โดยเฉพาะเมื่อเกิดโควิดระลอก 3 สร้างความเสียหายด้านสาธารณสุข สุขภาพของประชาชน เศรษฐกิจ ลามลงลึกถึงปากท้องประชาชน
บริหารจัดการวัคซีนไม่ดี จนเกิดโควิดระลอก 3
ขอให้รัฐบาลยอมรับความจริง อย่างประเทศอังกฤษช่วงแรกระบาดหนักมาก มาถึงวันนี้เริ่มจัดคอนเสิร์ตโดยไม่ใส่หน้ากากอนามัย ทำไมประเทศไทยสถานการณ์ดีๆอยู่ แต่วันนี้สถานการณ์ถึงหนัก
โทษ รมต.คนอื่นไม่ได้ นายกฯรับผิดไปเต็มๆ
เราก็นำเสนอให้รัฐบาลต้องเร่งบริหารจัดการป้องกันโควิด บริหารจัดการวัคซีนและเร่งออกมาตรการเยียวยาเจาะจงผู้ประกอบการ และประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ให้สามารถเลี้ยงชีพอยู่ได้ในยุคข้าวยากหมากแพงและไม่มีเงินเดือน
เพราะระลอกนี้ทำเอาคนจนจุกอกถ้วนหน้า
ยังไม่นับคนตกงานและเริ่มเข้าสู่ฤดูทำนา ปรากฏว่าปัจจัยการผลิตราคาขยับ ปุ๋ยแพงมาก ขอถามว่ารัฐบาลมีมาตรการช่วยเหลือคนกลุ่มนี้อย่างไร
งบประมาณตาม พ.ร.ก.เงินกู้ 1.9 ล้านล้านบาท นำไปใช้อะไรหมด นายกฯต้องชี้แจง ควรรีบเร่งรัดเบิกจ่ายฟื้นฟูเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจโดยเร่งด่วน รวมถึงโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่นด้วย ควรทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ขณะเดียวกันควรดูประเทศคู่ค้าที่เริ่มฟื้นตัว รัฐบาลต้องสนับสนุนด้านต้นทุนนำเข้าวัตถุดิบ เครื่องจักร มาตรการด้านภาษีศุลกากร เปิดประตูให้ผู้ประกอบการไทยส่งออกในราคาที่แข่งขันได้ เพื่อนำรายได้เข้าประเทศ
ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยได้เสนอให้รัฐบาลให้ความสำคัญกับเตียงไอซียู เครื่องช่วยหายใจ บริหารจัดการการตรวจเชื้อ การเข้ารักษาในโรงพยาบาล ปัญหาเตียงเต็มให้เป็นระบบ ใช้ฐานข้อมูลเดียวบริหารจัดการ รายงานสถานะให้ประชาชนทราบต่อเนื่อง
กระบวนการฉีดวัคซีนเป้าหมาย 100 ล้านโดส ภายในปีนี้ก็เช่นกัน เพื่อเร่งฉีด 70% ของจำนวนประชากรในประเทศ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่
ไม่เชื่อมั่นรัฐบาลจะทำสำเร็จตามเป้าหมาย
เหลือไม่ถึง 250 วันก็สิ้นปี เพิ่งฉีดไปได้ประมาณ 1 ล้านโดส นับจากนี้ไปต้องเร่งฉีดให้ได้วันละ 4 แสนโดส ดูแล้วเป็นไปไม่ได้ วันนี้วัคซีนยังไม่มีเลย
ขอให้มีไทม์ไลน์ ลงทะเบียนฉีดวัคซีนที่ไหน เริ่มฉีดได้ที่ไหน ระหว่างรอฉีดควรปฏิบัติตัวอย่างไร หลังฉีดควรปฏิบัติตัวอย่างไร รัฐบาลต้องบอกให้แจ่มแจ้ง และต้องเปิดช่องให้คนไม่มีสมาร์ทโฟนลงทะเบียนได้ด้วย
การเปิดให้ภาคเอกชนนำเข้าวัคซีนก็สำคัญ เป็นการเพิ่มปริมาณวัคซีนในยามวิกฤติ เพื่อเป็นทางเลือกให้ประชาชน แต่จนถึงวันนี้ยังไม่มีเอกชนสักรายนำเข้าวัคซีนได้
ประเด็นเหล่านี้เมื่อเปิดสมัยประชุมสภาปลายเดือน พ.ค.นี้
จะใช้กลไกฝ่ายนิติบัญญัติตรวจสอบและเสนอแนะรัฐบาลต่อไป
เริ่มตั้งแต่วันที่ 27-28 พ.ค. ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 เข้าพิจารณาในวาระ 1 ขั้นรับหลักการ เบื้องต้นพรรคเพื่อไทยเน้นชำแหละโครงสร้างงบประมาณแผ่นดิน ไม่เหมาะสมกับการฟื้นฟูประเทศ
เช่น งบประมาณฝ่ายค้านความมั่นคง โดยเฉพาะกระทรวงกลาโหม ยังมีโครงการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ โครงการซื้อเรือดำน้ำ 2 ลำก็เดินหน้าซื้อต่อ
บ่งบอกจัดงบฯไม่สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ
ขอเกาะติดอย่างใกล้ชิด รักษาผลประโยชน์ของประเทศ
