เห็นปั่นป่วนจนต้องรีบออกมาดักทาง คงเพราะประเมินไปข้างหน้า โอกาสไปถึงทางตันทางการเมืองมีสูง
ไม่แปลกที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ออกมาเปิดประเด็น ได้กลิ่นโชยรัฐประหารกันอีกแล้ว
เพราะตามที่เห็น สถานการณ์อำนาจของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม อยู่ในจุดที่ง่อนแง่นเต็มที อันเนื่องมาจากศึกเดือดในค่ายพลังประชารัฐ
หลังจากเครือข่ายผู้กองคนดัง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เล่นเกมไวยกไพร่พลไปอยู่ค่ายใหม่ 21 เสียง ถึงแม้จะบอกว่ายังเป็นพรรคแนวร่วมพลังประชารัฐ อยู่ในขั้วสนับสนุนรัฐบาล
แต่เอาเข้าจริงใครจะเชื่อ ในเมื่อที่ผ่านมาศึกผู้นำ–ผู้กอง ล่อกันเละ
ถึงขั้นที่วันนี้ 2 เสืออยู่ร่วมถ้ำกันไม่ได้
ยิ่งดูทีท่าผู้นำ ก็ไม่ได้ยอมอ่อนข้อตามแรงกดดัน ประกาศไม่ยุบสภา และไม่ยอมโดนขี่ ปรับ ครม. ตามที่อีกฝั่งกดดัน ยื่นเงื่อนไขขอโควตาเก้าอี้รัฐมนตรี
มีโอกาสเปิดศึกล่อกันอีกหลายยก
เพียงแต่ถ้ามีเหตุตื่นเต้นฉุกเฉิน ก็น่าจะระทึกกันในทางยาว อย่างน้อยๆก็อีก 2 เดือนกว่า ค่อยมาสำรวจกลิ่นโชยกันอีกที เพราะเมื่อกางปฏิทิน สำรวจโปรแกรมการเมือง มีคิวที่ “บิ๊กตู่” ต้องเผชิญเหตุ
สุ่มเสี่ยงและปั่นป่วนน่าจะเป็นสมัยประชุมหน้า ปักหมุดตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค. เป็นต้นไป ที่เซียนๆการเมืองวิเคราะห์ตรงกัน
จะเริ่มเข้าสู่โหมดรบพุ่งทางการเมืองเต็มรูปแบบ
เพราะนอกจากกฎหมายลูกเกี่ยวกับการเลือกตั้งใกล้คลอด พร้อมเลือกตั้ง ยังมีโปรแกรมสำคัญ ทั้งการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล–รายการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2566
2 คิวใหญ่ที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ต้องอาศัย ส.ส.ยกมือสนับสนุน
ยังไม่รวมที่จ่อคิวแทรก การรวบรวมรายชื่อเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272 ลดอำนาจ ส.ว.ในการโหวตเลือกนายกฯ ที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. เดินสายรณรงค์ขอเสียงแนวร่วมไว้เป็นหัวเชื้อแล้ว
ถึงเวลายื่นเข้าสภาเมื่อไหร่ก็มันหยดเมื่อนั้น
โดยเฉพาะในห้วงปลายสมัยรัฐบาล ยิ่งน่าจับตา ทั้งท่าทีของพรรคร่วมรัฐบาล ภูมิใจไทย–ประชาธิปัตย์ ยังจะยอมเป็นเบี้ยล่างให้ “บิ๊กตู่” คงอำนาจ 250 ส.ว.เอาไว้ เพื่อเป็นตัวช่วยผู้นำอีกรอบ หรือไม่
หรือแม้แต่ในหมู่ ส.ว.เอง ก็เริ่มเห็นชัดแล้วว่า ผู้นำเริ่มคอนโทรลเกมได้ไม่หมด
เสียงเชียร์ชักเปลี่ยนเป็นเสียงแช่งกันไม่น้อยเหมือนกัน
โอกาสเกมพลิก คิวแก้รัฐธรรมนูญอาจรวมเสียงเข้าเป้า “หั่นอำนาจ ส.ว.เลือกนายกฯ” สำเร็จก็เป็นได้
ยังไม่รวม สถานะอำนาจผู้นำที่จะถึงคิวต้องตีความ “ดำรงตำแหน่ง 8 ปี” ตามข้อห้ามรัฐธรรมนูญที่จะถึงกำหนด 24 ส.ค.นี้
อย่างน้อย “บิ๊กตู่” ก็น่าจะลากอำนาจต่อได้อีกพักใหญ่หลายเดือน
วันนี้คนการเมืองทั่วไปถึงทำฟึดฟัดคัดจมูก “ไม่ได้กลิ่น” หรือบางรายก็อ้างจากประสบการณ์ที่เคยเจอ “ถ้าปฏิวัติจริง ไม่มีกลิ่นโชย” ช่วยกันดับไฟ จบข่าวปฏิวัติ
เพียงแต่ในทางการเมืองเส้นทางยาวประมาทไม่ได้ อะไรๆเป็นไปได้เสมอในประเทศไทย
เพราะประวัติศาสตร์บอกชัดว่าเกิดเหตุ แอ่นแอ๊นถี่ รัฐประหารจนติดอันดับโลก
อย่างไรก็ดี เหตุฉุกเฉินที่ทุกคนทุกฝ่ายไม่อยากให้เกิดขึ้น วันนี้สามารถเลี่ยงได้
โดยเฉพาะถ้าคนในวงอำนาจ นักการเมือง ไม่สร้างเงื่อนไขให้เข้าทาง
ไม่ว่าจะเป็นผู้นำ–ผู้กอง บรรดาพี่เสือรัฐบาล 3 ป. ถ้ายังมัวมุ่งแต่เรื่องหมากเกมเปิดศึกชิงอำนาจกันไม่หยุดหย่อน อาจพาสถานการณ์ไปสู่ทางตัน
และนั่นก็เท่ากับร่วมกันลากบ้านเมือง ถอยหลังลงคลอง.
ทีมข่าวการเมือง
พี่เสือพาเข้าทางตัน? - ไทยรัฐ
Read More
No comments:
Post a Comment