีเลียน น่าจะได้ดาวซัลโวเป็นฤดูกาลที่ 3 ติดๆกันเลย เพราะหมอนี่ครองตำแหน่งนี้มาแล้วใน 2 ฤดูกาลล่าสุด โดยเฉพาะฤดูกาลที่แล้วทำได้ 18 ประตูเท่ากับ วิซัม เบ็น เยแดร จาก โมนาโก แต่ ลีก เอิง เขาตัดสินจากการยิงประตูในเกมมากกว่ากัน ซึ่ง คีเลียน ทำได้ล้วนๆจึงได้ตำแหน่งไป แต่ของ วิซัม นั้นเป็นการซัดลูกโทษที่จุดโทษซะ 3 ประตู จึงได้แค่อันดับ 2
ทางตรง 100 เมตรสุดท้าย 5 ลีกดังยุโรป / กษิติ กมลนาวิน ราชวังสัน - ผู้จัดการออนไลน์
Read More
No comments:
Post a Comment