รายงานข่าวจากกระทรวงพลังงาน ระบุว่า ขณะนี้ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้เร่งให้นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน ดำเนินการหารือกับกลุ่มโรงกลั่น เพื่อจะขอนำกำไรจากการกลั่นน้ำมันในช่วงนี้มาเสริมสภาพคล่องกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) ทั้งนี้ นายสุพัฒนพงษ์ ได้ตั้งคณะอนุทำงานโดยมีตัวแทนทั้งฝั่งกระทรวงพลังงาน กระทรวงการคลัง ผู้ทรงคุณวุฒิ รวมถึงตัวแทนจากกลุ่มโรงกลั่นมาหารือร่วมกัน
อย่างไรก็ตาม จากการหารือที่ผ่านมายังไม่สามารถสรุปข้อกฎหมายที่จะยืนยันถึงการขอเงินจากกำไรโรงกลั่นมาเข้ากองทุนน้ำมันได้ เนื่องจากทั้ง 6 โรงกลั่นดำเนินธุรกิจภายใต้การค้าเสรี และเป็นบริษัทที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่ต้องดำเนินการภายใต้หลักธรรมาภิบาลและยึดถึงผลประโยชน์องค์กรแล้วต้องคำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย โดยเฉพะผู้ถือหุ้นเป็นหลัก
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล ระบุว่า ในการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน วันนี้ (4 ก.ค.) เวลา 15.00 น. ประกอบด้วยกระทรวงด้านความมั่นคงและกระทรวงด้านเศรษฐกิจจะพิจารณาแผนรองรับวิกฤติพลังงานและอาหาร ได้จัดทำแผนรับมือวิกฤติทั้ง 2 เรื่อง โดยแผนจะมี 3 ระยะ คือแผนระยะสั้น 3 เดือน แผนระยะกลาง 6 เดือน และแผนระยะยาวครอบคลุมปี 2566 ทั้งปี ก่อนที่จะมีการนำเสนอแผนให้กับคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบ เพื่อมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปทำแผนต่อเนื่องที่เชื่อมโยงกับแผนหลักของประเทศเพื่อรับมือกับวิกฤตที่มีแนวโน้มที่จะยืดเยื้อ
สำหรับนส่วนของราคาพลังงานที่ประชุมมีการหารือเกี่ยวกับค่าการกลั่น โดยกระทรวงพลังงานได้วางกรอบแนวทางที่แคบลง ประกอบด้วย 1. การใช้กฎหมายตามพ.ร.บ.กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง มาตรา 27 มาเก็บกำไรจากโรงกลั่น 2. เงินปันผล 3. ภาษีลาภลอย และ 4. เงินบริจาค โดยทางออกที่กระทรวงพลังงานจะนำเสนอถือเป็นทางเลือกที่เป็นไปได้หมด แต่รัฐบาลจะเลือกใช้วิธีการใด เพื่อไม่ให้มีผู้ที่ได้รับผลกระทบตารมมาโดยเฉพาะช่องโหว่ของกฎหมายป้องกันการฟ้องร้องในอนาคต
เปิดทางเลือกรัฐบาลหั่นกำไรโรงกลั่นช่วย “กองทุนน้ำมัน” - กรุงเทพธุรกิจ
Read More
No comments:
Post a Comment