ตลาดรถยนต์มือสองคึกคัก โอกาสธุรกิจ Used Car ทางเลือกผู้บริโภค - ผู้จัดการออนไลน์

ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - ยอดขายรถยนต์มือสองยังคงเติบโตสวนกระแสโควิด-19 เนื่องมาจากผู้บริโภคหันมาให้ความสนใจกับการเดินทางที่ปลอดภัย ซึ่งการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล เป็นทางออกที่คนส่วนใหญ่หันมาใช้กัน และรถยนต์มือสองก็เป็นทางเลือกที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายกว่าการซื้อรถใหม่

โดยสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้ว เปิดเผยมูลค่าตลาดของธุรกิจรถยนต์ใช้แล้ว มีมูลค่าประมาณ 80,000,000,000 บาท ในปีที่ผ่านมา เติบโตโดยประมาณ 10% - 15% สำหรับรถยนต์นั่ง และขยายตัว 1.5% ถึง 3.5% สำหรับรถบรรทุก และเมื่อเข้าสู่ปี 2565 ราคารถมือสองของไทยยังมีโอกาสปรับขึ้นต่อเนื่อง

ส่วนภาพรวมตลาดรถยนต์มือสองในปีที่ผ่านมา แม้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด แต่กลับทำให้เกิดความต้องการรถยนต์ส่วนตัวเพิ่มมากขึ้น กล่าวได้ว่าสถานการณ์โควิดสร้างมิติใหม่ให้กับธุรกิจรถยนต์มือสอง จากความต้องการใช้รถยนต์ส่วนตัวเพิ่มขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงการใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะ

สอดคล้องกับข้อมูลจากศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี (ttb analytics) ประเมินว่าตลาดรถยนต์ในประเทศปี 2565 นี้มีแนวโน้มสดใส โดยคาดว่ายอดขายรถยนต์ใหม่ในประเทศ จะทยอยกลับมาสู่ระดับปกติที่ 8.7 แสนคัน หลังจากปี 2564 อยู่ที่ 7.65 แสนคัน ลดลง 3.3% จากสถานการณ์โควิด-19 และตลาดที่มีแนวโน้มเติบโตได้ดี คือตลาดรถยนต์มือสองที่ได้เปรียบเรื่องราคาและคุณสมบัติที่ใกล้เคียงกับรถใหม่

นายพัฒนเดช อาสาสรรพกิจ กูรูด้านรถยนต์และผู้เชี่ยวชาญด้านรถยนต์มือสอง เปิดเผยว่าปัจจัยหนึ่งมาจากผู้ประกอบการรถยนต์มือสอง ได้มีการพัฒนาและยกระดับการขาย การให้บริการทำให้ลูกค้ามั่นใจและเข้าถึงได้ง่ายขึ้น

ส่งผลให้ทิศทางตลาดรถยนต์มือสองในปี 2565 จะยังมีแนวโน้มที่ดี ผู้บริโภคยังคงมีความต้องการซื้ออย่างต่อเนื่อง เพราะได้เปรียบเรื่องราคาเมื่อเทียบกับรถใหม่ อีกทั้งรถยนต์มือสองในปัจจุบันมีอายุการใช้งานไม่มาก ยังอยู่ในเงื่อนไขการรับประกันทำให้ลูกค้ามีทางเลือกและมั่นใจในการซื้อ รถมือสองมากขึ้น

ต้องยอมรับว่า นับตั้งแต่เกิดสถานการณ์โควิด-19 ธุรกิจลิสซิ่งได้ทำการ พักหนี้และชะลอการยึดรถตามมาตรการต่างๆ ของรัฐ ภายใต้กำกับของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แต่ก็มีรถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ และรถประเภทอื่นๆ สภาพรถใหม่ป้ายแดง ใช้งานน้อย ถูกไฟแนนซ์ยึดแล้วนำไปขายทอดตลาดเพื่อนำเงินที่ได้มาหักลบกลบหนี้เป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ การแข่งขันของธุรกิจรถยนต์มือสอง ในปี 2565 จะมีความรุนแรงมากขึ้น เพราะผู้ประกอบการเดิมต้องแข่งขันทั้งในเรื่องของตัวสินค้าที่ต้องคัดคุณภาพที่ดีมากขึ้นและช่องทางในการทำตลาด เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ในระหว่างผู้ประกอบการเองก็จะมีการแบ่งกันชัดเจนจะเห็นความแตกต่างมากขึ้น ในขณะที่ผู้ประกอบการใหม่ที่เข้ามาโดยเน้นการทำตลาดแบบออนไลน์เป็นหลัก เช่น Carsome, Car24 และ Carro เป็นต้น

“ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับตลาดรถยนต์มือสอง คือเรื่องความน่าเชื่อถือของผู้ประกอบการ สภาพรถและราคา รวมไปจนถึงนโยบายการจัดสินเชื่อของสถาบันการเงินและนโยบายภาครัฐทั้งนี้พบว่าผู้นำในตลาดรถยนต์มือสอง จะเป็นกลุ่มผู้ประกอบการรายใหญ่ที่มียอดขายเดือนละ 100 คันขึ้นไป มีเงินทุนเพียงพอ มีรถยนต์ในสต๊อกจำนวนมากเพียงพอให้ลูกค้าเลือกตามความต้องการ มีบุคลากรที่ชำนาญ และที่สำคัญคือมีพันธมิตรเครือข่ายธุรกิจและสถาบันการเงิน สนับสนุนช่วยเหลือในการทำธุรกิจ” นายพัฒนเดช อาสาสรรพกิจ กูรูด้านรถยนต์และผู้เชี่ยวชาญด้านรถยนต์มือสอง ระบุ

และสิ่งที่น่าจับตามอง คือ แพลตฟอร์มออนไลน์ที่เข้ามามีบทบาทในการทำธุรกิจตลาดรถยนต์มือสองมากขึ้น อำนวยความสะดวกทั้งในด้านของข้อมูลและช่องทางการขาย ซึ่งรถยนต์มือสองที่นำเข้าสู่ตลาดจะถูกคัดสรร และมีคุณภาพมากกว่าเดิม เป็นประโยชน์ต่อผู้ซื้อสามารถเปรียบเทียบราคาได้ด้วยตัวเอง

ประเด็นนี้สอดคล้องกับความคิดเห็นของ นายภิญโญ ธนวัชรภรณ์ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถใช้แล้ว ระบุว่าพฤติกรรมผู้บริโภคในช่วงโควิด ว่าชีวิตติดออนไลน์มากขึ้น และแนะนำให้ผู้ประกอบการปรับตัว วางแผนการตลาดอย่างรัดกุม และชี้ให้เห็นว่าการทำตลาดออนไลน์เป็นเรื่องสำคัญ สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคในการเลือกซื้อรถได้และยังเป็นเครื่องมือในการสร้างแบรนด์ เพิ่มมูลค่าของสินค้าและบริการ รวมทั้งสร้างความมั่นใจและน่าเชื่อถือให้กับผู้ประกอบการได้ด้วย

อย่างไรก็ดี ปัจจุบันยอดการซื้อขายในตลาดรถยนต์มือสองมีตัวเลขประมาณ 1.3 ล้านคัน ในประเทศไทย เป็นโอกาสทางธุรกิจของรถใช้แล้วที่มีแนวโน้มการขยายตัวสูง ล่าสุด บริษัท อ็อคชั่น เอ็กซ์เพรส ซึ่งมีผู้ถือหุ้น บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด 49% บริษัท โตโยต้า ทูโช ไทย โฮลดิ้งส์ จำกัด 41% และบริษัท จี.แอล. แมเนจเม้นท์ จำกัด 10% จัดตั้ง อ็อคชั่น เอ็กซ์เพรส (Auction Express หรือ AX) บริษัทประมูลรถยนต์ออนไลน์รูปแบบใหม่ รองรับพฤติกรรมผู้บริโภคที่ใช้ช่องทางออนไลน์ในการซื้อขายมากขึ้น รวมทั้ง เป็นการตอบสนองความต้องการของตลาดรถยนต์มือสองในประเทศที่กำลังเติบโตขึ้นเป็นอย่างมาก

