Rechercher dans ce blog

Sunday, October 24, 2021

เดินมาถูกทาง - ไทยรัฐ

โชว์ฟอร์มได้สุดติ่งกระดิ่งแมวจริงๆ สำหรับ “สิงห์บลูเชลซี จ่าฝูงพรีเมียร์ลีก ที่บรรจง ซัดประตูเอาชนะนอริช ซิตี้ ไปได้ยับเยิน 7–0 เรียกได้ว่าเป็นสกอร์ที่มากที่สุดในซีซันนี้

บอกได้เลยว่าก่อนแข่งไม่มีใครคิดว่าเชลซี จะยิงกระจุยกระจายขนาดนี้ แม้ว่าขุมกำลังจะเหนือ กว่าหลายช่วงตัว แต่การหายไปของ 2 กองหน้าอย่างโรเมลู ลูกากู กองหน้าทีมชาติเบลเยียม และ ติโม แวร์เนอร์ ดาวยิงทีมชาติเยอรมนี จะส่งผลให้ ไม่มีกองหน้าแท้ๆอยู่กับทีมเลย

อย่างไรก็ตาม โธมัส ทูเคิล และผู้เล่นของเชลซี ทุกคนก็แสดงให้เห็นแล้วว่าจะมีหรือไม่มีกองหน้า ตัวเป้าพวกเขาก็ยังจบสกอร์ได้ถล่มทลายเหมือนเดิม

แต่ที่น่าสนใจคือ 6 จาก 7 ประตูของเชลซี ในเกมนี้มาจากนักเตะอังกฤษล้วนๆ ไม่ว่าจะเป็น แฮตทริกของเมสัน เมาท์ หรือการยิงคนละประตูของ คัลลัม ฮัดสัน โอดอย, รีซ เจมส์ และเบน ชิลล์เวลล์

ซึ่งนานมากแล้วที่ได้เห็นนักเตะอังกฤษโชว์ ฟอร์มได้ดีและยึดตำแหน่งตัวจริงในทัพ “สิงห์บลู” มากมายแบบนี้ เพราะก่อนหน้านี้นับตั้งแต่ “เสี่ยหมี” โรมัน อับราโมวิช เข้ามาซื้อทีมก็พยายามดึงนักเตะ ชื่อดังของโลกเข้ามาร่วมทีมมากมาย จนทำให้ “สิงห์บลู” กลายเป็นทีมรวมดารานานาชาติ

แต่จะว่าไปไม่ใช่แค่ตอนเสี่ยหมีเข้ามาซื้อกิจการ ก่อนที่อับราโมวิชจะเข้ามาซื้อทีมในปี 2003 เชลซีก็สร้างปรากฏการณ์กลายเป็นทีมแรกในลีกผู้ดีที่ไม่ส่งนักเตะอังกฤษลงสนาม 11 ตัวจริงแม้แต่คนเดียวเป็นครั้งแรกในรอบ 111 ปี 3 เดือน 17 วัน นับตั้งแต่ลีกผู้ดีก่อตั้งขึ้น

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในเกมบ็อกซิ่งเดย์ ปี 1999 เชลซีออกไปเยือนเซาแธมป์ตัน ที่เซนต์ แมร์รี ซึ่งเกมนั้น จิอันลูกา วิอัลลี กุนซือ “สิงโตน้ำเงินคราม” ได้จัด 11 ตัวจริง ไม่มีนักเตะเลือดผู้ดี แม้แต่คนเดียว

เรียกได้ว่าตอนนั้นมีเสียงอื้ออึงและก่นด่าประปราย บางคนเรียกได้ว่าถึงคราวล่มสลายของ บอลอังกฤษเลยก็ว่าได้เมื่อสโมสรชื่อดังเลือกนักเตะ ต่างชาติมากกว่านักเตะท้องถิ่น

แต่เหตุการณ์ของเชลซียังเทียบไม่ได้กับการจัดทีมของอาร์แซน เวงเกอร์ นายใหญ่ของอาร์เซนอล ในปี 2005 ที่ส่งรายชื่อในเกมพบกับ เบิร์นลีย์ ไม่มีนักเตะผู้ดีแม้แต่คนเดียวในรายชื่อ ตัวจริงและตัวสำรอง

การยิงประตูได้ของนักเตะอังกฤษทั้งหมดรวมกัน 6 จาก 7 ประตู หาได้ค่อนข้างยากเลยทีเดียว โดยเฉพาะในยุค 5-6 ปี ให้หลังนี้ โดยเฉพาะ ทีมอย่าง “สิงห์บลู”

เรียกได้ว่าสิ่งนี้เป็นสัญญาณที่ดีว่าแข้งอังกฤษ แข็งแกร่งขึ้น โดยเฉพาะดาวรุ่งที่ได้พัฒนาฝีเท้าจากบรรดานักเตะระดับท็อปสตาร์ที่ย้ายมาเล่นในพรีเมียร์ลีกมากมาย

แม้ว่าจะมีคนค้านว่านักเตะต่างชาติที่ย้ายเข้ามาเล่นในลีกมากมายทำให้แข้งดาวรุ่งท้องถิ่นไม่ได้แจ้งเกิด ซึ่งตอนนี้ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าการมีนักเตะ แข็งแกร่งมากก็เป็นเรื่องดี เพราะทำให้เด็กๆต้องปรับตัว ขยันฝึกซ้อมมากขึ้น เพื่อที่จะได้สู้แย่งชิง ตำแหน่งจากนักเตะต่างชาติ

ไม่ใช่แค่เชลซีที่มีดาวรุ่งที่แข็งแกร่งนะ ทั้ง ลิเวอร์พูล, อาร์เซนอล หรือ 2 ทีมดังจากแมนเชสเตอร์ ทั้งซิตี้ กับยูไนเต็ด ก็มีนักเตะดาวรุ่งฝีเท้าดีขึ้นมา มากมาย อาทิ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์, เอมิล สมิธ โรว์, บูกาโย ซากา, เมสัน กรีนวูด, มาร์คัส แรชฟอร์ด และฟิล โฟเดน

คนที่ยิ้มที่สุดคงไม่พ้น แกเร็ธ เซาธ์เกต นายใหญ่ “สิงโตคำราม” อังกฤษ ที่จะมีขุมกำลังที่ แข็งแกร่งให้เลือกมากมายเพื่อไปลุยศึกฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์

แม้ว่าการเป็นแค่พระรองในยูโร 2020 จะ ทำให้เศร้ากันไปทั้งประเทศ

แต่ไม่แน่ในปีหน้าแข้งผู้ดีอาจจะสวมบท เป็นพระเอกก็ว่าได้!!!

มะระหวาน

Adblock test (Why?)


เดินมาถูกทาง - ไทยรัฐ
Read More

No comments:

Post a Comment

นักวิชาการ มธ. เสนอกลไกทางเลือกแก้ PM 2.5 - ไทยโพสต์

นักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อม ม.ธรรมศาสตร์ แนะ ควรให้ ‘อำนาจสั่งการ’ คกก.อากาศสะอาด ดำเนินมาตรการข้ามหน่วยงาน พร้อม ‘บูรณาการงบประมาณ’ ตามภารกิจ...