จากตอนที่แล้ว โจเซฟ บอเรลล์ ผู้แทนระดับสูงด้านนโยบายต่างประเทศและความมั่นคงและรองประธานคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป ยังแสดงจุดยืนเรื่องความเท่าเทียมทางเพศด้วยว่า แม้ปี 2563 จะเป็นปีที่ไวรัสโควิด-19 เริ่มระบาดไปทั่วโลก แต่งบประมาณทางทหารของโลกในปีนั้นยังคงนำหน้างบประมาณสาธารณสุข
ถ้าเราต้องการฟื้นฟูความเสียหายจากโควิด-19 อย่างยั่งยืน เราต้องสนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศให้มากขึ้นด้วย นั่นคือวัตถุประสงค์ของแผนปฏิบัติการ The EU Gender Action Plan III เพื่อส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างหญิงชายของสหภาพยุโรปฉบับใหม่ ซึ่งส่งเสริมภาวะผู้นำและการมีส่วนร่วมอย่างมีความหมายของผู้หญิง เด็กผู้หญิง และเยาวชนทั้งในด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม ตลอดจนด้านสันติภาพและความมั่นคง แผนนี้ได้รับการสนับสนุนด้านงบประมาณทั้งสิ้น 79,500 ล้านยูโรสำหรับการดำเนินงานในต่างประเทศของอียูใน 7 ปีข้างหน้า
ถึงตอนนี้ทีมยุโรปจะเป็นผู้ให้เงินสนับสนุน ด้านการศึกษามากถึงครึ่งหนึ่งของความช่วยเหลือที่มีทั่วโลก แต่เรายังมีแผนที่จะเพิ่มเงินสนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศผ่านการศึกษาที่มีคุณภาพในทุกระดับ การตกลงบริจาคเงิน 1,700ล้านยูโรแก่กองทุนการศึกษาโลกเมื่อเดือน ก.ค. เพื่อปฏิรูปการศึกษาในกว่า 90 ประเทศ คือส่วนหนึ่งของแผนการนี้ ภายในปี 2568 ร้อยละ 85 ของการดำเนินงานในต่างประเทศของอียูในทุกภาคส่วนจะนำไปสู่ความเท่าเทียมทางเพศและการเพิ่มขีดความสามารถของผู้หญิง
การสนับสนุนการศึกษาโดยเฉพาะการศึกษาของเด็กผู้หญิงจะมีบทบาทสำคัญ สหภาพยุโรปจะร่วมมือกับประเทศพันธมิตรตลอดช่วงการแพร่ระบาด เพื่อลดผลกระทบที่มีต่อเด็กและเพื่อให้พวกเขากลับเข้าโรงเรียนได้อย่างปลอดภัย
เป็นเรื่องสำคัญมากที่เราต้องทำให้การพัฒนามนุษย์กลับสู่เส้นทางเดิมก่อนโควิด เพื่อให้ทุกประเทศสามารถบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนภายในปี 2573 ได้โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ขณะที่ความร่วมมือระหว่างประเทศคือหัวใจสำคัญของการรับมือกับวิกฤติ หากเราต้องการสร้างโลกหลังโควิด-19 ที่มีความเสมอภาคและความหลากหลายมากกว่าโลกในปัจจุบันให้แก่ลูกหลานของเรา เราจะต้องขจัดสาเหตุของความเหลื่อมล้ำและอคติทางเพศ เพื่อเปิดทางสู่การเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืน.
อียู-เท่าเทียมทางเพศ (2) - ไทยรัฐ
Read More
No comments:
Post a Comment