Rechercher dans ce blog

Friday, September 30, 2022

ยกรางรถไฟหนีน้ำท่วม จนท.ยันไม่ใช่ทางขาด - ช่อง 7HD

น้ำท่วมพื้นที่ อ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ เจ้าหน้าที่รถไฟเร่งยกหมอนรถไฟ เกรงน้ำท่วมรางรถไฟ ยืนยันไม่ใช่รางรถไฟขาด

หลังจากที่พายุโนรูพัดผ่านจังหวัดชัยภูมิ จนเกิดฝนตกลงมาอย่างหนักส่งผลให้เกิดน้ำท่วมหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในเขตเทสบาลเมืองชัยภูมิ เกิดน้ำท่วมสูงหลายจุดต่อเนื่องมาตั้งแต่วันที่ 28ก.ย. ในเส้นทางที่พายโนรูเคลื่อนตัวผ่านยังมีมวลน้ำจำนวนมากที่ตกค้างตามต้นน้ำต่างๆ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอรอบนอก

ล่าสุดวานนี้ (30 ก.ย.65) น้ำในเขื่อนลำคันฉู อำเภอบำเหน็จณรงค์ ปริมาณอยู่ในขั้นวิกฤต ทางเขื่อนได้ปล่อยน้ำออกมา ทำให้เกิดน้ำท่วมพื้นที่ไร่นา ผ่านลงมายังเส้นทางเดินรถไฟ ทำให้เกิดน้ำกัดเซาะรางรถไฟเป็นระยะทางรวม 3 กม.ช่วงบ้านหนองอีหล่อ ตำบลบ้านตาล อำเภอบำเหน็จณรงค์ เจ้าหน้าที่การรถไฟจึงต้องนำเครื่องจักรขนาดใหญ่ เข้ามาดำเนินการปรับยกหมอนรางรถไฟขึ้น เพื่อไม่ให้น้ำท่วมรางรถไฟ

6337959b89c0e6.77558567.jpg

นายมนเทียร ศักดิ์ดาลาด   สารวัตรแขวงบำรุงทางบัวใหญ่ กล่าวว่า ในการดำเนินการปรับยกหมอนรางรถไฟ จำเป็นต้องใช้เครื่องจักรขนาดใหญ่ เข้ามาทำ ซึ่งชาวบ้านอาจเข้าใจผิดคิดว่ามีขบวนรถไฟจอดเป็นเวลานาน และมีป้ายปิดเส้นทางก่อนถึงสถานีรถไฟย่อย

จึงเรียนชี้แจงว่า เป็นการดำเนินการป้องกันเกรงว่าหากปริมาณน้ำเพิ่มมากขึ้น จะเกิดปัญหาในการเดินรถ ส่วนป้ายที่ติดตั้งประกาศปิดถนน 100% นั้น เป็นป้ายของแขวงการทาง ที่นำมาติดตั้งไว้เนื่องจาก ถนนขาดไม่สามารถผ่านได้ ไม่เกี่ยวข้องกับการรถไฟแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามขณะที่ดำเนินการปรับยกระดับรางรถไฟนี้ เมื่อมีรถไฟผ่านก็สามารถวิ่งผ่านได้ตามปกติ

เบื้องต้นพบบริเวณสถานีควบคุมรถไฟจุดหนองอีหล่อนอกจากทางรถไฟจะถูกน้ำท่วมแล้วยังมีบ้านพักของเจ้าหน้าที่จำนวน 3 หลังสิ่งของเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆภายในบ้านและสถานีได้รับความเสียหายไปด้วย โดยระดับน้ำท่วมยังคงสูงขึ้นเรื่อยๆดังนั้นจึงต้องเร่งซ่อมแซมเพื่อป้องกันไม่ให้กระทบกับการเดินรถหรือกระทบกับรางรถไฟได้รับความเสียหายไปมากกว่านี้ต่อไป

6337959b40b5b9.52542095.jpg

Adblock test (Why?)


ยกรางรถไฟหนีน้ำท่วม จนท.ยันไม่ใช่ทางขาด - ช่อง 7HD
Read More

การทดสอบสมรรถภาพทางกายเพื่อสุขภาพมีประโยชน์อย่างไร - สสส.

ตัวช่วยการเข้าถึง

ขนาดตัวอักษร

ความตัดกันของสี

ปกติ

ขาว-ดำ

ดำ-เหลือง

Adblock test (Why?)


การทดสอบสมรรถภาพทางกายเพื่อสุขภาพมีประโยชน์อย่างไร - สสส.
Read More

Thursday, September 29, 2022

หุ้นไทยยังเสี่ยงทางลง ทดสอบ 1,580 จุด ลุ้นปมการเมือง - ประชาชาติธุรกิจ

[unable to retrieve full-text content]

หุ้นไทยยังเสี่ยงทางลง ทดสอบ 1,580 จุด ลุ้นปมการเมือง  ประชาชาติธุรกิจ
หุ้นไทยยังเสี่ยงทางลง ทดสอบ 1,580 จุด ลุ้นปมการเมือง - ประชาชาติธุรกิจ
Read More

การเมืองยังไม่ถึงทางตัน คำเตือน “รัฐประหาร” แค่ต้องระวัง - ไทยโพสต์

กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง กรณี “เสี่ยโอ๋” ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่ออกมาให้ความเห็นกรณีการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมวันที่ 30 ก.ย. ช่วงของการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญวาระดำรงตำแหน่ง 8 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รมว.กลาโหม โดยระบุว่า หากไม่พอใจรัฐบาลให้ใจเย็นๆ เพราะจะเลือกตั้งแล้ว หากมีการชุมนุมเคลื่อนไหวมาก ระวังอาจไม่มีเลือกตั้ง

ชัยวุฒิยังได้ขยายความว่า เป็นการให้สัมภาษณ์ในฐานะ “นักการเมือง” ที่แค่เตือนประชาชนหากมีการเคลื่อนไหวในวันที่ 30 ก.ย.นี้ มองว่าเป็นเรื่องที่ไม่ดี กังวลว่าจะไม่ได้เลือกตั้ง หากมีความวุ่นวายซ้ำรอยอดีตปี 2556-2557 ในวันที่ กปปส.เดินขบวนสร้างความวุ่นวายให้บ้านเมือง และที่สุดก็มีการปฏิวัติ จึงกังวลว่าหากมีการเคลื่อนไหวเกิดขึ้น ก็เป็นเรื่องน่าห่วง

“ผมไม่ได้ขู่ แค่เตือน ถ้าไม่อยากให้บ้านเมืองวุ่นวาย อย่าออกมาเคลื่อนไหวมากนัก หากไม่พอใจรัฐบาลอยากให้ใจเย็นๆ อีกไม่กี่เดือนก็จะถึงช่วงเลือกตั้งแล้ว ถ้าเคลื่อนไหวมากๆ ระวังจะไม่ได้เลือกตั้งนะ ผมพูดจริงๆ คำนี้ แต่ห่วงสถานการณ์บ้านเมือง เพราะอดีตเมืองไทยเคยเกิดขึ้น ขณะนี้กฎหมายเลือกตั้งก็ยังไม่เสร็จ หากมีม็อบ มีปฏิวัติ ก็จะไม่ได้เลือกตั้งอีกยาว แต่เรื่องนี้ขอบอกว่าการปฏิวัติไม่ได้เกิดจาก 3 ป. เพราะ 3 ป.ไม่ได้ปฏิวัติ คนปฏิวัติก็คงเป็นคนที่มีอำนาจ มีกำลัง ขณะนี้ก็เป็นทหารนั่นแหละ” นายชัยวุฒิระบุ (สยามรัฐ 26 ก.ย.2565)

หลังจากนั้น นักการเมือง กลุ่มเคลื่อนไหว ต่างออกมาสวนกลับคำพูดของรัฐมนตรีระดับแกนนำพรรคพลังประชารัฐผู้นี้อย่างดุเดือด เพราะมองว่านอกจากจะเป็นการ “ขู่” แล้ว อาจจะมีข้อมูล "วงใน" ว่าจะมีการ “เอ็กเซอร์ไซส์” ล้างไพ่อำนาจอีกหรือเปล่า

ยิ่งเมื่อดูเหตุปัจจัยจากสมการ “กองทัพ-รัฐบาล” ในยุคปัจจุบัน ที่ไม่ได้เป็นเนื้อเดียวกันเหมือนช่วงการรัฐประหารปี 2557 ใหม่ๆ ก็สอดคล้องกับการวิเคราะห์ของ “ชัยวุฒิ” อยู่ไม่น้อย ว่าคนที่ขยับปรับอุณหภูมิบ้านเมืองด้วยวิธีเดิมๆ ไม่ใช่ 3 ป.

จากนั้นแกนนำระดับบิ๊กๆ ในพรรคร่วมรัฐบาล ต่างก็ออกมาดาหน้าปฏิเสธ และไม่ให้ความเห็นใดๆ เกี่ยวกับข้อวิเคราะห์ดังกล่าว ตอกย้ำหนักแน่นจากคำสัมภาษณ์ของ พี่ใหญ่ป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รักษาการแทนนายกฯ ที่บอกว่า "ไม่มี"

สำทับด้วยคำแถลงของ พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ภายหลังการประชุมสภากลาโหม ที่มี พล.อ.ประยุทธ์เป็นประธาน พร้อมด้วย ปลัดกระทรวงกลาโหม ผบ.ทหารสูงสุด ผบ.เหล่าทัพ รวมถึง ผบ.สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้าร่วมประชุมกันพร้อมเพรียง ที่ยืนยันว่า “ไม่มี”

"ไม่มีรัฐประหาร ใครจะพูดอย่างไร ด้วยวัตถุประสงค์อะไร ก็ต้องไปถามคนนั้น เพราะทหารไม่มีเงื่อนไขอะไรที่นำไปสู่ตรงนั้น อีกทั้งในที่ประชุมสภากลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ก็ไม่ได้พูดถึงประเด็นดังกล่าว" โฆษกกระทรวงกลาโหมระบุ

ขณะที่มีรายงานว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้ระบุถึงแผนการรับมือกลุ่มผู้ชุมนุม โดยระบุว่าไม่น่าเป็นห่วง และเชื่อมั่นว่าจะไม่รุนแรงเหมือนม็อบปี 2552-2553

แน่นอนว่า ยังไม่มีเงื่อนไขใดที่จะต้องล้มรัฐธรรมนูญ ล้างกระดานอำนาจในตอนนี้ เนื่องจากปมวาระการดำรงตำแหน่ง 8 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ “ไม่ได้ทำให้การเมืองถึงทางตัน”

และยังมีช่องหายใจอีกหลายช่องทางก่อนไปสู่เป้าหมายปลายทางคือ การเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง เพื่อให้ทุกฝ่ายเข้าสู่จุดสตาร์ทของการแข่งขัน ซึ่งเวลาก็งวดเข้ามาแล้ว

ประเด็นที่สำคัญคือ “กติกา” ซึ่งจะนำไปใช้ในการเลือกตั้งครั้งหน้า หากการตีความของศาล รธน.หลังจากนี้เป็นที่ยุติ ก็เชื่อว่ากระบวนการในกรอบ กม.จะเดินหน้าไปจนถึงวันที่ประชาชนได้ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งตามที่ตั้งใจ แล้วค่อยไปลุ้นดูว่าหลังจากการเลือกตั้งแล้ว จะเกิดปรากฏการณ์ใดๆ ที่นำไปสู่ความวุ่นวายต่อไปหรือไม่

ในขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมแม้จะออกมา “ตีกัน” ศาล รธน.ประกาศไม่เอา “ลุงตู่” กลับมาอีกแล้ว แต่ก็ไม่ได้มีฐานมวลชนมากพอที่จะสร้างพลังการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากคนส่วนใหญ่ก็ไม่อยากให้เกิดความวุ่นวาย โกลาหล จึงได้แต่แสดงความรู้สึกด้วยการพูดคุยในสื่อสังคมออนไลน์ แล้วเอาเวลาไปใช้ในการแก้ไขปัญหาปากท้องของตัวเอง จากวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น

ยกเว้นกลุ่มที่ต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลง “นอกเกม” ด้วยการใช้ม็อบสร้างสภาวะแวดล้อมที่รุนแรง ซึ่งดูจากข้อมูลแล้วก็ไม่มีกลุ่มไหนที่ได้รับการหนุนหลังสู้เพื่อนำไปสู่จุดนั้นได้ 

อีกทั้งกองทัพ โดยเฉพาะกองทัพบก ที่คุมขุมกำลังปฏิวัติ ในขณะนี้ก็ไม่ได้มีสถานะเหมือนเมื่อปี 2557 เพราะบางหน่วยต้อง “สวมหมวกสองใบ” ทำหน้าที่เป็นหน่วยเฉพาะกิจทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ 904 ซึ่ง พล.อ.ณรงค์พันธ์ก็ทำหน้าที่เป็น ผบ.ฉก.ทม.904 อยู่ด้วย                

แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ประเทศไทยจะเป็น “เขตปลอดการปฏิวัติ” เลยเสียทีเดียว เพราะในเรื่องของโครงสร้างองค์กร ยังมีองค์ประกอบที่เป็นตัวบุคคลในแต่ละห้วงเวลาเป็นตัวกำหนดเวลาด้วย

ซึ่งวัดอุณหภูมิการเมืองขณะนี้ยังไม่เข้าขั้น “ปรอทแตก” หรือถ้าเทียบเป็นหมากรุกก็ยังไม่เข้า “ตาอับ” เพราะยังมีช่องทางเดินได้อีกหลายก้าว 

ยกเว้น “มือที่มองไม่เห็น” จะกดปุ่มสร้างเงื่อนไข-ปัจจัยที่คาดไม่ถึง ตามการวิเคราะห์ของ รมต.ในรัฐบาลที่ไม่ควรถูกมองข้าม.

Adblock test (Why?)


