นอกจากนั้น เตียง ยังมีบทบาทร่วมกับขบวนการกู้ชาติในอินโดจีน บทบาทสำคัญดังกล่าว ทำให้ชาวอีสานส่วนใหญ่ต่างมีความภาคภูมิใจและสำนึกร่วมกัน ด้วยเตียงมีผลงานที่ดีเด่นทั้งในสภาฯ และนอกสภา ในพื้นที่จังหวัดสกลนคร เขามีความใก้ลชิดกับชาวบ้าน จนได้เข้าไปนั่งในหัวใจของชาวสกลนคร อย่างแท้จริง
ปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้เตียงเคลื่อนไหวทางการเมือง เนื่องจากเห็นว่า ภาคอีสาน ซึ่งเผชิญกับปัญหาการด้อยพัฒนา ได้รับการดูถูกดูแคลนทางวัฒนธรรม และข้อจำกัดของตัวระบบราชการที่ขึ้นอยู่กับส่วนกลางเป็นหลัก เตียงจึงเกิดแนวคิดที่มุ่งหวังอยากให้ประเทศเจริญก้าวหน้า โดยทัดเทียมเป็นที่ยอมรับในสังคมการเมืองระหว่างประเทศ
แนวคิดทางการเมืองของเตียง คือ แนวคิดท้องถิ่นนิยม เป็นแนวคิดที่มุ่งพัฒนาไปสู่ท้องถิ่นของตน โดยเฉพาะจังหวัดสกลนครและภาคอีสาน ด้วยอุดมการณ์ว่า "เราจะร่วมกันทำงานให้แก่ประเทศชาติและมาตุภูมิด้วยความเสียสละ เพื่อประโยชน์ของชาติของท้องถิ่นยิ่งกว่าชีวิตของตน"
นอกจากเตียงจะเป็นผู้รักประชาชน รักท้องถิ่น มีแนวคิดท้องถิ่นนิยมดังกล่าว แต่เตียงก็มิได้เป็นผู้แนวคิดท้องถิ่นนิยมแบบคับแคบแต่อย่างใด เขายังเป็นผู้มีแนวคิดทางการเมืองแบบสังคมนิยม ที่เน้นให้ราษฎรทุกคนมีสิทธิ เสรีภาพอย่างเท่าเทียมกัน ดังที่เขาเคยเขียนก่อนเข้าสู่การเมืองว่า "ข้าพเจ้าเป็นคนไทย ข้าพเจ้าเป็นไทแก่ตนเอง ข้าพเจ้าเป็นราษฎรไทย ราษฎรสยาม ทั้งข้าพเจ้าต้องการให้ทุกๆ คนบนพื้นดินอันเป็นสยามประเทศนี้ เป็นราษฎรเสมอหน้ากันหมด ปราศจากความเหลื่อมล้ำต่ำสูง ความเป็นราษฎร จึงเป็นอุดมคติที่ข้าพเจ้าบูชาอีกอันหนึ่ง"
บทบาทของเตียงในสภา มีมากมายในการพยายามให้รัฐบาลมุ่งพัฒนาพื้นที่ภาคอีสาน ทั้งทางเศรษฐกิจ การศึกษา สาธารณสุข และการคมนาคม ถือว่าเตียงเป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ของภาคอีสานที่สำนึกในความเป็นไทย จึงเป็นบทบาทที่มีส่วนผลักดันให้เข้าถึงความจริงที่ว่า ราษฎรอีสาน หรือ ชนบทส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับการศึกษา ไม่ได้รับการบำรุงจากรัฐบาลอย่างเพียงพอ จนในที่สุดสภาพความเป็นอยู่ของประชาชนอีสานจังหวัดต่างๆ เริ่มดีขึ้นจากแนวคิดและการต่อสู้ของนักการเมืองท่านนี้
