Unitree A1 หุ่นยนต์สุนัขอัจฉริยะรุ่นใหม่
ผลงานนี้เป็นของทีมวิจัยจาก Binghamton University กับการคิดค้นพัฒนาหุ่นยนต์สุนัขนำทางอัจฉริยะ Unitree A1 ที่มีศักยภาพในการนำทางแก่ผู้บกพร่องทางสายตาได้ใกล้เคียงกับสุนัขนำทางที่ได้รับการฝึกฝนตามระบบ ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงและคุณภาพชีวิตของผู้พิการได้อีกมาก
ตัวหุ่นได้รับการติดตั้งเซ็นเซอร์ช่วยตรวจจับสิ่งกีดขวางรูปแบบต่างๆ จึงมีศักยภาพในการนำทางผู้มีความบกพร่องทางสายตาเพื่อนำทาง หลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวาง ไปจนสามารถพาผู้ใช้งานไปสู่เส้นทางที่ปลอดภัย อีกทั้งยังสามารถควบคุมตัวหุ่นผ่านสายจูงให้เคลื่อนที่ไปตามทิศทางที่กำหนด ใกล้เคียงกับแนวทางออกคำสั่งที่ได้รับการฝึกฝนจากสุนัขนำทางของจริง
จากการทดสอบการใช้งานทีมวิจัยพบว่า หุ่นยนต์สุนัขอัจฉริยะมีคุณสมบัติพาผู้ใช้งานไปตามทิศทางที่กำหนดได้แม่นยำในพื้นที่โถงทางเดินในอาคาร รวมถึงตอบสนองต่อคำสั่งลากจูงและปรับทิศทางตามผู้ใช้งานได้อย่างอิสระ แม้จะยังห่างไกลจากคำว่าสมบูรณ์แต่ก็เป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยี
ในขั้นต่อไปพวกเขากำลังพัฒนาอินเตอร์เฟสภาษาในการสื่อสาร ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสั่งการหุ่นยนต์สุนัขอัจฉริยะให้เคลื่อนไหวตามคำสั่งเสียงเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน รวมถึงพัฒนาระบบนำทางให้เรียนรู้ในการแจ้งเตือนผู้ใช้งาน ในกรณีที่เดินเข้าสู่พื้นที่อันตรายหรือมีพื้นที่เป็นหลุมบ่อ ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถรู้ล่วงหน้าและเตรียมรับมือได้ทันท่วงที
นี่จึงเป็นอีกตัวเลือกสนับสนุนการใช้ชีวิตที่อาจเข้ามาทดแทนสุนัขนำทางในอนาคต
หุ่นยนต์สุนัขนำทาง อนาคตแห่งการนำทาง
ถึงตรงนี้หลายท่านที่ยังคงชื่นชอบสุนัขและการเลี้ยงสัตว์อาจยังมองว่าสุนัขนำทางน่าเชื่อถือกว่าในการใช้งานจริง เพราะนอกจากจะคอยช่วยเหลือในชีวิตประจำวัน สุนัขนำทางยังเป็นอีกหนึ่งเพื่อนคู่คิดหรือสมาชิกในครอบครัว จึงอยากชี้แจงอีกมุมมองประกอบการตัดสินใจว่า เหตุใดหุ่นยนต์สุนัขจึงมีแนวโน้มใช้งานสูงกว่า
จุดเด่นสำคัญที่ทำให้หุ่นยนต์สุนัขได้รับความสนใจมาใช้ทดแทนคือ ค่าใช้จ่าย ตามที่กล่าวไปข้างต้นค่าใช้จ่ายฝึกสอนสุนัขนำทางแต่ละตัวมีราคาสูงมาก ในขณะที่ต้นทุนการผลิตหุ่นแต่ละตัวจะน้อยกว่านั้นราว 4 เท่า หุ่นยนต์สุนัขที่มีขนาดใกล้เคียงกันของ Xiaomi อย่าง Cyberdog แม้ไม่ได้มีติดตั้งระบบนำทางแต่สนนราคาอยู่เพียง 1,550 ดอลลาร์(ราว 56,000 บาท) อีกทั้งยังไม่มีค่าใช้จ่ายด้านอาหาร เครื่องใช้ หรือการรักษาพยาบาล ซึ่งช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายลงมาก
เมื่อเป็นหุ่นยนต์ไม่ใช่สัตว์จริงจึงลดความรู้สึกต่อต้านของผู้ไม่ชอบสุนัขและสัตว์เลี้ยง รวมถึงแก้ปัญหาเรื่องการเข้าถึงพื้นที่สาธารณะได้โดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังไม่ต้องพะวงเรื่องการหลุดสมาธิระหว่างทำหน้าที่ ถูกรบกวนจากปัจจัยแวดล้อมภายนอก หรือต้องคอยดูแลเอาใจใส่แบบสุนัขจริง จึงมีความเสถียรและสะดวกกว่าสุนัขนำทางของจริงเสียอีก
อีกหนึ่งข้อแตกต่างสำคัญของหุ่นยนต์สุนัขนำทางคือ ในการใช้งานจริงหุ่นยนต์นำทางรองรับการทำงานได้มากกว่าสุนัขจริง เช่น ตัวหุ่นสามารถเรียกใช้แผนที่และติดตั้งระบบ GPS ทำให้ผู้ใช้งานไปถึงจุดหมายปลายทางได้โดยอาศัยเพียงการป้อนคำสั่ง หรืออาจได้รับการติดตั้งระบบสนับสนุนอื่น เช่น การบรรทุกของ ช่วยลดภาระของผู้ใช้งานได้อีกทาง
ด้วยเงื่อนไขทั้งหมดประกอบกันนี้เองหากหุ่นยนต์สุนัขอัจฉริยะใช้งานแพร่หลาย การใช้งานสุนัขนำทางอาจไม่ใช่ของส่วนตัวอีกต่อไป ในอนาคตอาจมีการใช้งานหุ่นยนต์สุนัขอัจฉริยะสนับสนุนผู้พิการเป็นการชั่วคราวในสถานที่อย่าง ห้างสรรสินค้า หรือ สนามบิน แบบเดียวกับที่มีการใช้งานกับรถเข็นก็เป็นได้
แน่นอนผู้ที่กำลังพัฒนาหุ่นยนต์นำทางไม่ได้มีเพียงพวกเขา ทางประเทศจีนเองก็มีการเปิดตัว หุ่นยนต์สุนัขอัจฉริยะ ที่สามารถนำทางนักกีฬาเอเชียนพาราเกมส์ให้สามารถวิ่งคบเพลิงอย่างแม่นยำ ไปจนการพัฒนาไม้เท้าอัจฉริยะ NextGuide ที่สามารถนำทางผู้ใช้งานโดยอัตโนมัติได้เช่นกัน
จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ในอนาคตการใช้งานสุนัขนำทางจะยิ่งน้อยลงและถูกทดแทนด้วยหุ่นยนต์นำทางซึ่งสะดวกต่อการใช้งานยิ่งกว่า
ที่มา
https://www.bbc.com/thai/thailand-49044382
https://www.posttoday.com/post-next/innovation/695807
https://www.posttoday.com/lifestyle/701059
หุ่นยนต์สุนัขอัจฉริยะ ทางออกใหม่สำหรับผู้พิการทางสายตา - Post Today
Read More
No comments:
Post a Comment