การเมืองยังไม่ถึงทางตัน คำเตือน “รัฐประหาร” แค่ต้องระวัง - ไทยโพสต์
Read More

สัตวแพทย์ทางทะเลกับงานอนุรักษ์ท่ามกลางความท้อแท้ - บีบีซีไทย

ณภัทร เวชชศาสตร์

ผู้สื่อข่าวพิเศษ บีบีซีไทย

สัตว์แพทย์ให้นมเจ้าภราดร โลมาอิรวดี ซึ่งตายไปในช่วงปลายเดือน ส.ค. 2565

ที่มาของภาพ, Sirachai Arunrugstichai / Getty Images

แม้ “ภราดร” ลูกโลมาอิรวดีพลัดหลงแม่ได้อยู่ภายใต้การดูแลของสัตวแพทย์ตลอด 24 ชั่วโมง เป็นเวลากว่า 40 วัน มันก็ไม่สามารถมีชีวิตรอดจนถึงวันที่สัตวแพทย์คาดหวังไว้

แต่ทุกการสูญเสียของสัตว์ทะเลหายากอาจกลายเป็นแรงกระตุ้นให้เกิดกระแสการอนุรักษ์ในสังคม นับตั้งแต่การตายของลูกพะยูนมาเรียม ไปจนถึงแผนอนุรักษ์พะยูนแห่งชาติ หรือจากภราดรสู่กระแสความสนใจโลมาอิรวดี 14 ตัวสุดท้ายแห่งทะเลสาบสงขลา ที่ทุกฟันเฟืองตั้งแต่สัตวแพทย์ในด่านหน้า ไปจนถึงผู้มีอำนาจวางแผนนโยบาย ต่างมีส่วนร่วมในการรักษาสิ่งมีชีวิตให้อยู่รอดต่อไป

ในปี 2562  ข่าวการจากไปของมาเรียม ลูกพะยูนพลัดหลงแม่ ที่เจ้าหน้าที่ช่วยกันให้นมแทนแม่ แต่สุดท้ายมาเรียมก็เสียชีวิตเพราะพลาสติก จุดกระแสการอนุรักษ์ในสังคมไทย จนนำไปสู่แผนอนุรักษ์พะยูนแห่งชาติ แต่สำหรับคนบางส่วนที่อยู่ใกล้ชิดกับมาเรียม กลับรู้สึกเหมือนตนเองมีแผลใจ เพราะไม่สามารถดูแลให้มาเรียมมีชีวิตรอดต่อไปได้

สัตวแพทย์ คือหนึ่งในอาชีพด่านหน้าที่ต้องเผชิญแรงกดดันอยู่เสมอ โดยเฉพาะสัตวแพทย์ทางทะเลที่ทำงานกับสัตว์ทะเลหายาก ซึ่งปัจจุบันมีเพียง 9 คนเท่านั้นที่ประจำอยู่ภายใต้ศูนย์วิจัยทางทะเลและชายฝั่งทั่วประเทศไทย ซึ่งสวนทางกับพื้นที่ทางทะเลของไทยที่มีกว่า 350,000 ตารางกิโลเมตร ซึ่งนอกจากข้อจำกัดด้านจำนวนบุคลากรแล้ว ก็มีความคาดหวังของสังคมว่าสัตวแพทย์จะต้องทำให้สัตว์ที่ได้รับการช่วยเหลือรอด

“บางคนก็รู้สึกท้อ บางคนก็รู้สึกผิด จนไปถึงอยากลาออกเลยก็มี เพียงเพราะพวกเขาไม่สามารถช่วยเหลือสัตว์เหล่านั้นได้” น.สพ.ธนพรรณ ชมชื่น นายสัตวแพทย์ปฏิบัติการ ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนบนฝั่งตะวันออก กล่าวกับบีบีซีไทย

“ในกรณีของภราดร แรงกดดันส่วนใหญ่จากภายนอกก็จะเฝ้าดูว่าโลมาตัวนี้จะรอดได้รึเปล่า เราอยากอธิบายว่า จริง ๆ แล้วการช่วยชีวิตสำเร็จในกลุ่มโลมามันน้อยมา อาจเพียงแค่ 1% เท่านั้น เนื่องจากการที่สัตว์เข้ามาเกยตื้น อาจหมายความว่ามันมีอาการป่วยมาก่อน และยิ่งความเป็นลูกสัตว์ด้วย การที่จะทำให้มันรอดชีวิตมันก็ยากกว่าปกติ เนื่องจากลูกสัตว์ยังไม่มีภูมิคุ้มกันที่ดี อีกทั้งความเครียดก็มีเพราะไม่ได้อยู่กับฝูงหรือแม่ แต่เราก็พยายามทำงานให้เต็มที่” น.สพ. ธนพรรณ กล่าว

 Sirachai Arunrugstichai / Getty Images

ที่มาของภาพ, Sirachai Arunrugstichai / Getty Images

เป็นเวลากว่า 40 วันที่ภราดร ลูกโลมาอิรวดีพลัดหลงวัย 6 เดือน ได้อยู่ภายใต้การเลี้ยงดูของทีมสัตว์แพทย์ ณ ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งไทยตอนบนฝั่งตะวันออก จังหวัดระยอง หลังจากที่ได้รับการช่วยเหลือเมื่อวันศุกร์ที่ 22 กรกฎาคม 2565 ก่อนที่มันจะสิ้นใจด้วยอาการทางเดินหายใจล้มเหลว เมื่อวันพุธที่ 31 สิงหาคม 2565

น.สพ. ธนพรรณ เล่าให้บีบีซีไทยฟังว่า เดิมทีทางทีมมีแผนที่จะดูแล “ภราดร” เป็นเวลา 6 เดือน หรือจนกว่าจะอายุครบ 1 ปี ก่อนที่ปล่อยกลับคืนสู่ธรรมชาติ ซึ่งหลังจากการช่วยเหลือได้หนึ่งสัปดาห์ ภราดรก็มีสุขภาพร่างกายที่ดีขึ้น จากเดิมที่ไม่สามารถว่ายน้ำได้เอง ต้องมีคนคอยพยุง ก็เริ่มว่ายน้ำได้ปกติ

“พอมันแข็งแรงขึ้น มันก็ชอบเข้ามาดูดนิ้ว ดูดเสื้อผ้าเพื่อบอกว่ามันหิว หรือบางทีก็แกล้งลอยนิ่ง ๆ เหมือนกับว่ามีอะไรเกิดขึ้น แต่พอเราเข้าไปหา มันก็ว่ายหนี เราเลยเรียกพฤติกรรมนี้ว่า ‘นอนอ่อย’”

อย่างไรก็ตาม แม้ภราดรได้รับการดูแลจากทีมสัตวแพทย์อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง แต่มันก็เริ่มเกิดสภาวะเครียด จากเดิมที่สามารถป้อนยาป้อนอาหารได้ ก็ไม่ยอมรับหัตถการ ร่างกายเริ่มผอม อ่อนแอ มีการติดเชื้อ และสำลักน้ำ ส่งผลให้ปอดติดเชื้อและเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตในเวลาต่อมา

“ภราดรก็เหมือนอาจารย์ใหญ่เรา มันทำให้รู้ว่าเรายังมีอะไรที่ต้องศึกษาอีกเยอะ และบทเรียนตรงนี้มันก็ช่วยให้การรักษาสัตว์ทะเลหายากตัวอื่น ๆ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น” นายธนพรรณ กล่าว

จาก”ภราดร” สู่โลมาอิรวดีในน่านน้ำไทย

ชลาทิพ จันทร์ชมภู ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนบนฝั่งตะวันออก เล่าให้บีบีซีฟังว่า โลมาอิรวดีถือว่าเป็นหนึ่งในสัตว์ทะเลหายากและใกล้สูญพันธุ์ แพร่กระจายแค่ในเขตอินโด-แปซิฟิก อาศัยอยู่ได้ทั้งน้ำเค็ม น้ำกร่อย และน้ำจืด โดยโลมาอิรวดีถือว่าเป็นโลมาขนาดเล็ก มีความยามไม่เกิน 3 เมตร ลำตัวเพรียว ส่วนหัวลักษณะมนกลม ไม่มีจะงอยปาก บางพื้นที่นิยมเรียกว่าโลมาหัวบาตร แต่ก็อาจทำให้เกิดความสับสนระหว่างโลมาหัวบาตรหลังเรียบซึ่งจะแตกต่างกันตรงที่ไม่มีครีบหลัง

แม้สถานะจากองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) ถือว่าอยู่ในระดับใกล้สูญพันธุ์ (Endangered: EN) แต่จากการประเมินในไทยถือว่าอยู่ในระดับใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่ง (Critically endangered: CR) โดยการสำรวจของกรมทัพยากรทางทะเลและชายฝรั่ง มีการพบเจอประมาณ 600-700 ตัว ในปี 2565

แหล่งพบโลมาอิรวดีในไทยมี 5 แหล่งใหญ่ ๆ คืออ่าวไทยฝั่งตะวันออก ประมาณ 240 ตัว อ่าวไทยตอนบนหรืออ่าวไทยตัว ก. ประมาณ 230 ตัว อ่าวไทยตอนกลาง ประมาณ 145 ตัว ฝั่งอันดามัน ประมาณ 50 ตัว และที่ทะเลสาบสงขลา เหลือแค่ 14 ตัว

“ซึ่งตอนนี้ที่ทะเลสาบสงขลาถือว่ามีความน่าเป็นห่วงอย่างยิ่งว่าจะเกิดสภาวะสูญพันธุ์ (local extinction)” ชลาทิพ กล่าว

โลมาอิรวดีใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่งในไทย

ที่มาของภาพ, Thai National Park

หากดูสถิติการเกยตื้นและเสียชีวิตของโลมาอิรวดี โดยไม่นับที่ทะเลสาบสงขลา ในอัตราส่วนที่เท่ากัน ที่ร้อยละ 25 จะเกิดจากการป่วยตามธรรมชาติ การติดเครื่องมือประมง นอกจากนั้นก็จะเป็นการพลังหลงจากแม่ อุบัติเหตุ และขยะทะเล

โลมาอิรวดี 14 ตัวสุดท้ายในทะเลสาบสงขลา

“เราจะเห็นได้ว่าตลอดเวลา 20 ปีที่ผ่านมา จำนวนโลมาอิรวดีในทะเลสาบสงขลาแทบไม่เพิ่มขึ้นเลย” ดร.ก้องเกียรติ กิตติวัฒนาวงศ์ ผู้อำนวยการศูนย์การศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอันดามันตอนบน กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กล่าว

ในโลกนี้มีโลมาอิรวดีที่อาศัยอยู่ในน้ำจืดเพียง 5 แห่งเท่านั้น ได้แก่

  • ทะเลสาบชิลิกาประเทศอินเดีย มีจำนวนประชากรอยู่ที่ 151 ตัว
  • แม่น้ำมหาคัมประเทศอินโดนีเซีย 70-90 ตัว
  • แม่น้ำโขงบริเวณตอนเหนือของประเทศกัมพูชา 89 ตัว
  • แม่น้ำอิรวดีประเทศพม่า 79 ตัว
  • ทะเลสาบสงขลาในประเทศไทย คาดว่าเหลือเพียง 14 ตัวเท่านั้น
BBC

ทะเลสาบสงขลามีพื้นที่กว่า 1,040 ตารางกิโลเมตร คาบเกี่ยวจังหวัดพัทลุงและจังหวัดสงขลา โดยจากการศึกษาด้วยการบันทึกเสียง (acoustic survey) ที่วางตามจุดต่าง ๆ จะพบว่าโลมาอิรวดีแพร่กระจายอยู่ทางทะเลสาบตอนบน หรือ ทะเลหลวงเป็นส่วนใหญ่ และไล่ลงมาทางใต้ไม่เกินเกาะใหญ่ ซึ่งจุดดังกล่าวเป็นพื้นที่กว้างและมีความลึกเฉลี่ยที่ประมาณ 3 เมตร

ทำไมถึงกลายเป็นโลมาที่อาศัยอยู่ในน้ำจืด

“ตามสายวิวัฒนาการ โลมาอิรวดีไม่ใช่โลมาน้ำจืด (river dolphin) แท้ ๆ ที่มีอยู่ 5 ชนิด แต่จากการที่โลมาอิรวดีเป็นสัตว์ที่หากินตามแนวชายฝั่ง พื้นที่ปากแม่น้ำและชอบเข้าน้ำกร่อยทำให้ประชากรบางส่วนเข้าไปอยู่ในแหล่งน้ำจืดจนกลายเป็นกลุ่มประชากรย่อย (subpopulation) ขึ้นมาตามแหล่งน้ำจืดต่าง ๆ ซึ่งก็ถือเป็นความน่าทึ่งของโลมาชนิดนี้” ศิรชัย อรุณรักษ์ติชัย นักวิทยาศาสตร์ทางทะเล อธิบาย

ในส่วนของทะเลสาบสงขลา ข้อมูลส่วนหนึ่งที่ใช้ในการศึกษาวิจัยการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำทะเล บ่งบอกว่า ในช่วงประมาณ 6,000 ปีที่แล้ว น้ำทะเลนั้นมีระดับที่สูง เกิดช่องเชื่อมต่อระหว่างอ่าวไทยและทะเลสาบสงขลา ทำให้โลมาอิรวดีเข้ามาอาศัยอยู่บริเวณดังกล่าวได้

โลมาอิรวดี เป็นโลมา 3 น้ำ

ที่มาของภาพ, WWF

เมื่อภูมิประเทศมีการเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา เกิดการเชื่อมต่อของดิน ทำให้เกิดการตัดขาดระหว่างอ่าวไทยและทะเลสาบสงขลา โลมาอิรวดีที่อาศัยอยู่ในทะเลสาบก็กลายเป็นโลมาที่อาศัยอยู่ในน้ำจืดตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

“หากดูในแผนที่ประวัติศาสตร์เราจะเห็นว่า 500 ปีที่แล้ว ทะเลสาบยังคงมีช่องเปิดอยู่ ในขณะที่ 300 ปีที่แล้ว เราจะเห็นว่ามีทะเลสาบตอนล่าง แต่ไม่เห็นทะเลสาบตอนบน เลยไม่แน่ใจว่ามันมีการเชื่อมต่อด้านบนเมื่อ 572 ปีนี้รึเปล่า แล้วอีกอย่าง การวาดแผนที่ในอดีต ความแม่นยำก็ยังไม่แน่นอน มันก็เป็นการยากที่จำประเมินว่าทะเลสาบสงขลานั้นมีการเชื่อมต่อของดินในช่วงเวลาไหน” ดร.ก้องเกียรติ เสริม

