เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศ ระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยการส่งใบสั่งทางไปรษณีย์ พ.ศ. 2565 โดยที่มาตรา 14 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 12) พ.ศ. 2562 บัญญัติให้กรณีเจ้าพนักงานจราจรที่ออกใบสั่ง ไม่พบตัวผู้ขับขี่ ให้ติด ผูก หรือแสดงใบสั่งไว้ที่รถที่ผู้ขับขี่สามารถเห็นได้ง่าย
หากไม่สามารถติด ผูก หรือแสดงใบสั่งไว้ที่รถได้ไม่ว่าด้วยเหตุใด ให้ส่งใบสั่งพร้อมด้วยพยานหลักฐานโดยทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับไปยังภูมิลำเนาของเจ้าของรถหรือผู้ครอบครองเพื่อให้ชำระค่าปรับภายในระยะเวลาที่กำหนดในใบสั่ง ทั้งนี้ ให้ใช้บังคับกับกรณีที่เจ้าพนักงานจราจรพบการกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยจราจรทางบกหรือกฎหมายอื่นอันเกี่ยวกับรถหรือการใช้ทาง แต่ไม่อาจทราบตัวผู้ขับขี่ โดยอนุโลม
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 140 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 12) พ.ศ. 2562 ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จึงออกระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยการส่งใบสั่งทางไปรษณีย์ พ.ศ. 2565”
ข้อ 2 ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป (มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 13 ก.ค. 2565 เป็นต้นไป
ข้อ 3 การส่งใบสั่งตามมาตรา 140 วรรคสอง กรณีเจ้าพนักงานจราจรที่ออกใบสั่งไม่พบตัวผู้ขับขี่และไม่สามารถติด ผูก หรือแสดงใบสั่งไว้ที่รถได้ไม่ว่าด้วยเหตุใด และตามมาตรา 140 วรรคสาม กรณีไม่อาจทราบตัวผู้ขับขี่ ให้ส่งใบสั่งพร้อมพยานหลักฐานโดยทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ ไปยังภูมิลำเนาของเจ้าของรถ หรือผู้ครอบครองรถ ภายในระยะเวลาสามสิบวันนับแต่วันที่เจ้าพนักงานจราจรพบการกระทำความผิด และให้ถือว่าเจ้าของรถ หรือผู้ครอบครองรถได้รับใบสั่งนั้น เมื่อพ้นกำหนด สิบห้าวัน(15วัน) นับแต่วันส่ง
ประกาศ ณ วันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2565
"การส่งใบสั่งทางไปรษณีย์" หากพ้น 15 วัน ถือว่าเจ้าตัวได้รับแล้ว - กรุงเทพธุรกิจ
Read More
No comments:
Post a Comment