วันนี้ต้องยอมรับว่าคะแนนนิยมของ พล.อ.ประยุทธ์ตกต่ำอย่างมาก หลังจัดการโควิดผิดพลาด ยอดคนติดและผู้เสียชีวิตสูงขึ้น คนป่วยไม่มีที่รักษา สายด่วนลองโทร.ไปดู ไม่มีใครรับสาย แค่จุดนี้ยังแก้ปัญหาสะเด็ดน้ำไม่ได้
ฝ่ายค้านเรียกร้องให้นายกฯยุบสภาทำไม ในเมื่อกระแสความนิยมของนายกฯตกต่ำ ควรเคลื่อนไหวกดดัน ตรวจสอบความล้มเหลวของรัฐบาล เพื่อให้ยุบสภา นายยุทธพงศ์ บอกว่า การบริหารราชการแผ่นดินผิดพลาดเกิดจากผู้นำคนเดียว ยิ่งวันนี้ยึดอำนาจจากรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับโควิดทั้งหมดไป แต่ยังแก้ปัญหาไม่ได้
นายกฯต้องรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว
แค่ลาออกก็จบ ให้คนอื่นขึ้นมาเป็นแทน
ตามระบอบประชาธิปไตย พรรคเพื่อไทยพร้อมหมด จะลาออกหรือชิงยุบสภา นายกฯลาออก เรามี ส.ส.อันดับ 1 ของประเทศย่อมมีความชอบธรรมเป็นพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล
หากนายกฯชิงยุบสภาช่วงโควิดระบาดหนัก
คงลงพื้นที่หาเสียงได้ลำบาก แต่เราก็ไม่กลัว
เพราะผ่านการเลือกตั้ง 5 ครั้งหลังชนะเป็นแชมป์รวด ทั้งระบบบัตรเลือกตั้ง 2 ใบหรือระบบบัตรเลือกตั้งใบเดียว แต่ปรับวิธีการนับคะแนน ทำให้รวม ส.ส.ได้ไม่มากพอจัดตั้งรัฐบาล
ฉะนั้นขอบอก พล.อ.ประยุทธ์ให้จริงใจแก้รัฐธรรมนูญ ปิดสวิตช์ ส.ว.ไม่มีอำนาจเลือกนายกฯ พาประเทศพ้นวิกฤติ คืนอำนาจให้ประชาชน เพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้าไปได้
หากท่านไม่จริงใจ ต่อให้ 2 พรรคร่วมรัฐบาลร่วมแก้รัฐธรรมนูญด้วย หากไม่ปลดล็อกให้ 84 ส.ว.ร่วมด้วย ก็แก้ไม่ได้อยู่ดี เลือกตั้งกลับมาก็เหมือนเดิม ส.ว.มี
อำนาจเลือกนายกฯ
แต่อย่าลืมพรรคเพื่อไทยก็ผ่านร้อนผ่านหนาวมา 20 กว่าปี มีฐานเสียงแน่น แบรนดิ้งแข็ง มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ จับต้องได้ ประชาชนเชื่อมั่นสามารถปฏิบัติตามนโยบายได้ แก้วิกฤติเศรษฐกิจของประเทศไทยได้ทุกครั้ง
ยิ่งเมื่อปรับเปลี่ยนโครงสร้างพรรค ได้คนรุ่นใหม่เข้ามาเสริมทัพ ตั้งคณะทำงานชุดต่างๆในพรรค โดย เฉพาะคณะทำงานด้านเศรษฐกิจวางนโยบายฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิด เชื่อมั่นประชาชนจะให้ความไว้วางใจ
ฝ่ายค้านเตรียมยื่นญัตติเปิดอภิปรายเกี่ยวกับการแก้ปัญหาโควิด เพื่อระดมความเห็นจากภาคส่วนต่างๆ เสนอให้รัฐบาลนำไปปรับใช้หาทางออกจากวิกฤติโควิด ดีกว่าปล่อยให้เสนอไปคนละทิศคนละทาง นายยุทธพงศ์ บอกว่า ที่ผ่านมารัฐบาลไม่กล้าเปิดพิจารณาญัตติสำคัญในสมัยวิสามัญ เพราะนายกฯไม่กล้ามาสภา
แต่ฝ่ายค้านก็ทำหน้าที่เต็มที่ เป็นที่พึ่งของประชาชน
เห็นได้จากบทบาทการยื่นญัตติซักฟอก 2 ครั้งที่ผ่านมา มีรัฐมนตรีออกจากตำแหน่ง หลายคนมีคดีตามมา
ครั้งนี้ในส่วนพรรคเพื่อไทยคงต้องใช้กลไกคณะทำงานของพรรค คณะกรรมาธิการสามัญชุดที่มี ส.ส.พรรคเพื่อไทย เป็นประธาน ประสานเชื่อมโยงกันภายใน เพื่อตรวจสอบรัฐบาล
หลังพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ฝ่ายค้านคงหารือถึงจังหวะการยื่นญัตติอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติ และยื่นญัตติซักฟอกรัฐบาลตามมา ซึ่งเป็นการทำหน้าที่ของฝ่ายค้านในกระบวนการการตรวจสอบขั้นสูงสุด ผู้ที่ได้รับประโยชน์คือประชาชนและประเทศชาติ
เปิดสภาคราวนี้ฝ่ายค้านต้องตรวจสอบเต็มที่
พุ่งเป้าตรวจสอบคนเดียว คือ พล.อ.ประยุทธ์.
ทีมการเมือง
เปิดเวทีสภาผ่าทางตัน : เสนอทางออกประเทศผ่านวิกฤติโควิด - ไทยรัฐ
Read More
No comments:
Post a Comment