ภัยคุกคามหลักที่มีต่อโลมาอิรวดีน้ำจืด

หากย้อนไปเมื่อช่วงต้น พ.ค. 2565 องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (WWF) ในลาวได้ประกาศว่า โลมาอิรวดีได้สูญพันธ์ุไปโดยปริยายแล้วในลาว สาเหตุมาจากการติดเครื่องมือประมง

“แม้โลมาในแม่น้ำโขงฝั่งประเทศลาวนั้นจะสูญพันธ์ุเป็นที่เรียบร้อย แต่ยังคงมีประชากร (โลมา) ในเขตประเทศกัมพูชาที่ยังคงหลงเหลืออยู่ ซึ่งเป็นประชากรกลุ่มเดียวกัน ผิดกับที่ไทย หากมีการสูญพันธ์ุแล้วจะถือว่าเป็นโลมาอิรวดีน้ำจืดแห่งแรกบนโลกที่เกิดการสูญพันธ์ุ” ดร.ก้องเกียรติ กล่าว

หากดูที่สถิติการเสียชีวิตของโลมาอิรวดีในทะเลสาบสงขลาตลอด 20 ปีที่ผ่านมาจะพบว่า 60% เกิดจากการติดเครื่องมือประมงโดยบังเอิญ, 38% เกิดจากการป่วยตามธรรมชาติและมลพิษ และ 2% เกิดจากการถูกใบจักรเรือ ซึ่งตรงนี้เป็นปัจจัยโดยตรงที่ส่งผลต่อการเสียชีวิตหรือเกยตื้นของโลมาอิรวดี

เมื่อจำนวนของโลมาอิรวดีมีน้อยลง ก็ส่งผลให้เกิดการผสมกันเองและเกิดสภาวะเลือดชิด ซึ่งทำให้โลมาที่เกิดมาใหม่ ๆ มีความอ่อนแอได้

โลมาติดเครื่องมือประมง เป็นปัจจัยเกยตื้นและเสียชีวิต

ที่มาของภาพ, EPA

“การตื้นเขินของทะเลสาบก็เป็นหนึ่งในปัจจัยทางอ้อม เนื่องจากจุดนี้เป็นแหล่งที่น้ำพัดพาพวกตะกอนมาด้วย เมื่อตะกอนไม่สามารถถ่ายทอดสู่ทะเลภายนอกได้ ก็ทำให้เกิดการสะสมของตะกอน เกิดการตื้นเขิน พื้นที่ลึกสุดของทะเลสาบก็จะอยู่ที่ประมาณ 3 เมตร ในขณะที่เส้นข้างนอกก็จะมีความลึกที่ประมาณ 1-2 เมตร มันก็ทำให้แหล่งที่อยู่อาศัยของโลมาลดน้อยลง ยังไม่นับเรื่องสารอาหารที่ไหลมากับน้ำ ส่งผลให้พืชต่าง ๆ เติบโตขึ้น (eutrophication) ทำให้เร่งการตื้นเขินขึ้นมา”  

ดร.ก้องเกียรติ เล่าว่า การเพิ่มขึ้นของสิ่งก่อสร้างล่วงล้ำลำน้ำ อย่างไซนั่ง หรือโป๊ะน้ำตื้น ก็ส่งผลให้เกิดการชะลอตัวของกระแสน้ำเช่นกัน ซึ่งจะเห็นได้ว่าในปี 2528 มีไซนั่งเพียง 7,500 แห่ง แต่ปัจจุบันพบว่ามีอยู่ประมาณ  30,000 แห่ง ขณะที่สถิติการจับสัตว์น้ำต่อวันก็น้อยลงตามไปด้วย สะท้อนว่าจำนวนอาหารของโลมาน้อยลงไปเช่นกัน

การทำงานร่วมกับชุมชนเพื่อการฟื้นฟูประชากรโลมาอิรวดี

“ในส่วนของงานอนุรักษ์ก็ต้องคำนึงถึงปัจจัยด้านปากท้องของชุมชมด้วยเหมือนกัน เพราะเขาต้องสูญเสียพื้นที่ทำมาหากิน เพราะจริง ๆ แล้ว คนในชุมชนก็ยินดีให้ความร่วมมือ แต่จะต้องมีการสนับสนุนจากภาครัฐอย่างต่อเนื่อง เพราะถ้าเราทำแค่ปีสองปี และหายไป มันก็อาจจะทำให้เกิดการสูญพันธ์ุไปก่อนหรือว่าใช้เวลาฟื้นตัวนานขึ้น ยิ่งจำนวนประชากรน้อยลง ความหวังที่จะฟื้นตัวได้ก็แทบจะเป็นศูนย์” 

ดร.ก้องเกียรติ เล่าต่อว่า แม้อัตราการเกยตื้นและเสียชีวิตของโลมาอิรวดีตลอด 20 ปีที่ผ่านมาส่วนใหญ่จะมาจากการติดเครื่องมือประมงโดยบังเอิญ แต่จริง ๆ แล้วทางเจ้าหน้าที่ประสานความร่วมมือกับทางชาวบ้านอยู่ เพื่อพยายามลดการตายของโลมา อาทิ การซื้ออวนคืนในช่วงปี 50-56 ซึ่งช่วยให้สถิติการตายลดน้อยลงอย่างชัดเจน

 Sirachai Arunrugstichai

ที่มาของภาพ, Sirachai Arunrugstichai / Getty Images

ความหวังของโลมาอิรวดีในน่านน้ำไทย

“เมื่อเรารู้ถึงปัญหา เราก็ต้องแก้ปัญหาให้ตรงจุด ในเรื่องของการปรับเปลี่ยนเครื่องมือ การสร้างบ้านปลาเพื่อเพิ่มอาหาร การรักษาป่าต้นน้ำ การลดการปล่อยของเสีย การขุดลอกคลอง ที่สำคัญที่สุดก็คือการปฏิบัติและการลงมือทำตามแผน อันนี้เป็นส่วนสำคัญที่สุด” ดร.ก้องเกียรติ กล่าว

ในส่วนของแผนการอนุรักษ์โลมาอิรวดีในเชิงนโยบาย สามารถย้อนไปได้ตั้งแต่ปี

  • พ.ศ. 2535 ประกาศโลมาอิรวดีให้เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า
  • พ.ศ. 2546 ผลักดันให้โลมาอิรวดีให้เป็นสัตว์คุ้มครองในบัญชีที่ 1 ของไซเตส (CITES) หรืออนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ ซึ่งห้ามมีการค้าโดยเด็ดขาด
  • ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550 จัดทำพื้นที่คุ้มครองในการทำอนุรักษ์ในเขตทะเลสาบสงขลา
  • ล่าสุด เมื่อวันที่ 12 พ.ค. 2565 คณะกรรมการทะเลแห่งชาติรับข้อเสนอให้โลมาอิรวดีเป็นสัตว์สงวนแล้ว

ส่วนการแก้ปัญหาต่อจากนี้ จะแบ่งเป็น 4 ส่วน

ส่วนที่ 1 คือการกำหนดพื้นที่เพื่อที่จะมีมาตรการต่าง ๆ ในการคุ้มครองโลมาอิรวดีในทะเลสาบ

ส่วนที่ 2 คือมาตรการฟื้นฟู เช่น การสร้างบ้านปลาเพื่อเพิ่มแหล่งอาหารให้โลมา

ส่วนที่ 3 คือการศึกษางานวิจัยที่ต้องมีการหาแนวทางการแก้ปัญหาในระยะยาว เช่น การตื้นเขินของทะเลสาบ อย่างเช่นในกรณีของทะเลสาบซิลิกาก็มีการขุดลอกให้น้ำไหลออกสู่นอกทะเลได้ หรือเรื่องการศึกษาวิจัยการความหลากหลายของสัตว์น้ำที่ลดลง การปนเปื้อนของมลพิษ และการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ทะเลสาบ

ส่วนที่ 4 คือการบูรณาการความร่วมมือ สร้างความตระหนักรู้ในการทำงานร่วมกัน ทั้งภาควิชาการและภาคประชาชน

ในส่วนของทางทะเลไทย ชลาทิพ กล่าวเสริมว่า “ด้วยความที่ถิ่นที่อยู่อาศัยของโลมานั้นทับซ้อนกับกิจกรรมการประมง มันก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะเกิดปัญหาการจับขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ ดังนั้นกระทรวงทรัพยากรทางธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมีแนวทางบูรณาการในการทำงานร่วมกับชุมชนผ่านกิจกรรมสร้างอาสาสมัครพิทักษ์ทะเล เพราะชาวประมงเป็นคนที่อยู่ในพื้นที่ทุกวัน และเป็นคนแรกที่เจอเหตุโลมาหรือ สัตว์ทะเลหายากติดอวน หรือเจ็บป่วย”

“เราเสริมศักยภาพของเขา เช่นฝึกให้เขากู้ชีพเบื้องต้นก่อนที่ทีมสัตวแพทย์ของเราจะไปถึง”

อีกส่วนหนึ่ง คือการนำองค์ความรู้ทางวิชาการมาใช้ เช่นการสำรวจพื้นที่ และการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการลดผลกระทบต่อโลมาอิรวดี อย่างเช่น เครื่องเตือนโลมาด้วยเสียง (acoustic devices or alerting devices) หรือ ปิงเจอร์ (pinger) ที่ใช้ติดกับอวนประมง เพื่อเตือนไม่ให้โลมาเข้ามาใกล้อวน ซึ่งนักวิจัยในแถบเอเชีย เช่น มาเลเซีย และอินโดนีเซีย กำลังมีการศึกษาวิจัยพฤติกรรมของโลมาที่ตอบสนองต่อเสียงและผลการจับสัตว์น้ำ

“ในปัจจุบันมีภาวะที่สัตว์ทะเลหายากป่วยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เราสามารถศึกษาสัตว์ทะเลหายากที่เสียชีวิตแล้วมาดูเรื่องสารมลพิษโลหะหนัก ไมโครพลาสติก โรคอุบัติใหม่  เพื่อสะท้อนถึงสภาพสิ่งแวดล้อมทางทะเลของเราว่ายังมีความอุดมสมบูรณ์หรือปลอดภัยอยู่รึเปล่า หรือมีสารพิษสะสมทางทะเลไหม” น.ส.ชลาทิพ กล่าว

“เพราะเรื่องการศึกษาสัตว์ทะเลหายาก ถือเป็นดัชนีชี้วัด สิ่งแวดล้อมของมหาสมุทรอย่างหนึ่งที่มนุษย์ต้องพึ่งพาอาศัย และองค์ความรู้นี้ก็จะเป็นประโยชน์ในการอนุรักษ์และรักษาทรัพยากรของเรา”

Adblock test (Why?)


สัตวแพทย์ทางทะเลกับงานอนุรักษ์ท่ามกลางความท้อแท้ - บีบีซีไทย
Read More

ทอ. ปรับพิธีรับ-ส่งหน้าที่ ผบ.ทอ. 30 ก.ย. สวนสนามทางอากาศ เน้นกระชับ รวดเร็ว - กรุงเทพธุรกิจ

เมื่อวันที่ 29 ก.ย.2565 พล.อ.ต.ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ กล่าวถึงกรณีการบินสวนสนามทางอากาศของกองทัพอากาศ เพื่อเทิดเกียรติต่อผู้บัญชาการทหารอากาศที่จะเกษียณอายุราชการและผู้บัญชาการทหารอากาศที่จะเข้ารับตำแหน่งท่านใหม่ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการบิน กองทัพอากาศจึงขอสงวนการใช้ห้วงอากาศบางส่วน สำหรับพิธีสวนสนามทางอากาศ ว่า 

กองทัพอากาศ ขอเรียนให้ทราบถึงความสำคัญของการสวนสนามทางอากาศนั้น เป็นธรรมเนียมของกองทัพอากาศ ที่จะจัดการบินสวนสนามทางอากาศ เพื่อแสดงออกถึงการส่งมอบศักยภาพ และแสนยานุภาพในการทำหน้าที่ของกองทัพอากาศ และเป็นการบินเพื่อเทิดเกียรติแก่บุคคลสำคัญ และผู้บังคับบัญชาระดับสูง ผู้ประกอบคุณงามความดีให้แก่ประเทศชาติ

พล.อ.ต.ประภาส กล่าวอีกว่า กองทัพอากาศจึงดำรงธรรมเนียมการสวนสนามทางอากาศ เช่นนี้ไว้สืบต่อไป ซึ่งการบินดังกล่าว มีการปฏิบัติมาอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี เพื่อแสดงให้กำลังพลทหารอากาศ และพี่น้องประชาชน ได้เห็นถึงความพร้อมของกองทัพอากาศ เสริมสร้างขวัญ กำลังใจ และมีความเชื่อมั่นในศักยภาพของกำลังทางอากาศ

“กองทัพอากาศต้องขออภัยในความไม่สะดวกที่เกิดขึ้นต่อพี่น้องประชาชนที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างสูง ทั้งนี้ได้พิจารณาปรับห้วงเวลาการสวนสนามทางอากาศ ตลอดจนรายละเอียดที่เกี่ยวข้องให้เกิดความกระชับและรวดเร็ว เพื่อลดผลกระทบกับเที่ยวบินโดยสารและความไม่สะดวกที่อาจเกิดขึ้นต่อพี่น้องประชาชนที่เกี่ยวข้องให้น้อยที่สุด”โฆษกกองทัพอากาศ กล่าว 

Adblock test (Why?)