สรุปได้ว่า นายเตียง ศิริขันธ์ มีแนวคิดทางการเมืองแบบลักษณะท้องถิ่นนิยม สังคมนิยม เสรีนิยม และพัฒนาไปสู่ลักษณะชาตินิยมที่มีจุดมุ่งหมายต้องการสร้างสรรค์ความเจริญให้แก่ท้องถิ่นและความก้วหน้าของประเทศชาติด้วยความเสียสละ โดยไม่คำนึงถึงความยากลำบากด้วยความเป็นผู้มีจิตใจกล้าหาญ เด็ดเดี่ยวอดทนเป็นที่สุด และถือว่าการแก้ไขความทุกข์ยากของราษฎร เป็นหน้าที่สูงสุดของชีวิตการเป็นนักการเมือง จนเป็นที่ยอมรับของชาวสกลนครและชาวอีสาน
เตียง ศิริขันธ์ ทำหน้าที่ ส.ส.ได้อย่างดียิ่ง เมื่อเป็นฝ่ายค้าน ก็พยายามเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาต่างๆอย่างจริงจัง จึงทำให้ได้รับความนิยมจากประชาชนอย่างกว้างขวางในเขตท้องถิ่น โดยเตียงได้ร่วมทำงานอย่างใกล้ชิดกับแกนนำอีสาน โดยมี ทองอินทร์ จำลอง และ ถวิล เป็นสหายร่วมอุดมการณ์ จนถูกขนานนามว่า"สี่เสืออีสาน" เป็นทีมเวิร์คที่เข้มแข็งในสภาผู้แทนราษฎร
ในที่สุดบทบาททางการเมืองของเตียง ก็ต้องสิ้นสุดลงในสมัยรัฐบาลของ จอมพล ป. พิบูลสงคราม เมื่อเพื่อน ส.ส.อีสานถูกวิสามัญฆาตกรรมทางการเมืองอย่างโหดร้ายป่าเถื่อนด้วยการยิงทิ้ง ที่ทุ่งบางเขน กรุงเทพฯ เตียงได้หลุดรอดชีวิตไปได้ แต่ภายหลังวิกฤตการณ์ทางการเมือง เกิดรัฐประหาร 2490 และกบฏวังหลัง 2492 นั้น แม้เตียงจะมีชีวิตรอดอยู่ได้และได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ต่อมาอีกในปี 2492 และ 2495 แต่บทบาททางการเมืองของเขาก็ลดลง และได้หายตัวไปอย่างลึกลับ โดยมาปรากฏภายหลังว่า ถูกรัฐตำรวจ ภายใต้การนำของอธิบดีตำรวจ เผ่า ศรียานนท์ ส่งอัศวิน และพรรคพวกเขา รัดคอตายและนำไปย่างศพ ฝังทิ้งที่ป่าจังหวัดกาญจนบุรีเมื่อเดือนธันวาคม 2495 ขณะมีอายุเพียง 43 ปี พร้อมกับอดีตเสรีไทยอย่างนายชาญ และ เล็ก บุนนาค
นักการเมืองอีสาน ที่เป็นทั้งนักการเมืองและนักต่อสู้ ที่มีความรู้ความสามารถ มีความกล้าหาญ ซื่อสัตย์สุจริต กล้าต่อสู้ เพื่อประเทศชาติและประชาชน โดยมิได้คำนึงถึงชีวิตของตนเองนั้น ถือเป็นแบบอย่างอันยิ่งใหญ่ของนักการเมืองอีสาน และนักการเมืองไทย ที่สมควรได้รับการยกย่อง ได้รับเกียรติและความเคารพนับถือจากประชาชน
การจากไปของ นายเตียง ศิริขันธ์ ถือเป็นการจากไปของวีรบุรุษนักประชาธิปไตย สมควรอย่างยิ่ง ที่ทุกคนโดยเฉพาะชาวอีสานทุกคน จะต้องตระหนัก และรำลึกถึงคุณูปการอันใหญ่หลวงของท่านผู้นี้ ที่มีต่อพี่น้องชาวสกลนครและต่อประเทศชาติอย่าง ขุนพลภูพาน โดยแท้จริง
คนอีสานจากอดีต-ปัจจุบัน กับทางเลือกใหม่ของการเมือง (5) - ฐานเศรษฐกิจ
Read More
No comments:
Post a Comment