โดยขยายธุรกิจให้บริการประมูลรถยนต์ออนไลน์รูปแบบใหม่ ซึ่งจะทั้งรายใหญ่ (B2B) และรายย่อย (B2C) โดยตั้งเป้ายอดรถประมูลไม่น้อยกว่า 9,200 คันต่อปี และภายในระยะเวลา 4 ปี หรือ ปี 2568 จะต้องมีรถประมูลไม่น้อยกว่า 32,000 คัน เป็นการรองรับแนวโน้มธุรกิจรถใช้แล้วที่ขยายตัวมากประกอบกับเพื่อรองรับพฤติกรรมผู้บริโภคที่ใช้ช่องทางออนไลน์ในการซื้อขายมากขึ้น จากปัจจุบันการซื้อขายในตลาดรถยนต์มือสองมีตัวเลขประมาณ 1.3 ล้านคันต่อปี
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์ว่า ปี 2565 ราคารถยนต์มือสองยังมีโอกาสปรับขึ้นต่อเนื่องจากกำลังซื้อที่เริ่มกลับมา แม้จะมีปริมาณรถยึดที่ทยอยเข้ามาตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังปี 2564 จะเป็นปัจจัยฉุดดึงราคาอยู่ก็ตาม โดยการซื้อขายรถมือสองของไทยจะเปลี่ยนรูปแบบเป็นออนไลน์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นลานประมูลออนไลน์ เว็บประกาศซื้อขายรถ และ Social Commerce เช่น Facebook รวมถึงสตาร์ทอัพแพลตฟอร์มซื้อขายรถออนไลน์
นอกจากนี้ มองว่าตลาดรถยนต์มือสองไทยหลังโควิดมีโอกาสปรับราคาเพิ่มขึ้นได้แต่ไม่มาก เพราะอาจมีปริมาณรถยึดเข้าสู่ตลาดอีกมากในอนาคต ขณะที่รูปแบบการซื้อขายมีแนวโน้มจะพัฒนาไปสู่การใช้รูปแบบออนไลน์มากขึ้นในระยะยาวเพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดและธุรกิจเองก็มีการพัฒนาขึ้นปิดจุดอ่อนในอดีต

ทั้งนี้ การมาของรถยนต์ BEV จะเป็นอีกปัจจัยที่ผู้ประกอบการต้องเตรียมวางแผนรับมือ แม้ในช่วงแรกจะยังไม่กระทบกับรถยนต์มือสองที่เป็นรถใช้น้ำมันมากนัก เนื่องจากรถยนต์ BEV ยังไม่เป็นที่นิยมในตลาดส่วนใหญ่ แต่เมื่อตลาดรถยนต์ BEV มือหนึ่งมีปริมาณเพิ่มขึ้นและเป็นที่ยอมรับในตลาด ย่อมส่งผลกระทบกับความต้องการรถมือสองที่ใช้น้ำมันในอนาคต

สำหรับธุรกิจรถยนต์มือสองมีกลไกยกระดับมาตรฐานรองรับโดยสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้ว ซึ่งได้กำกับดูแลโดยในด้านการพัฒนาวิชาชีพของผู้ประกอบการภายในประเทศให้มีมาตรฐานและสามารถแข่งขันได้ในระดับสากล และดำเนินการสร้างความน่าเชื่อถือของผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้วมาอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุดกับโครงการรถมือสองคุณภาพผ่านการตรวจสอบแล้ว ประสานความร่วมมือกับไอคาร์เอเชีย จะมีส่วนช่วยยกระดับให้ธุรกิจซื้อ ขาย รถยนต์มือสองให้มีความน่าเชื่อถือ ส่งเสริมจรรยาบรรณในการดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใส ปฏิบัติต่อเครือข่าย คู่ค้า และผู้บริโภคด้วยความเป็นธรรม ซึ่งเป็นโครงกานที่ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนความร่วมมือในการคุ้มครองผู้บริโภคระหว่างสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคกับสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้ว

สรุปได้ว่าธุรกิจรถยนต์มือสองเป็นโอกาสของนักลงทุน เป็นทางเลือกที่คุ้มค่าแก่ผู้บริโภคในยุคนี้

Adblock test (Why?)

ตลาดรถยนต์มือสองคึกคัก โอกาสธุรกิจ Used Car ทางเลือกผู้บริโภค - ผู้จัดการออนไลน์
Read More