ทอ. ปรับพิธีรับ-ส่งหน้าที่ ผบ.ทอ. 30 ก.ย. สวนสนามทางอากาศ เน้นกระชับ รวดเร็ว - กรุงเทพธุรกิจ
Read More

กระทรวงศึกษาฯ กำชับวางมาตรการ แก้ปัญหาละเมิดทางเพศในโรงเรียน - ประชาชาติธุรกิจ

[unable to retrieve full-text content]

กระทรวงศึกษาฯ กำชับวางมาตรการ แก้ปัญหาละเมิดทางเพศในโรงเรียน  ประชาชาติธุรกิจ
กระทรวงศึกษาฯ กำชับวางมาตรการ แก้ปัญหาละเมิดทางเพศในโรงเรียน - ประชาชาติธุรกิจ
Read More

กรณ์ ถอดบทเรียนจากวิกฤตเงินปอนด์ แนะทางรอดค่าเงินบาท : อินโฟเควสท์ - สำนักข่าวอินโฟเควสท์

นายกรณ์ จาติกวณิช (ภาพ: facebook.com/KornGoThailand)

นายกรณ์ จาติกวณิช กรรมการบริหารพรรคชาติพัฒนากล้า ในฐานะอดีต รมว.คลัง โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีเงินปอนด์ของอังกฤษปรับลดลงอย่างรุนแรงเป็นผลโดยตรงจากนโยบายเศรษฐกิจของนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีคลังคนใหม่ว่า สาเหตุคือวิกฤติศรัทธา นักลงทุนสูญเสียความไว้วางใจในนโยบายรัฐบาล นี่คือสิ่งที่น่ากลัวที่สุด

สำหรับประเทศไทยเองกำลังจะเข้าสู่ฤดูการเลือกตั้ง คือเข้าสู่ช่วงลดแลกแจกแถม เราจึงต้องตระหนักในความรับผิดชอบทางการคลัง

“วันนี้เราเป็นประเทศที่มีส่วนต่างดอกเบี้ยที่กว้างมากที่สุดในอาเซียนเมื่อเทียบกับดอกเบี้ยของอเมริกา หากทำอะไรให้เกิดวิกฤตศรัทธาขึ้นมา เราจะเสี่ยงที่จะถูกตลาดเงินกดดันให้ต้องเพิ่มดอกเบี้ยอย่างแรง ซึ่งจะไม่เป็นผลดีกับผู้ประกอบการและประชาชนที่เป็นหนี้ อย่าคิดว่าทำอะไรก็ได้ เราเป็นส่วนหนึ่งของระบบเศรษฐกิจโลกที่วันนี้เปราะบางมาก ความน่าเชื่อถือ ความเชื่อมั่น เป็นเรื่องสำคัญที่สุด” นายกรณ์ กล่าว

อดีต รมว.คลัง ได้เสนอแนะแนวทาง 3 ประการ คือ 1.อย่าพยายามไปสู้กับดอลลาร์ อย่าไปชี้ว่าบาทต้องเท่านี้เท่านั้น

“เขาเป็นเจ้าของแท่นพิมพ์ สู้ไปมีแต่เจ๊ง”

2.ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มาถูกทางแล้วที่ไม่คิดใช้อัตราดอกเบี้ยเป็นเครื่องมือต่อกรกับดอลลาร์ ยิ่งเพิ่มดอกเบี้ยมากคนไทยยิ่งเจ็บ อย่าลืมว่า “ดอลลาร์แข็ง บาทไม่ได้อ่อน” รัฐบาลเพียงอย่าไปทำให้บาทอ่อนขึ้นมาเหมือนเงินปอนด์

3.ต้องเร่งเพิ่มปัจจัยที่ทำให้บาทแข็งค่า เพิ่มภูมิคุ้มกัน นั่นคืออุดการขาดดุลบัญชีเดินสะพัด เพิ่มรายได้เข้าประเทศ ส่งเสริมภาพลักษณ์เพื่อดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาให้มาก ช่วยกันใช้โอกาสประชุม APEC ให้คนทั้งโลกเห็นมุมบวกของประเทศ อย่าให้มีเหตุการณ์ฟื้นคืนภาพหลอนประชุมอาเซียนเมื่อ 10 กว่าปีก่อน

“ถ้าสิ้นปีนี้นักท่องเที่ยวไม่มา เราเหนื่อยแน่”

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 ก.ย. 65)

Tags: , , ,

Adblock test (Why?)


กรณ์ ถอดบทเรียนจากวิกฤตเงินปอนด์ แนะทางรอดค่าเงินบาท : อินโฟเควสท์ - สำนักข่าวอินโฟเควสท์
Read More

Wednesday, September 28, 2022

แฉแหลก! 'พลอย ทะลุวัง' แยกทางกลุ่ม โดนขูดรีด เคลื่อนไหวขอทุนรัฐบาลสหรัฐ แบ่งไม่ลงตัว - ไทยโพสต์

29 ก.ย.2565 - น.ส.เบญจมาภรณ์ นิวาส หรือ พลอย แนวร่วมม็อบสามนิ้ว อดีตสมาชิกกลุ่มนักเรียนเลว และกลุ่มทะลุวัง ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า แถลงการณ์ขอแยกทางกับองค์กรและกิจกรรมในชื่อ ทะลุวัง - ThaluWang

ชี้แจงว่าพลอยต้องการออกมาเคลื่อนไหวอย่างอิสระตามเจตจำนงเสรีของเรา ยังคงยึดมั่นเคลื่อนไหวต่อเพื่อประชาธิปไตย ยืนอยู่เคียงข้างประชาชนเสมอในนามของตนเอง ไม่ต้องการสังกัดกลุ่มหรือองค์กรใด

และอีกสาเหตุคือเราไม่เห็นด้วยกับวิธีการทำงานของสมาชิกบางคนในกลุ่มทะลุวังที่ยังเหลืออยู่ เราอึดอัดมาก อึดอัดมาโดยตลอด แต่ก็ยังอดทนไว้เพราะไม่ต้องการมีปัญหาแล้วทำให้ส่งผลกระทบต่อการทำงาน วันนี้เราจึงขอใช้พื้นที่ตรงนี้ในการแสดงจุดยืนอย่างชัดเจนเพื่อส่งเสียงของเรา

เราไม่เห็นด้วยกับแนวทางการเคลื่อนไหวที่ไม่รับฟังความเห็น รวมถึงใช้วิธีชี้นิ้วสั่งคนอื่นๆในกลุ่ม และเรายังรู้สึกไม่ปลอดภัยกับการมองข้ามเสียงของเหยื่อเพื่อกลับไปคุยกับผู้ที่ก่อเหตุความรุนแรงทางเพศ นอกจากนี้เรายังเสียความไว้เนื้อเชื่อใจ จากการที่บุคคลเหล่านี้หาพรรคพวก เพื่อโจมตีเราด้วยข่าวลือต่าง ๆ นา ๆ ซึ่งหลายคนที่กำลังอ่านอยู่น่าจะเคยได้ยินมาบ้าง ไม่มากก็น้อย ตั้งแต่ขโมยของ ยักยอกเงิน คลั่งคุณไสย (เราเป็นแม่มด ทีหลังก็อย่ามาขอให้เปิดไพ่ดูดวงให้แล้วกัน ) ทำให้เราเสียหาย และเสียความไว้ใจทั้งจากคนที่เคยรู้จักเราและไม่เคยรู้จักเรา โดยทั้งหมดทั้งมวล มันนำไปสู่ความขัดแย้งภายในกลุ่ม และทำให้เรารู้สึกเจ็บปวด

ที่ผ่านมาเราเจอความรุนแรงยังไงบ้าง เราไม่เคยพูดออกมา ทั้งไม่มีโอกาสได้พูด ไม่รู้จะพูดยังไง พูดไปจะมีคนเชื่อมั้ยว่าเราเป็นผู้ถูกกระทำ จะอธิบายความรุนแรงที่เจอให้คนอื่นฟังยังไง จะถูก gaslighting เหมือนที่ผ่านมามั้ย (gaslighting คือพฤติกรรมของการถูกปั่นหัว ใช้คำเบี่ยงเบนความคิดเพื่อให้เรารู้สึกถูกด้อยค่าและกลายเป็นคนผิดในเรื่องราวนั้น)

เราถูกแสวงหาผลประโยชน์การจากออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองและความเป็นเยาวชน ชื่อและผลงานของเรากับเพื่อนนำไปขอทุนเป็นค่าที่อยู่และค่าอาหาร ค่าเดินทาง ให้คนที่อ้างว่าจะดูแลเราเมื่อเราออกจากบ้าน แต่ผลปรากฎว่าเงินทุนตรงนั้นไม่ถูกแบ่งอย่างชัดเจนและไม่ไปถึงสมาชิกบางส่วน

นอกจากนี้”คนใกล้ชิด”ของบุคคลข้างต้น ก็ยังมาแสวงหาผลประโยชน์กับเราที่ยังเป็นเยาวชนต่อ เขาขูดรีดผลประโยชน์จากเราผ่านการฉวยเอาเรื่องราวของเราในขณะทำกิจกรรมไปเขียนขอทุนเข้าร่วมโครงการ YSEALI อ้างว่าเป็นผู้ที่ให้คำปรึกษาเราด้านกฎหมาย โดยมีผู้ดูแลของเราในตอนนั้นเห็นดีเห็นงามด้วยทั้งๆที่มันไม่ใช่เรื่องจริง เขานำเอกสารภาษาอังกฤษมาให้เราเซนชื่อโดยที่ตอนนั้นเราไม่ได้มีทักษะภาษาอังกฤษมากพอที่จะเข้าใจ และเขาอธิบายให้ฟังคร่าวๆว่าคืออะไร แต่ด้วยความเป็นเยาวชน เราไม่รู้ตัวว่ามันคือการขูดรีดผลประโยชน์ จนเพื่อนเราเตือนและจะขอช่วยดูเอกสารเต็มๆอีกที แต่จนตอนนี้ก็ยังไม่ได้ดู และเราก็ไม่ได้รับรู้ความคืบหน้าอีกเลยว่าเขาได้ไปหรือไม่ ไปตอนไหน หรือได้อะไรบ้างจาการขูดรีดและใช้เรื่องราวของเรา
แถมเราถูกกล่าวหาว่าเป็นความผิดของเราที่หยุดเคลื่อนไหว ทำให้ขอทุนไม่ได้

คือเราออกมาเคลื่อนไหว เราไม่ต้องการเงินเดือน ไม่ได้อยากทำเป็นอาชีพ เราเลยตัดสินใจทำงาน จึงเริ่มขายสติ๊กเกอร์ เพื่อเอาเงินไปต่อยอดไปซื้อไอแพดเพื่อมาทำงานและเรียนต่อยอดไปอีก แต่กลับกลายเป็นว่าเงินที่เราขายของได้กลับถูกเอาไปจนหมด เราขอแค่ไอแพดเครื่องเดียวเอามาวาดรูปขาย เราต้องถูกต่อว่าจนร้องไห้ออกมาถึงจะได้รับอนุญาตให้ซื้อ

คุณค่าภายในเราถูกลดทอน ทำให้ตัวเล็ก ทำให้เราคิดว่าตัวเราอ่อนแอ จนทำให้เพื่อนและคนอื่น ๆ ลำบาก เราถูกลดทอนตั้งแต่ตัวตน อัตลักษณ์ทางเพศ ความฝันการเป็นนักวาดนักเขียน อุดมการณ์ของแรงงานสร้างสรรค์ไม่เคยถูกยอมรับ เราบอกว่าไม่อยากทำ NFT มันขายฝันและเรามีจุดยืนชัดเจน แต่พอไม่ทำ หาเงินให้ไม่ได้ ก็โดนด่า โดนโจมตีแม้กระทั่งความเชื่อทางจิตวิญญาณที่เรายึดมั่น

โดนตีตราว่าเป็นคนโง่ ไม่รู้จักโต ใช้ชีวิตเองไม่ได้ จนเรารู้สึกไม่มีค่า มีชีวิตเพียงเพื่อหาเงินเอามาจุนเจือคนที่อ้างว่าจะคอยดูแลเรา จนกระทั่งมีคนที่สามารถเอาเงินมาให้อดีตคนดูแลของเราคนนี้ได้ เราถึงหลุดออกจากความกดดันและแสวงหาผลประโยชน์เหล่านี้ แม้สุดท้ายเราจะถูกปฏิบัติทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ ก็ตาม

ก็เคยฟีดแบคและสะท้อนความรุนแรงที่เขาทำ และที่เขาคนนั้นกำลังเจอ ทั้งจากแฟนของเขา ครอบครัว สังคมนักกิจกรรมที่ทำงาน เราเป็นคนที่ยืนเคียงข้างเสมอตั้งแต่วันที่เขาถูกโจมตี มีปัญหากับคนนั้นคนนี้ แต่สุดท้ายความจริงใจของเราก็เอาชนะอีโก้ของเขาไม่ได้เลย เสียงของเราไม่เคยถูกรับฟังอย่างแท้จริง พูดไปก็เหมือนพูดกับรัฐเผด็จการ โดนด่าและถูก gaslighting ถูกปั่นหัวกลับมา โดนตะโกนด่าใส่เป็นทรอม่าอีก เจอจากพ่อแท้ ๆ มาแล้วยังต้องมาเจอความรุนแรงซ้ำ ๆ

ทุกวันนี้เราก็ยังเจ็บปวด ทรอม่า แต่ก็พยายามยืนขึ้นอยู่ เริ่มกลับมาทำสิ่งที่ชอบได้แล้ว ภูมิใจมาก ๆ ที่ตอนนั้นเข้มแข็ง ต่อสู้ฟาดฟันจนได้ไอแพดมาวาดรูปและเรียนหนังสือ ได้เขียนนิยายตามที่หวังและได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระเสียที แม้กระทั่งเมนูก็ยังยินดีที่เราออกสักที

ด้วยเหตุผลนี้จึงทำให้เราและเพื่อนๆตัดสินใจขอออกจากองค์กรทะลุวัง ตอนนี้มีสมาชิกทะลุวังตามที่ได้กล่าวอ้างในพื้นที่สาธารณะเท่านั้น เราและเพื่อนคนอื่นๆขอไม่ข้องเกี่ยวในนามของทะลุวังอีกต่อไป

แต่เราคงหวาดกลัวประโยคบอกรักและคำว่าครอบครัว พ่อ แม่ ลูก ไปอีกนาน

Adblock test (Why?)


