ศึกสายเลือด (เทียม) สงบลงชั่วคราวปฏิบัติการล้างไพ่ ไล่รื้อนั่งร้าน “ผู้กองนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า แม่บ้านพรรคแกนนำรัฐบาล พลังประชารัฐ ล้มไม่เป็นท่า
“กลุ่มสามมิตร พลัส” ภายใต้การนำของ “สมศักดิ์ เทพสุทิน-สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ-อนุชา นาคาศัย” และแนวร่วมอย่าง “สุชาติ ชมกลิ่น-สันติ พร้อมพัฒน์-ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์”
ไม่สามารถปราบกบฏเอาใจ นายกฯประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เป็นผลสำเร็จ
มีอันหน้าแตกเป็นริ้วปลาย่างไปตามๆกัน
ด้วยบารมีของ “บิ๊กบราเธอร์” ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้า พรรค พปชร. ที่ยังคงเชื่อใจในตัว “น้องรักคนใหม่” อยู่เต็มเปี่ยม จึงเลือกถือหางอุ้มกันไปต่อ
เรื่องของเรื่องก็มาจากทีมคนใกล้ชิดนายกฯพยายามป้อนข้อมูล “ปราบกบฏให้สิ้นซาก” ประกอบกับแรงแค้นในการชิงการนำกับกลุ่มการเมืองในพลังประชารัฐที่มีมาเป็นระยะ
เลยได้รับไฟเขียวจาก “บิ๊กตู่” ผนึกกำลังกับ “พี่รอง” อนุพงษ์ เผ่าจินดา เล่นกันแบบ 2 รุม 1 หวังจะรวบหัวรวบหางให้ “พี่ใหญ่” ต้องจำยอมเหมือนหลายครั้งที่เคยทำมา
แต่คราวนี้ “บิ๊กป้อม” รู้ทันกับเกมแทงข้างหลังทะลุถึงหัวใจ
ถ้ายอมสละมือขวา สลัดทิ้ง “ผู้กองนัส”
ก็เลิกพูดถึงที่อยู่ที่ยืนทางการเมืองของตัวเอง ที่จะไม่เหลืออะไรอีกแล้ว
“พี่ใหญ่” เลยต้องทุบโต๊ะ ท้าทายพร้อมจะโบกมือลาทางการเมือง ใช้ภาษายุคพ่อขุน วัดใจกันไปเลยกับ 2 ป.
เป็นที่รู้กันดีว่าทั้ง “บิ๊กป๊อก-บิ๊กตู่” เก่งกาจแค่เรื่องวางแผนการรบแบบทหาร
ใครไม่ยอมสวามิภักดิ์ หรือพลีกายถวายหัวให้ ก็ต้องพังกันไปข้าง
แต่ถ้าพูดถึงเกมการเมืองแล้วยังห่างชั้น “บิ๊กป้อม” ที่มีสายสัมพันธ์โยงใยกับผู้คนไปหลายวงการ
อาจด้วยลักษณะนิสัยส่วนตัวที่เป็นคนเพื่อนฝูงเยอะ ช่วยเหลือคนไว้มาก บารมีส่วนตัวจึงมีมาก
ขณะที่อีก 2 ป.ที่เติบโตตามหลังกันมา แถมสายสัมพันธ์นอกวงการทหารยังอยู่ในวงจำกัด
ที่ผ่านมาก็มักใช้วิธีการบริหารอำนาจแบบ “เสร็จนาฆ่าโคถึกฯ”
เลยไม่มีคนให้เชื่อใจได้เต็มร้อย ก็มีแค่คนใกล้ชิดอยู่ไม่กี่คน
หากคิดหาญกล้าออกไปตั้งพรรคใหม่ โดยไม่มี “พี่ใหญ่” เป็นแบ็กอัปให้ บอกเลยไม่มีทางรอด
ไม่ทันความรอบจัดของบรรดานักการเมืองที่ห้อมล้อมอยู่รอบตัวได้
ทำให้วันนี้ความสัมพันธ์ใน 3 ป.อยู่ในภาวะกระอักกระอ่วนพิกล
ความแนบแน่น ความไว้เนื้อเชื่อใจ มันถดถอยลงไปทุกวัน
ต้องอยู่กันไปเพื่อประสานประโยชน์ร่วมกัน
ส่วนกลุ่มสามมิตรหลังเปิดหน้าชกชัดเจนขนาดนี้ อนาคตคงยากที่จะอยู่ร่วมชายคากันได้
ซึ่งก็มีอีกทางเลือก คือเบนหัวเรือกลับไปสังกัดค่ายเก่า ภูมิใจไทย
แต่ก็ต้องดูอีกว่า จะยอมทนโดนกดอยู่ภายใต้เงาของ “ผู้นำทางจิตวิญญาณ” อย่าง “เนวิน ชิดชอบ” ได้หรือไม่
เพราะที่ออกมาคราวที่แล้วก็ด้วยปมประเด็นนี้แหละ
ทำไปทำมาจะกลายเป็นกลุ่มกบฏพ่ายศึกซะเอง.
“เพลิงสุริยะ”
ทางไปต่อของ “สามมิตร” - ไทยรัฐ
Read More
No comments:
Post a Comment