แฉแหลก! 'พลอย ทะลุวัง' แยกทางกลุ่ม โดนขูดรีด เคลื่อนไหวขอทุนรัฐบาลสหรัฐ แบ่งไม่ลงตัว - ไทยโพสต์
Read More

'กรณ์' แนะ 3 ทางรอดแก้ปัญหาค่าเงินบาท - ไทยโพสต์

'กรณ์' ยกบทเรียนจากวิกฤตเงินปอนด์ สู่ทางรอดของค่าเงินบาท แนะ 3 ทางรอดที่ต้องเร่งดำเนินการ

29 ก.ย.2565 - นายกรณ์ จาติกวณิช กรรมการบริหารพรรคชาติพัฒนากล้า (ชพก.) โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีการลดค่าเงินปอนด์ของอังกฤษว่า ถือเป็นการปรับลดค่าเงินปอนด์อย่างรุนแรงเป็นผลโดยตรงจากนโยบายเศรษฐกิจของนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีคลังคนใหม่ ตาที่นายกฯ Liz Truss ได้หาเสียงไว้ว่าจะทั้งเพิ่มเงินกู้อย่างมหาศาล และจะปรับลดภาษีพร้อมกัน ท่ามกลางความกดดันที่มีอยู่เดิมจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ ซึ่งอังกฤษขาดดุลบัญชีเดินสะพัดอยู่แล้วถึง 8% ของ GDP และอาจจะเพิ่มเป็น 10% ได้ด้วยนโยบายของนายกฯคนใหม่ ในขณะที่หนี้สาธารณะอยู่ที่กว่า 100% ของ GDP อยู่แล้ว

นายกรณ์ กล่าวว่า วันนี้เงินปอนด์อยู่ที่ประมาณ 1.08 ต่อดอลลาร์ มีอยู่ช่วงหนึ่งที่อ่อนค่าที่สุดเป็นประวัติศาสตร์เมื่อเทียบกับดอลลาร์ สาเหตุคือวิกฤติศรัทธา นักลงทุนสูญเสียความไว้วางใจในนโยบายรัฐบาล นี่คือสิ่งที่น่ากลัวที่สุด ไทยเราเองกำลังจะเข้าสู่ฤดูการเลือกตั้ง คือเข้าสู่ช่วงลดแลกแจกแถม เราจึงต้องตระหนักในความรับผิดชอบทางการคลัง

“วันนี้เราเป็นประเทศที่มีส่วนต่างดอกเบี้ยที่กว้างมากที่สุดในอาเซียนเมื่อเทียบกับดอกเบี้ยของอเมริกา หากทำอะไรให้เกิดวิกฤติศรัทธาขึ้นมาเราจะเสี่ยงที่จะถูกตลาดเงินกดดันให้ต้องเพิ่มดอกเบี้ยอย่างแรง ซึ่งจะไม่เป็นผลดีกับผู้ประกอบการและประชาชนที่เป็นหนี้ อย่าคิดว่าทำอะไรก็ได้ เราเป็นส่วนหนึ่งของระบบเศรษฐกิจโลกที่วันนี้เปราะบางมาก ความน่าเชื่อถือ ความเชื่อมั่น เป็นเรื่องสำคัญที่สุด”นายกรณ์ระบุ

นายกรณ์ กล่าวต่อว่า ในระหว่างนี้ ขอให้คำแนะนำไว้ 3 ข้อดังนี้คือ 1.อย่าพยายามไปสู้กับดอลลาร์ อย่าไปชี้ว่าบาทต้องเท่านี้เท่านั้น เขาเป็นเจ้าของแท่นพิมพ์ สู้ไปมีแต่เจ๊ง 2.แบงก์ชาติมาถูกทางแล้ว ที่ไม่คิดใช้อัตราดอกเบี้ยเป็นเครื่องมือต่อกรกับดอลลาร์ ยิ่งเพิ่มดอกเบี้ยมากคนไทยยิ่งเจ็บ อย่าลืมว่า 'ดอลลาร์แข็ง บาทไม่ได้อ่อน' รัฐบาลเพียงอย่าไปทำให้บาทอ่อนขึ้นมาเหมือนเงินปอนด์ และ 3.ต้องเร่งเพิ่มปัจจัยที่ทำให้บาทแข็งค่า เพิ่มภูมิคุ้มกัน นั่นคืออุดการขาดดุลบัญชีเดินสะพัด เพิ่มรายได้เข้าประเทศ ส่งเสริมภาพลักษณ์เพื่อดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาให้มาก ช่วยกันใช้โอกาสประชุม APEC ให้คนทั้งโลกเห็นมุมบวกของประเทศ อย่าให้มีเหตุการณ์ฟื้นคืนภาพหลอนประชุมอาเซียนเมื่อกว่า 10 ปีก่อน ถ้าสิ้นปีนี้นักท่องเที่ยวไม่มา เราเหนื่อยแน่

Adblock test (Why?)


'กรณ์' แนะ 3 ทางรอดแก้ปัญหาค่าเงินบาท - ไทยโพสต์
Read More

ไปคนละทาง : 11 กูรูลูกหนังฟันธงท็อป 4 พรีเมียร์ลีก - Goal.com

"มันยังเป็นแค่ช่วงต้นฤดูกาล แต่ผมคิดว่าท็อปโฟร์ฤดูกาลนี้จะเป็น แมนฯซิตี้, ลิเวอร์พูล, สเปอร์ส และ อาร์เซนอล ไม่ว่าจะเรียงอันดับอย่างไร แต่จะเป็นสี่ทีมนี้"

"เชลซี ยังมีเรื่องต้องจัดการ ต้องรอดูว่า แกรแฮม พ็อตเตอร์ จะทำผลงานได้ดีแค่ไหนที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์"

"สำหรับ แมนฯยูไนเต็ด ผมไม่คิดว่าพวกเขาจะทำได้ในฤดูกาลนี้ พวกเขายังมีงานอีกมากที่ต้องทำ"

Adblock test (Why?)


ไปคนละทาง : 11 กูรูลูกหนังฟันธงท็อป 4 พรีเมียร์ลีก - Goal.com
Read More

'ทำแท้งทางไกล' ทางเลือกของหญิงอเมริกัน หลังกฎหมายทุกรัฐไม่เท่าเทียม - Thai Rath

Summary
  • การทำแท้งในสหรัฐอเมริกากำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว นับตั้งแต่ศาลสูงสุดสหรัฐอเมริกาวินิจฉัยว่า รัฐต่างๆ สามารถออกกฎหมายต่อต้านการทำแท้งได้ เมื่อเดือนมิถุนายน 2022
  • วิธีน่าสนใจที่กำลังเป็นทางเลือกใหม่คือ กินยาเพื่อยุติการตั้งครรภ์แทนที่จะอาศัยการทำแท้งในศูนย์บริการทางการแพทย์ เช่นเดียวกับการให้บริการแบบ telemedicine
  • ผู้ให้บริการรายหนึ่งเปิดเผยว่า ในเดือนกันยายน 2021 ระบุว่า มีผู้ขอรับยาประมาณ 40 คนต่อวัน แต่หลังจากคำวินิจฉัยของศาลสูงสุด มีราว 10,000 คนต่อวัน
Share article
creator
Author

ธิติมา อุรพีพัฒนพงศ์

นักมานุษยวิทยาผู้สังเกตโลกผ่านกระดานชนวนสมัยใหม่

Follow

Adblock test (Why?)


'ทำแท้งทางไกล' ทางเลือกของหญิงอเมริกัน หลังกฎหมายทุกรัฐไม่เท่าเทียม - Thai Rath
Read More

กรมการขนส่งทางราง เรียกถกผู้ให้บริการรถไฟฟ้าแก้ปมขัดข้อง - กรุงเทพธุรกิจ

นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง เปิดเผยว่า วันนี้ (28 กันยายน 2565) ตนได้ร่วมประชุมหารือกับผู้ให้บริการระบบรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ได้แก่

  • การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)
  • บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (รฟฟท.)
  • บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BTSC)
  • บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BEM)
  • บริษัท เอเชีย เอรา วัน จำกัด (AERA1)

เพื่อหาแนวทางการดำเนินงานกรณีระบบจ่ายไฟฟ้าขับเคลื่อนขัดข้องและการจัดการการระบายอากาศภายในขบวนรถขนส่งทางราง

โดยมีกรณีศึกษาของรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2565 เวลา 13.46 น. ระบบจ่ายไฟฟ้าขับเคลื่อนขัดข้องช่วงสถานีหัวหมากถึงสถานีสุวรรณภูมิ ส่งผลให้ไม่สามารถเดินรถไฟฟ้าได้ ต้องหยุดให้บริการระหว่างสถานีหัวหมากถึงสถานีสุวรรณภูมิเป็นการชั่วคราว โดยให้บริการเดินรถแบบไม่เต็มรูปแบบ ระหว่างสถานีพญาไทถึงสถานีรามคำแหง จนเมื่อเวลา 16.00 น. จึงสามารถให้บริการเดินรถแบบไม่เต็มรูปแบบ ระหว่างสถานีพญาไทถึงสถานีสุวรรณภูมิ และได้สามารถดำเนินการแก้ไขระบบจ่ายไฟฟ้าขับเคลื่อนจนสามารถกลับมาใช้แผนการเดินรถตามปกติได้ในเวลา 17.40 น. 

กรมการขนส่งทางราง เรียกถกผู้ให้บริการรถไฟฟ้าแก้ปมขัดข้อง

ทั้งนี้ ที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาหาแนวทางการดำเนินงานกรณีระบบจ่ายไฟฟ้าขับเคลื่อนขัดข้องและการจัดการการระบายอากาศภายในขบวนรถขนส่งทางราง เมื่อเกิดเหตุรถขัดข้อง โดยได้แนวทางการดำเนินงาน ดังนี้

1. ประชาสัมพันธ์แจ้งให้ผู้โดยสารในขบวนรถทราบถึงเหตุการณ์ขัดข้องที่เกิดขึ้น และแนวทางปฏิบัติต่อเหตุการณ์ดังกล่าวโดยเร็ว รวมถึงประชาสัมพันธ์สถานะการแก้ไขปัญหาและแนวทางปฏิบัติให้ผู้โดยสารทราบเป็นระยะ เพื่อลดความวิตกกังวลของผู้โดยสารขณะติดอยู่บนขบวนรถ

2. เมื่อเกิดเหตุการณ์ระบบจ่ายไฟฟ้าขับเคลื่อนขัดข้อง ระบบระบายอากาศภายในขบวนรถจะต้องสามารถทำงานต่อเนื่องได้เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 45 นาที หรือมีช่องที่สามารถเปิดให้อากาศภายนอกไหลผ่านได้อย่างเหมาะสมและปลอดภัย

3. ตรวจสอบแบตเตอรี่สำรองหรือแหล่งจ่ายไฟสำรองภายในขบวนรถให้มีสภาพพร้อมใช้งานเมื่อระบบจ่ายไฟฟ้าขับเคลื่อนขัดข้อง โดยอุปกรณ์ดังกล่าวต้องมีพลังงานเพียงพอสำหรับการทำงานของระบบที่จำเป็นต่อความปลอดภัยของผู้โดยสารและขบวนรถ เช่น ระบบห้ามล้อ ระบบระบายอากาศ ระบบส่องสว่าง ระบบเปิด – ปิดประตูอัตโนมัติ ระบบอพยพ และระบบติดต่อสื่อสาร

กรมการขนส่งทางราง เรียกถกผู้ให้บริการรถไฟฟ้าแก้ปมขัดข้อง

4. กรณีหากไม่สามารถนำรถไฟฟ้าไปยังสถานีถัดไปได้ ไม่ว่าด้วยการขับเคลื่อนเองหรือต่อพ่วง หรือเมื่อระบบระบายอากาศไม่สามารถทำงานได้ หรือต้องใช้เวลาแก้ไขนานเกินควร ให้พิจารณาอพยพผู้โดยสารออกจากขบวนรถอย่างปลอดภัยไปยังสถานีที่ใกล้ที่สุด โดยมีเจ้าหน้าที่คอยกำกับดูแลการอพยพ

5. ให้ผู้ให้บริการระบบรถไฟฟ้าสำรวจจุดเสี่ยงที่อาจทำให้ระบบจ่ายไฟฟ้าขับเคลื่อนเกิดการลัดวงจร และพิจารณาหาแนวทางป้องกันไม่ให้ระบบจ่ายไฟฟ้าขับเคลื่อนขัดข้อง ทั้งนี้ ให้หน่วยงานผู้ให้บริการระบบรถไฟฟ้าเตรียมพร้อมรับมือพายุที่กำลังเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการให้บริการขนส่งทางรางได้

6. เมื่อเกิดปัญหาความขัดข้องของการเดินรถไฟฟ้าที่ทำให้การเดินรถเป็นไปด้วยความล่าช้าเกิดการสะสมของผู้โดยสารตกค้างที่สถานี หน่วยงานที่ให้บริการให้ดำเนินการประสานกับหน่วยงานผู้ให้บริการขนส่งมวลชนที่เกี่ยวข้อง เช่น องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เพื่อส่งรถโดยสารประจำทางเข้ามาให้บริการในจุดที่เกิดปัญหา เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสารมีทางเลือกในการเดินทางต่อไป

7. ดำเนินการฝึกซ้อมแผนการรับมือและแผนรองรับในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน/ขัดข้อง เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องสามารถปฏิบัติได้อย่างรวดเร็ว ปลอดภัย ทันต่อเหตุการณ์และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น 

โดยช่วงเช้าวันนี้กรมการขนส่งทางรางได้ลงพื้นที่สำรวจหาแนวทางการแก้ไขและป้องกันปัญหาที่เกิดขึ้น ร่วมกับผู้แทน บริษัท เอเชีย เอรา วัน จำกัด ผู้ให้บริการเดินรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ซึ่งกรมการขนส่งทางรางจะติดตามการปฏิบัติงานของผู้ให้บริการระบบรถไฟฟ้า เพื่อให้ระบบขนส่งทางรางเกิดความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยสูงสุดแก่ประชาชนต่อไป

กรมการขนส่งทางราง เรียกถกผู้ให้บริการรถไฟฟ้าแก้ปมขัดข้อง

Adblock test (Why?)


กรมการขนส่งทางราง เรียกถกผู้ให้บริการรถไฟฟ้าแก้ปมขัดข้อง - กรุงเทพธุรกิจ
Read More

หาทางแก้!! ตำนาน แมนยู แนะนำ แม็กไกวร์ พบจิตแพทย์โดยด่วน - TrueID Sport

แกรี่ เนวิลล์ ตำนานแข้ง แมนยู แนะนำให้ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ กองหลังทีมชาติอังกฤษ ไปปรึกษาจิตแพทย์โดยด่วน เพื่อเรียกความมั่นใจกลับคืนมา 

ทนเห็นรุ่นน้องเป็นแบบนี้ไม่ได้แล้ว สำหรับ แกรี่ เนวิลล์ อดีตแบ็กขวาชื่อดังของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกมาแนะนำให้ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ กองหลังกัปตันทีม "ปีศาจแดง" เข้าไปปรึกษากับจิตแพทย์โดยด่วน เพื่อเรียกความมั่นใจของตัวเองกลับมา หลังโดนแฟนบอลโจมตีอย่างหนัก ในช่วงที่ผ่านมา

เวลานี้ แม็กไกวร์ หลุดไปเป็นตัวสำรองของ แมนยู ในยุค เอริค เทน ฮาก คุมทัพ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังทำผลงานได้อย่างย่ำแย่นับตั้งแต่เปิดฤดูกาล 2022/23 

ทว่าในทีมชาติอังกฤษ แม็กไกวร์ ยังได้ลงเป็นตัวจริง ในศึกเนชั่นส์ ลีก เมื่อคืนวันจันทร์ที่ 26 กันยายน ที่ผ่านมา แต่เจ้าตัวก็มาเล่นพลาดในเกมดวลกับ ทีมชาติเยอรมัน ถึง 2 ครั้ง และเป็นเหตุให้ทีมเสีย 2 ประตู 

หลังจบเกมดังกล่าว เหล่าแฟนบอลทีมชาติอังกฤษ รวมทั้งนักวิจารณ์ กูรูลูกหนัง ได้ออกมาสับแหลกฟอร์มการเล่นของ แม็กไกวร์ ว่าเละเทะ อย่างมาก 

จากสถานการณ์ดังกล่าว เนวิลล์ ที่เวลานี้ทำหน้าที่เป็นกูรูลูกหนัง ได้ออกมาเรียกร้องให้ แม็กไกวร์ รีบไปปรึกษาจิตแพทย์ เพื่อเรียกความมั่นใจของตัวเองกลับคืนมา 

"ผมเคยไปปรึกษาจิตแพทย์นะ นักเตะทุกคนเคยทั้งนั้น ตอนที่ผมเสียความมั่นใจ ผมไปขอคำปรึกษา เพื่อช่วยให้ผมผ่านช่วงเวลาเหล่านั้นไปให้ได้"

"ผมยังเชื่อว่า ในอนาคต ฟอร์มของ แม็กไกวร์ จะกลับมา ผมอยากให้เขาทำในสิ่งที่ผมเคยทำ ผมเคยไปหาหมอที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผมคุยกับนักจิตวิทยา คุณต้องได้รับการช่วยเหลือจากใครสักคนบ้างในบางครั้ง"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

-------------------------------------------------

วิธีการดูบอลพรีเมียร์ลีก 2022/23 ที่ TrueID : แพ็กเกจชมครบทุกคู่ - ซิมทรูชมทีมโปรดฟรี!

รวมข้อมูลแก้ไขปัญหาการใช้งาน รับชม หรือโปรโมชันกิจกรรมต่างๆ << คลิกที่นี่

อัพเดทข่าว ผลบอล พรีเมียร์ลีก แบบทันใจ พร้อมวิเคราะห์คู่เด่นในรอบสัปดาห์ ส่งถึงมือคุณ
คลิกเลย!! หรือ กด *301*32# โทรออก

หรือ อัพเดทข่าวบอลไทยลีก กด *301*36# โทรออก

Adblock test (Why?)


หาทางแก้!! ตำนาน แมนยู แนะนำ แม็กไกวร์ พบจิตแพทย์โดยด่วน - TrueID Sport
Read More

Tuesday, September 27, 2022

สรุปหุ้นเด่นทางพื้นฐาน (28/09/65) - efinanceThai

บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) หุ้น ราคาพื้นฐาน(บาท) คำแนะนำ/ประเด็นที่สำคัญ GLOBAL 26.35 คาดอัตราการทำกำไรในช่วง 3Q65 จะเพิ่มขึ้นมากกว่า 150 bps YoY จากการปรับราคาสินค้า และยอดขายสาขาเดิมที่คาดขยับขึ้นราว 3-6%YoY ทำให้กำไรเติบโต YoY ผสานประเด็นพายุโนรูที่กำลังเข้าสู่ภาคอีสานเพิ่มโอกาสต่อยอดขายการซ่อมแซมบ้าน AOT 80 นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องยังเป็นปัจจัยเด่นที่หนุนภาคการท่องเที่ยวไทยฟื้นตัว ผสานกับการทยอยเปิดภาคการท่องเที่ยวในญี่ปุ่น (ฟรี VISA ระยะสั้น) คาดจะเพิ่มรายได้ให้แก่ AOT มากยิ่งขึ้น หนุนผลการดำเนินงาน AOT พลิกกลับมา Turnaround ได้ บล.กรุงศรี หุ้น ราคาพื้นฐาน(บาท) คำแนะนำ/ประเด็นที่สำคัญ BEM 11.5 มี Sentiment บวกหลังวานนี้ศาลชั้นต้นตัดสินยกคำฟ้องกรณี BTS ยื่นฟ้อง ผู้ว่าการ รฟม.และคณะในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข (TOR) การประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม สะท้อนการประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้มในช่วงที่ผ่านมาเป็นไปตามหลักกฎหมาย จึงทำให้ BEM มีโอกาสสูงที่จะได้เซ็นสัญญากับโครงการนี้ GFPT 19 คาดได้ประโยชน์หลังจากญี่ปุ่นประกาศเข้าแทรกแซงค่าเงินเยน รวมถึงได้ประโยชน์จากการที่ญี่ปุ่นประกาศเปิดฟรีวีซ่าให้เข้าประเทศได้ตั้งแต่ 16 ต.ค.นี้ ช่วยหนุนดีมานด์ผลิตภัณฑ์จากไก่ของ GFPT เพิ่มขึ้น (ญี่ปุ่นเป็นตลาดส่งออกคิดเป็น 48% ของ GFPT) บล.ฟินันเซีย ไซรัส หุ้น ราคาพื้นฐาน(บาท) คำแนะนำ/ประเด็นที่สำคัญ NSL 26 คาดกำไร 3Q22 +4% Q-Q, +249% Y-Y ทำ New High สวนทางฤดูกาล จากการฟื้นตัวของสินค้ากลุ่มแซนด์วิชอบร้อน เบเกอรี่ และกลุ่ม Food Service ขณะที่ราคาวัตถุดิบค่อนไปในทางทรงตัว ขณะที่ 4Q22 คาดเร่งขึ้นต่อจาก High Season บล.ดาโอ (ประเทศไทย) หุ้น ราคาพื้นฐาน(บาท) คำแนะนำ/ประเด็นที่สำคัญ LH 9.5 อสังหา Mid-High End ยังแกร่งคาดยอด Presale-โอน ไม่แผ่ว แนวโน้มรายได้ปี ’22เติบโตโดดเด่น BB Consensus คาดการณ์รายได้โตเฉลี่ย +11%YoY หนุนด้วยยอดขายอสังหาแนวราบ Mid-High Endโดยเฉพาะบ้านเดียวของ LH ที่ขายดีและเป็นสัดส่วนมากกว่า 70% ของรายได้การขายอสังหา

Adblock test (Why?)


สรุปหุ้นเด่นทางพื้นฐาน (28/09/65) - efinanceThai
Read More

เอ็มเอสซีเล็งพัฒนาโซลูชันการขนส่งสินค้าทางอากาศ หวังตอบสนองความต้องการตลาด - ThaiPR.net

เอ็มเอสซี เมดิเตอร์เรเนียน ชิปปิง คอมปะนี เอสเอ (MSC Mediterranean Shipping Company SA) ผู้นำระดับโลกด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ ได้เริ่มพัฒนาโซลูชันเอ็มเอสซี แอร์ คาร์โก (MSC Air Cargo) ใหม่ เพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้าและเป็นบริการเสริมสำหรับโซลูชันการขนส่งด้วยตู้คอนเทนเนอร์

เอ็มเอสซี แอร์ คาร์โกอยู่ระหว่างขั้นตอนการพัฒนามาหลายเดือนแล้ว โดยโซลูชันใหม่นี้จะเริ่มให้บริการตั้งแต่ต้นปี 2566 หลังจากการส่งมอบเครื่องบินโบอิ้ง 777-200F ของแบรนด์เอ็มเอสซีลำแรกจากทั้งหมด 4 ลำ ซึ่งจะให้บริการโดยสายการบินแอตลาส แอร์ (Atlas Air) ซึ่งเป็นสายการบินในเครือแอตลาส แอร์ เวิลด์ไวด์ โฮลดิงส์ อิงค์ (Atlas Air Worldwide Holdings Inc)

เอ็มเอสซีได้แต่งตั้งให้คุณแจนนี ดาเวล (Jannie Davel) เข้ามาพัฒนาธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศ และสร้างทีมงานเพื่อดำเนินธุรกิจ โดยเขาเคยทำงานให้กับเดลต้า คาร์โก (Delta Cargo) รวมถึงเอมิเรตส์ สกายคาร์โก (Emirates SkyCargo) และดีเอชแอล (DHL)

คุณโซเรน ทอฟต์ (Soren Toft) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเอ็มเอสซีให้ความเห็นเกี่ยวกับโครงการริเริ่มใหม่นี้ว่า

“เรามีความยินดีที่จะประกาศเรื่องการพัฒนาเอ็มเอสซี แอร์ คาร์โก และขอต้อนรับแจนนี ดาเวลในฐานะผู้นำในบริการใหม่ที่น่าตื่นเต้นนี้สำหรับลูกค้าเอ็มเอสซี โดยนี่เป็นก้าวแรกของเราในตลาดนี้ และเราวางแผนที่จะดำเนินการสำรวจเส้นทางต่าง ๆ อย่างไม่ลดละ เพื่อพัฒนาการขนส่งสินค้าทางอากาศต่อไป เพื่อเติมเต็มธุรกิจหลักของเราในการขนส่งด้วยตู้คอนเทนเนอร์”

เกี่ยวกับแจนนี ดาเวล

คุณแจนนี ดาเวล (Jannie Davel) เป็นผู้บริหารที่ประสบความสำเร็จในอุตสาหกรรมการขนส่งสินค้าทางอากาศ โดยมีประสบการณ์เกือบ 30 ปีในอุตสาหกรรม เขาได้รับแต่งตั้งให้เป็นรองประธานฝ่ายบริหาร RFQ ระดับโลกของดีเอชแอลในปี 2551 จากนั้นได้เลื่อนตำแหน่งเป็นรองประธานฝ่ายการพัฒนาและดำเนินงานด้านการขนส่งสินค้าทางอากาศระดับโลกในเยอรมนี และต่อมาดำรงตำแหน่งรองประธานระดับอาวุโสฝ่ายการขนส่งสินค้าทางอากาศในทวีปอเมริกาและหัวหน้าฝ่ายการขนส่งสินค้าทางอากาศของสหรัฐ ในปี 2561 เขาได้ร่วมงานกับเอมิเรตส์ สกายคาร์โกในตำแหน่งรองประธานฝ่ายปฏิบัติการด้านการขนส่งสินค้าเชิงพาณิชย์ของทวีปอเมริกา และล่าสุดเขาดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการฝ่ายการขนส่งสินค้าเชิงพาณิชย์ของเดลต้าในเมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย

เกี่ยวกับเอ็มเอสซี

เอ็มเอสซี เมดิเตอร์เรเนียน ชิปปิง คอมปะนี (MSC Mediterranean Shipping Company) มีสำนักงานใหญ่ในกรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยเป็นผู้นำระดับโลกด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ของเอกชนและก่อตั้งขึ้นในปี 2513 โดยคุณเกียนลุยจิ อาพอนตี (Gianluigi Aponte) ในฐานะหนึ่งในสายการเดินเรือตู้คอนเทนเนอร์ชั้นนำของโลก เอ็มเอสซีมีสำนักงาน 675 แห่งใน 155 ประเทศทั่วโลก โดยกลุ่มเอ็มเอสซีมีพนักงานกว่า 150,000 คน ด้วยการเข้าถึงเครือข่ายแบบบูรณาการของทรัพยากรการขนส่งทางถนน รถไฟ และทะเล ซึ่งขยายไปทั่วโลก บริษัทมีความภาคภูมิใจในการนำเสนอบริการระดับโลกด้วยองค์ความรู้ในท้องถิ่น สายการเดินเรือของเอ็มเอสซีแล่นบนเส้นทางการค้ามากกว่า 260 เส้นทาง โดยเทียบท่าที่ท่าเรือ 520 แห่ง

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.msc.com

รูปภาพ – https://ift.tt/aRh987N
โลโก้ – https://ift.tt/fkabOcp

ที่มา: พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์

Adblock test (Why?)


เอ็มเอสซีเล็งพัฒนาโซลูชันการขนส่งสินค้าทางอากาศ หวังตอบสนองความต้องการตลาด - ThaiPR.net
Read More

'รัชดา' ชี้รัฐบาลเดินหน้าเรื่องความเสมอทางเพศเวทีนานาชาติ - ไทยโพสต์

รัฐบาลขับเคลื่อนความเสมอภาคทางเพศและการเสริมพลังสตรี ผ่านเวทีประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านสตรี-สหรัฐอเมริกา

28 ก.ย.2565 – น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 27 ก.ย. ครม.ได้เห็นชอบหลักการร่างถ้อยแถลงร่วมการหารือระดับรัฐมนตรีอาเซียน- สหรัฐอเมริกาว่าด้วยความเสมอภาคระหว่างเพศและการเสริมพลังสตรี (Joint Statement of the ASEAN - U.S. Ministerial Dialogue on Gender Equality and Women's Empowerment) ในการประชุมพิเศษระดับรัฐมนตรีอาเซียนด้านสตรี (ASEAN Ministerial Meeting on Women- AMMW) – สหรัฐอเมริกา (United State) เพื่อการส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศและการเสริมพลังสตรี ที่จัดขึ้นในวันที่ 29 ก.ย.2565 ผ่านระบบการประชุมทางไกล ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เสนอ

สำหรับสาระสำคัญของร่างถ้อยแถลง อาทิ 1.ให้ความสำคัญกับความเสมอภาคระหว่างเพศการเสริมพลังสตรี การกำกับดูแลในระดับต่าง ๆ และการขจัดความรุนแรงต่อสตรีและเด็ก รวมถึงสนับสนุนกฎหมายระหว่างประเทศ 2.เสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจของสตรี การมีส่วนร่วมของกำลังแรงงานทั่วทั้งภูมิภาคอาเซียน ส่งเสริมการเป็นผู้ประกอบการและการมีส่วนร่วมในตลาด 3.ส่งเสริมการดำเนินการตามกรอบยุทธศาสตร์ การบูรณาการระหว่างเพศของอาเซียนและแผนงานของคณะกรรมการอาเซียนด้านสตรี (พ.ศ.2564 - 2568) และกรอบการทำงานแผนงานของอาเซียนที่เกี่ยวข้อง 4. สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยและปลอดภัย สำหรับงานส่งเสริมพลังทางเศรษฐกิจของสตรีและเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการลงทุนอย่างต่อเนื่องของผู้นำสตรี และ 5.เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการขจัดความรุนแรงด้วยเหตุแห่งเพศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความรุนแรงด้วยเหตุแห่งเพศที่เพิ่มจำนวนขึ้น

Adblock test (Why?)


'รัชดา' ชี้รัฐบาลเดินหน้าเรื่องความเสมอทางเพศเวทีนานาชาติ - ไทยโพสต์
Read More

อยู่ถูกที่ถูกทาง เปิด 6 สถิติสวยหรูของ "แม็กไกวร์" ในเกมอังกฤษ เจ๊า "เยอรมนี" - ไทยรัฐ

6 สถิติของ แฮร์รี แม็กไกวร์ ในเกมที่เสมอกับ เยอรมนี เป็นสิ่งที่ไม่น่าแปลกที่ทำให้ แกเรธ เซาธ์เกต เรียกติดทีมชาติอังกฤษ อยู่เสมอ

วันอังคารที่ 27 กันยายน 2565 ควันหลงหลังจากเกมที่ ทีมชาติอังกฤษ เปิดเวมบลีย์ สเตเดียม เสมอกับ ทีมชาติเยอรมนี ไป 3-3 ในนัดส่งท้ายรอบแบ่งกลุ่มของศึก เนชันส์ ลีก 2022 เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา

ชาวเน็ตบนทวิตเตอร์นำสถิติการเล่นของ แฮร์รี แม็กไกวร์ ปราการหลังของทัพ "ปิศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาโพสต์บนโลกออนไลน์ ซึ่งมีสถิติที่ดีมากๆ ไม่ว่าจะเป็นในด้านของ การเคลียร์บอล (4 ครั้ง), การเปิดบอลยาวสำเร็จ (4 ครั้ง), ชนะลูกบนพื้น (2 จาก 2), เข้าปะทะสำเร็จ (2 ครั้ง), แย่งบอลสำเร็จ (1 หน) และ ชนะลูกกลางอากาศ (1 จาก 1) 

อย่างไรก็ตาม ถือเป็นข่าวร้ายของแฟนๆ "ปิศาจแดง" แม้เจ้าตัวจะลงเล่นได้ครบ 90 นาทีในแมตช์กับ ทีมชาติเยอรมนี แต่ภายหลังจากเกมนี้ เจ้าตัวมีอาการบาดเจ็บที่บริเวณกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง หรือแฮมสตริง และมีลุ้นที่จะไม่ได้เล่นในสัปดาห์นี้กับสโมสรเสียด้วย 

Adblock test (Why?)


อยู่ถูกที่ถูกทาง เปิด 6 สถิติสวยหรูของ "แม็กไกวร์" ในเกมอังกฤษ เจ๊า "เยอรมนี" - ไทยรัฐ
Read More

เสพสมบ่มิสม : ปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศเด็ก(1) - เดลินิวส์ออนไลน์

This website uses cookies to improve your experience while you navigate through the website. Out of these, the cookies that are categorized as necessary are stored on your browser as they are essential for the working of basic functionalities of the website. We also use third-party cookies that help us analyze and understand how you use this website. These cookies will be stored in your browser only with your consent. You also have the option to opt-out of these cookies. But opting out of some of these cookies may affect your browsing experience.

Adblock test (Why?)


เสพสมบ่มิสม : ปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศเด็ก(1) - เดลินิวส์ออนไลน์
Read More

Monday, September 26, 2022

BCG ทางรอดธุรกิจ จุดเปลี่ยนเพื่อความยั่งยืน - กรุงเทพธุรกิจ

จุฬารัตน์ ตันประเสริฐ รองผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เปิดมุมมองในเวทีเสวนา “ขับเคลื่อนประเทศด้วย BCG Economy Model” ภายในงาน SX SUSTAINABILITY EXPO 2022 ว่า หากนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมมาปรับใช้ด้วยกระบวนการบีซีจีจะทำให้ประเทศไทยสามารถพัฒนา ยกระดับเศรษฐกิจ คุณภาพชีวิต รวมถึงเติบโตได้อย่างยั่งยืน

“บีซีจีจะเดินหน้าไปได้ต้องดำเนินการแบบจตุภาคี ร่วมมือกันกับทั้งภาครัฐและภาคเอกชน โดยสิ่งสำคัญคือ การสร้างกำลังคนที่จะเป็นแกนหลักในการขับเคลื่อนงานของทุกๆ ภาคส่วนและทุกๆ อุตสาหกรรม”

ปัจจุบัน ประเทศไทยต้องเผชิญความท้าทายในหลายหลายมิติ เช่นภาคการเกษตรและอาหาร ใช้แรงงานกว่า 32% ทว่าสร้างจีดีพีได้ 13% ประสิทธิภาพการผลิตต่ำกว่าเพื่อนบ้าน 20-50% นำเข้าปัจจัยการผลิตมากกว่า 1 แสนล้านบาท

ด้านสุขภาพและการแพทย์ ยา 37% ในบัญชีหลักของชาติรวมถึงวัคซีนรักษาโรคต้องนำเข้า ค่าใช้จ่ายยา 1.9 แสนล้านบาท 70% ต้องนำเข้า, ด้านพลังงานวัสดุและเคมีชีวภาพ แม้เป็นผู้ส่งออกอันดับต้นๆ ของอ้อย มันสำปะหลัง แต่นำเข้าพลังงานกว่า 1 ล้านล้านบาท และเคมีภัณฑ์ 5 แสนล้านบาท ชีวมวล 40 ล้านตัน ไม่ได้ใช้ประโยชน์และต้องเผาทิ้งซึ่งทำให้เกิดมลพิษ

นอกจากนี้ การท่องเที่ยงและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ นักท่องเที่ยวต่างชาติลดลง 60% จากผลพวงสถานการณ์โควิด-19 ขณะเดียวกันการประยุกต์ใช้แนวคิดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ยังมีข้อจำกัด

ร่วมมือยกระดับ ‘อีโคซิสเต็ม’

ชินาวุธ ชินะประยูร ผู้ช่วยผู้อำนวยการ กลุ่มงานส่งเสริมระบบนิเวศเศรษฐกิจดิจิทัล สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า กล่าวว่า บทบาทของดีป้ามุ่งสนับสนุนการทำดิจิทัลทรานสฟอร์เมชันเป็นหลัก โดยดีป้าจะเป็นตัวเชื่อมโยงเพื่อการทำงานร่วมกันของหลายภาคส่วน

ทั้งนี้ ที่สำคัญคือการทำอิมพรีเมนเทชันโมเดลที่ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งแน่นอนว่ารัฐไม่อาจทำได้ทั้งหมด ต้องมีความร่วมมือกับหลายภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นภาคเอกชน สตาร์ทอัพ ภายใต้โจทย์คือทำอย่างไรจะทำให้เกิดการลงมือทำและมีการปรับใช้ได้จริง

แปลว่าวันนี้จำเป็นต้องสร้างคนที่มาช่วยทำงาน โดยเฉพาะเทคโพรวายเดอร์หรือสตาร์ทอัป เบื้องต้นเช่น เกษตรแม่นยำ โดรน ฯลฯ

มากกว่านั้นนำดาต้ามาใช้ประโยชน์ สร้างความแข็งแรงให้กับระบบนิเวศทางเทคโนโลยี รวมถึงอินฟราสตรักเจอร์ ผลักดันให้เกิดการขับเคลื่อนงานขึ้นจริง ซึ่งอาจต้องมีข้อเสนอ รางวัล หรือสิทธิประโยชน์บางอย่างเพื่อลดภาระและสร้างแรงจูงใจ

'บีซีจี’ ทางรอดธุรกิจโลก-ไทย

ศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เผยว่า ในมุมมองของตลาดทุน บีซีจีจะเป็นทางรอดของโลกและของประเทศไทย ซึ่งหากไม่เริ่มทำอะไรในวันนี้จะส่งผลกระทบต่อทั้งภาคธุรกิจและการใช้ชีวิต

สำหรับโอกาสของตลาดไทย ด้วยความเข้มแข็งภาคเกตรกรรมและความหลากหลายทางชีวภาพ หากนำเทคโนโลยีเข้ามาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ย่อมส่งผลดี

ที่ผ่านมาเห็นได้ว่า หลายองค์กรที่ลงทุนในตลาดทุนเร่ิมตั้งคำถามและให้ความสำคัญเรื่องสิ่งแวดล้อมกันอย่างมาก ดังนั้นประเด็นนี้ต้องมองว่าเป็นเรื่องสำคัญ เร่งด่วน เปลี่ยนมายเซ็ตว่า เป็นต้นทุนของการทำธุรกิจ เป็นสิ่งที่ควรทำและเมื่อทำได้แล้วจะช่วยสร้างโอกาสอย่างมากให้กับธุรกิจ

อย่างไรก็ดี นอกจากสร้างการรับรู้ ต้องมีการแสดงให้เห็นถึงเคสที่ประสบความสำเร็จ มีการสร้างมาตรฐาน ความชัดเจนด้านข้อมูล รวมถึงเฟรมเวิร์คที่จะสามารถตอบคำถามนักลงทุนได้

ที่ขาดไม่ได้ ต้องมีความง่ายในการปฏิบัติเพื่อขับเคลื่อนงานให้ไปถึงเป้าหมาย มีการประสานงานไปกับหน่วยงานภาครัฐเพื่อสร้างความง่ายในทุกกระบวนการ สร้างความทั่วถึงและครอบคลุมทั้งด้านองค์ความรู้ การลดต้นทุน การพัฒนาเชิงดิจิทัล และการสนับสนุนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

Adblock test (Why?)


BCG ทางรอดธุรกิจ จุดเปลี่ยนเพื่อความยั่งยืน - กรุงเทพธุรกิจ
Read More

Sunday, September 25, 2022

คุณค่าทางใจ' กิ๊ฟ วรรธนะ' สะสม Leica ชวนประมูลกล้องรุ่นบรมราชาภิเษกล้ำค่า - ไทยโพสต์

จากความชอบถ่ายภาพนำพาเข้าสู่วงการกล้องถ่ายภาพ มีผลงานแสดงนิทรรศการภาพถ่าย  จนกลายนักสะสม Leica กล้องสัญชาติเยอรมันมากว่า 20 ปี เป็นเรื่องราวที่หลายคนรับรู้ สำหรับพิธีและนักแสดงชื่อดัง กิ๊ ฟ -  วรรธนะ กัมทรทิพย์  ทุกๆ ปี กิ๊ฟ วรรธนะ จะศึกษาและเสาะหากล้อง Leica รุ่นต่างๆ มาสะสมด้วยความหลงใหล Leica  ปัจจุบันเก็บกล้องและเลนส์จำนวนหนึ่ง  ซึ่งประเมินค่าไม่ได้ เพราะเป็นความสุขทางจิตใจจากกล้อง Leica ซึ่งได้รับการยกย่องว่า เป็นกล้องที่สร้างด้วยความประณีต ละเอียดอ่อนเปรียบกับงานศิลปะ ความชื่นชอบยังเป็นที่มาการตั้งชื่อลูกสาวว่า ”น้องไลก้า” อีกด้วย  

นักแสดงผู้นี้เป็นหนึ่งในนักสะสมกล้องที่ติดตามการประมูลกล้องถ่ายภาพชุดพิเศษ Leica รุ่น M 10-P Limited Edition   เฉลิมพระเกียรติ เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พ.ศ.2562 ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 30 กันยายน 2565 และไม่รีรอชวนให้ทุกคนครอบครองกล้องล้ำค่าชุดบรมราชาภิเษกนี้

  กิ๊ฟ วรรธนะ  บอกว่า ชอบถ่ายภาพตั้งแต่สมัยเรียน   กล้องรุ่นแรกๆ คือ กล้องญี่ปุ่น เมื่อโตขึ้น เริ่มมีเงินจากการทำงานในวงการ เริ่มเก็บสะสมกล้องและเลนส์ Leica  เริ่มจากกล้องรุ่น M6 ตัวแรก มีเงินก็สะสมเพื่อไว้ซื้อกล้อง  บางตัวจัดเก็บ บางตัวหยิบมาใช้งานจริง  เป็นความสุข และได้ทำตามความใฝ่ฝัน

“ กล้อง  Leica เป็นงานมาสเตอร์พีซ  ถ้าได้จับกล้องจะรู้ว่า คาแรคเตอร์ไม่เหมือนกล้องถ่ายภาพแบรนด์อื่นๆ  เป็นความชื่นชอบ เมื่อได้จับกล้องแล้วมีความสุข  นำมาสู่การศึกษากล้อง Leica ลึกขึ้น  ยุครอยต่อจากกล้องฟิลม์ไปสู่กล้องดิจิทัล มีกระแส Leica ตายแล้ว เพราะพัฒนา แต่กล้องฟิลม์ กล้องญี่ปุ่นมาแรง คนเริ่มไม่สนใจ บางคนนำกล้องมาขาย เมื่อ Leica ออกกล้องดิจิทัลรุ่น M 9 ให้คุณภาพภาพที่คมชัด มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ทำให้คนกลับมาเล่น Leica มากกว่าเดิม ราคารุ่นนี้ไม่เคยตก หลังจากนั้นพัฒนาเป็นรุ่น M 9 P และ รุ่น M 240 เปลี่ยนมาเป็นรุ่น C MOS ภาพที่ได้ก็มีเสน่ห์อีกแบบเหมือนศิลปินวาดรูป  “ กิ๊ฟ วรรธนะ กล่าว

หนุ่มกิ๊ฟ บอกด้วยว่า กล้อง Leica เป็นกล้องถ่ายภาพจากเยอรมนีที่มีประวัติยาวนานกว่า 108 ปี  จุดเด่นอยู่ที่เลนส์ เดิมบริษัทผลิตกล้องจุลทรรศน์ใช้ในอุตสาหกรรมและการแพทย์ ทำให้เข้าใจในรายละเอียดของเลนส์เป็นอย่างดี คนกล้าจ่ายเงินหลักแสนกับเลนส์ตัวเดียวในชื่อ  Leica ที่ได้รับการยอมรับ Leica เป็นค่ายเดียวที่มีเลนส์  35 มม. กับเลนส์ 50 มม. มากที่สุด ถือเป็นตัวเก่ง เลนส์แต่ละตัวให้คาแรคเตอร์ไม่เหมือนกัน นี่คือ เสน่ห์ บางคนชอบเลนส์รุ่นวินเทจ หลายตัวราคาทะลุหลักล้านก็มี บางคนชอบภาพคมชัดกับกล้อง Body ใหม่ๆ

“ 23 ปีก่อนผมเล่น  Leica  เก็บสะสมเรื่อยมา  บางคนเล่นต้องควานหาเลนส์เก่าที่ลึกขึ้น เพราะมีเสน่ห์ แต่ราคาแพง  แนวทางการเล่นของผมไม่ใช่มีเงินทุ่มซื้อ  แต่ค่อยๆ เก็บเข้าพอร์ตปีละตัว ยุคนี้คนมีเงินทุ่มซื้อเป็นธุรกิจก็มี ตอนนี้มีเลนส์ Leica มากกว่า 28 ตัว  จากความชื่นชอบล้วนๆ  ผมโชคดีที่เก็บ Leica สีเงิน ซึ่ง 10 ปีที่ผ่านมา Leica  เลิกผลิตกล้องสีเงิน จะจัดทำรุ่น Limited เท่านั้น วันที่เล่นเราไม่รู้ของที่เก็บมีมูลค่าหรือไม่มีมูลค่า  แต่เก็บจากความชอบ ผ่านมากลายเป็นตลาดโลกนิยม ทำให้กล้องมีมูลค่าสูงขึ้น อีกมุมผมมองเป็นการลงทุน ทุกวันนี้ Leica กลายเป็นสินค้าลักชัวร์รี่ ข้อดี Leica ไม่ได้ผลิตชิ้นงานเยอะเหมือนแบรนด์ญี่ปุ่น เพราะเป็นแฮนเมด แต่ละชิ้นส่วนกล้องใช้ผู้หญิงประกอบต่างจากการใช้เครื่องจักร  มูลค่าทางการตลาดอาจสู้ไม่ได้ แต่ Leica ยังอยู่ คนยังนิยม และยังมีมูลค่าเสมอ

ถ้าในมุมคนเล่นกล้อง กิ๊ฟ วรรธนะ บอกว่า กล้อง Leica รุ่น M 10-P Limited Edition ที่นำมาประมูลในงานนี้ สุดพิเศษ ใครเป็นสาวก Leica จะรู้ว่า การที่บริษัทผลิตกล้องรุ่น Limited Edition เป็นการจัดทำในรูปแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งสร้าง  2 แบบ  คือ ชุดสองเลน์  Leica M 10 ชุบทองคำ  หุ้มด้วยหนังจระเข้สีเหลือง พร้อมเลนส์ APO Summicron - M 1:2/50 ASPH  และเลนส์ Summilux M1:1.4/35 ASPH  ซึ่งเป็นเลนส์ตัวท็อปของไลก้า  ชุดเลนส์ยังชุบทองคำ   รวมถึงอยู่ในเปลือกเลนส์แบบวินเทจ หรือที่เรียกกันว่า มะเฟือง ซึ่งไม่เคยผลิตมาก่อน

สำหรับเลนส์ 35 มม. ผลิตเป็น Hood ดอกไม้ชุบทองคำ  เมื่อไหร่ที่ Leica เอาหน้าตาแบบวินเทจมาอยู่ในกล้องดิจิทัลสมัยใหม่จะมีราคาแพง  สาวกเห็นแล้วได้แต่ยืนจ้อง   ขณะที่เลนส์ 50 มม. มาพร้อมชิ้นเลนส์พิเศษ APO Summicron มีคุณสมบัติเพิ่มความละเอียดคมชัดมากที่สุด และเพิ่มค่าสีสัน  ผลิต 10 ชุด ขณะนี้เหลือ 4 ชุด ราคาประมูลกล้อง เริ่มที่ 1.5 ล้านบาท 

อีกแบบน่าสะสมไม่แพ้กัน หนุ่มกิ๊ฟ บอกว่า เป็นชุดหนึ่งเลนส์ กล้องดิจิตัล Leica M10-P ชุบทองคำ หุ้มด้วยหนังจระเข้สีเขียว พร้อมเลนส์ Summilux M1:1.4/35  ASPH  ผลิตทั้งสิ้น 20 ชุด ตอนนี้เหลือ 18 ชุด ที่ร่วมประมูล  มี 1 ชุดเก็บรักษาที่มิวเซียม  Leica เยอรมนี เป็นสถานที่ที่คนหลงรัก Leica ฝันจะไปสักครั้ง   

ความพิเศษกล้องทั้งชุด ตั้งแต่ฮูด ตัวกล้อง เลนส์ ชุบทองคำ  ซึ่งสีทองคำในกล้องชุดนี้ กิ๊ฟย้ำแตกต่างจากกล้อง Leica M 6 จัดสร้างโอกาสครองราชย์ 50 ปี ในหลวง รัชกาลที่ 9 ซึ่งเป็นสีทองแบบอิ่มๆ แต่ชุดนี้เป็นสีทองคำแบบสุกสว่างจากนวัตกรรมชุบทองที่ก้าวหน้า ของจริงสวยกว่าภาพในแคตตาล็อคมาก

“ ความลิมิเต็ดของกล้องชุดบรมราชาภิเษกนี้ได้รับการจารึกไว้ในประวัติการผลิตของแบรนด์ Leica  ผมเชื่อว่า เป็นชุดที่สวยที่สุดในโลก เพราะกล้องรุ่น  M 6 ในหลวง ร. 9  ถ้าจำไม่ผิดติด 1 ใน 20 กล้องที่สวยที่สุดในโลก  แต่ในมุมมองคนเล่นกล้องชุดนี้สวยกว่า และทรงคุณค่ามาก ๆ เป็นชุด Limited Edition ชุดที่ 2 ในโอกาสที่สำคัญในวาระพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของพระมหากษัตริย์ “  กิ๊ฟ วรรธนะ บอก

ก่อนหน้านี้ ไทยเบฟนำกล้องส่วนหนึ่งขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ตามลำดับจำนวน 6 ชุด เป็นกล้อง Leica ชุดสีเหลือง 5 ชุด กล้อง Leica ชุดสีเขียว 1 ชุดมอบให้พิพิธภัณฑ์บริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) จัดเก็บกล้อง Leica ชุดสีเหลือง 1 ชุด และให้พิพิธภัณฑ์ Leica ประเทศเยอรมนี จัดเก็บ Leica ชุดสีเขียว 1 ชุด

ตอนนี้เหลือ  22 ชุด จัดประมูลวันที่ 30 ก.ย.เพื่อนำรายได้มอบให้ 22 องค์กรการกุศล นำไปสร้างสรรค์ประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ของแต่ละองค์กรต่อไป เรียกว่าเป็นพลังร่วมครั้งสำคัญที่ยิ่งใหญ่ของ 22 มูลนิธิ และองค์กรการกุศล และก็ต้องขอชื่นชมไปถึงทาง บริษัท เบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ด้วยที่เป็นแกนสำคัญในการเชื่อมโยงและจัดทำกิจกรรมดีดีเพื่อการกุศลในครั้งนี้ขึ้นมา ก็อยากจะขอเชิญชวนผู้สนใจ และวงการนักสะสมกล้องมาร่วมกันสร้างสรรค์ และแบ่งปันคุณค่า ร่วมกันทำความดี เพื่อสร้างประโยชน์สุขเพื่อสังคม และประเทศชาติ ใครที่สนใจอยากทำบุญ อยากได้กล้องที่ดีที่สุด วาระสำคัญที่สุด ไม่ควรพลาด  

“ คนตั้งหน้าตั้งตารอ  ใครก็ตามที่ได้ครอบครอง คุณได้ครอบครองกล้องที่ดีที่สุดในโลก และไม่มีที่ไหนเหมือน และได้เงินไปทำบุญ  กล้อง Leica Limited Edition ทั่วไป ผลิตออกมาจำกัดไม่เกิน 100-300ชุด แต่กล้องรุ่นบรมราชาภิเษก ในหลวง รัชกาลที่ 10 ผลิตเพียง 30 ชุดเท่านั้น คาดว่า เริ่มต้นประมูลที่ล้านห้าอาจไปจบที่สิบล้านก็ได้ โดยมีบริษัท คริสตี้ส์ รับจัดประมูล “ นักสะสมกล้อง กล่าว 

สุดท้าย กิ๊ฟ วรรธนะบอกว่า คนที่อยากเริ่มเล่น Leica  ต้องถามตัวเองชอบการถ่ายรูปแบบไหน มีทุนเท่าไหร่ เคยจับกล้อง Leica แล้วรึยัง  บางคนซื้อปุ๊ปไม่ชอบขายเลย ไม่รู้ว่าใช้ยาก ต้องลองเล่น ลองจับดูก่อน แล้วถึงตอบตัวเองชอบหรือเปล่า บางคนซื้อแหลก หวังลงทุน ทั้งนี้ ควรเริ่มจากความชื่นชอบและรัก ต่อให้ราคาร่วงลงเราก็รัก และภูมิใจได้อยู่กับกล้องที่ตั้งเรียงราย  ได้จับ ได้เห็น นี่เป็นความสุขของคนสะสม Leica  

Adblock test (Why?)


คุณค่าทางใจ' กิ๊ฟ วรรธนะ' สะสม Leica ชวนประมูลกล้องรุ่นบรมราชาภิเษกล้ำค่า - ไทยโพสต์
Read More

'สินิตย์' เตรียมนำคณะเยือนสิงคโปร์ เปิดทางส่งออกเสริมแกร่ง SMEs - กรุงเทพธุรกิจ

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายสินิตย์ เลิศไกร) จะนำคณะผู้บริหารระดับสูงกระทรวงพาณิชย์ เดินทางเยือนสาธารณรัฐสิงคโปร์ ระหว่างวันที่ 26-28 กันยายนนี้ เพื่อหารือความร่วมมือส่งเสริมการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้า ผลักดันการส่งออกสินค้าเกษตรไทยไปยังตลาดสิงคโปร์ และการพัฒนาศักยภาพ SMEs สู่การค้ายุคใหม่

นางอรมน กล่าวว่า การเยือนครั้งนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์จะพบกับผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐและเอกชนของสิงคโปร์ เพื่อหารือความร่วมมือที่จะช่วยสนับสนุนภารกิจของกระทรวงพาณิชย์ คือ การผลักดันการส่งออกสินค้าเกษตรไทยไปยังสิงคโปร์ โดยเฉพาะสินค้าเกษตรที่มีศักยภาพของไทย ที่มีการส่งเสริมการใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ FTA ต่างๆ ในตลาดสิงคโปร์ อาทิ ผลิตภัณฑ์นม ข้าว และผลไม้ โดยจะได้พบหารือกับผู้บริหารแฟร์ไพรซ์ ซุปเปอร์มาร์เก็ตอันดับ 1 ของสิงคโปร์ ซึ่งนำเข้าสินค้าไทยมาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งติดตามสถานการณ์การขนส่งสินค้าเกษตรจากไทยผ่านชายแดนมาเลเซียมายังสิงคโปร์ ภายหลังสถานการณ์โควิด-19 ที่ตลาดค้าส่งปาเซอร์ ปันจังอีกด้วย

นอกจากนี้ จะได้หารือแลกเปลี่ยนข้อมูลกับหน่วยงานบ่มเพาะสตาร์ทอัพของสิงคโปร์ ซึ่งมีความก้าวหน้าในการพัฒนาระบบนิเวศที่สนับสนุนการเติบโตของธุรกิจสตาร์ทอัพ รวมทั้งจะหารือต่อยอดความร่วมมือด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ และการพัฒนาขีดความสามารถของผู้ประกอบการไทยในการขยายโอกาสทางธุรกิจผ่านช่องทางออนไลน์ร่วมกับ Shopee แพลตฟอร์มธุรกิจอีคอมเมิร์ซชั้นนำของภูมิภาคอาเซียน ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งภารกิจที่กระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญ คือ การพัฒนาขีดความสามารถของผู้ประกอบธุรกิจ โดยเฉพาะ SMEs ให้สามารถส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศ

ทั้งนี้ สิงคโปร์เป็นคู่ค้าอันดับที่ 4 ของไทยในอาเซียน และเป็นคู่ค้าอันดับที่ 8 ของไทยในโลก โดยในช่วง 7 เดือน (ม.ค.-ก.ค. 2565) การค้าระหว่างไทยกับสิงคโปร์ มีมูลค่า 11,288.22 ล้านเหรียญสหรัฐ (+21.35%) โดยแบ่งเป็นการส่งออก มูลค่า 6,447.57 ล้านเหรียญสหรัฐ (+28.98%) และการนำเข้ามูลค่า 4,840.65 ล้านเหรียญสหรัฐ (+12.49%) สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ อัญมณีและเครื่องประดับ (ทองคำยังไม่ได้ขึ้นรูป) น้ำมันสำเร็จรูป แผงวงจรไฟฟ้า เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และสินค้าอุตสาหกรรมอื่นๆ ส่วนสินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ น้ำมันสำเร็จรูป และแผงวงจรไฟฟ้า 

Adblock test (Why?)


'สินิตย์' เตรียมนำคณะเยือนสิงคโปร์ เปิดทางส่งออกเสริมแกร่ง SMEs - กรุงเทพธุรกิจ
Read More

นักวิชาการ มธ. เสนอกลไกทางเลือกแก้ PM 2.5 - ไทยโพสต์

นักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อม ม.ธรรมศาสตร์ แนะ ควรให้ ‘อำนาจสั่งการ’ คกก.อากาศสะอาด ดำเนินมาตรการข้ามหน่วยงาน พร้อม ‘บูรณาการงบประมาณ’ ตามภารกิจ...