ในการพบกันระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน และประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง เมื่อวานนี้ (15 พ.ย.) ที่การประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคครั้งที่ 30 (2023 APEC Economic Leaders’ Meeting) ณ นครซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐฯ มีรายงานว่า “สหรัฐฯ และจีนได้ตกลงที่จะกลับมาฟื้นความสัมพันธ์ทางทหาร” อีกครั้ง
ไบเดน กล่าวว่า นี่เป็นความพยายามที่จะบรรเทาความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้น “เรากลับมาสู่การสื่อสารที่ตรงไปตรงมา เปิดกว้าง และชัดเจน”
จับตา “โจ ไบเดน - สี จิ้นผิง” หารือกันครั้งแรกในรอบปี
"ไบเดน" เชื่ออิสราเอล-ฮามาส ใกล้บรรลุข้อตกลงปล่อยตัวประกัน
จับตาเอเปค “ไบเดน” เตรียมฟื้นความสัมพันธ์ทางทหารกับจีน
นี่เป็นครั้งแรกที่ทั้งคู่ได้พูดคุยกันต่อหน้าในรอบกว่า 1 ปี
ไบเดนยังกล่าวอีกว่า ผู้นำทั้งสองตกลงที่จะสร้างช่องทางการสื่อสารโดยตรงระหว่างกัน โดยเขาบอกว่า การไม่มีช่องการสื่อสารคือโอกาสที่จะทำให้เกิด “อุบัติเหตุ” และเสริมว่า ขณะนี้ประธานาธิบดีทั้งสองสามารถติดต่อทางโทรศัพท์และรับฟังถึงปัญหาที่เกิดขึ้นได้โดยตรงทันที
ความสัมพันธ์ทางทหารไม่ใช่แค่เรื่องของการซ้อมรบร่วมหรือเรื่องอาวุธยุทโธปกรณ์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงเรื่องการพูดคุยในยามที่เกิดข้อพิพาททางการทหาร การเปิดช่องทางสื่อสารเร่งด่วนในกรณีที่เกิดข้อพิพาททางทหารในพื้นที่ต่าง ๆ หรือมีช่องทางแจ้งข่าวหากเกิดการรุกล้ำดินแดนโดยไม่เจตนา
ก่อนหน้านี้จีนตัดความสัมพันธ์ทางทหารกับสหรัฐฯ ไปเมื่อปีที่แล้ว หลังจากที่ แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เดินทางเยือนไต้หวัน ซึ่งจีนมองว่าเป็นการล้ำเส้น เพราะถือว่าไต้หวันเป็นดินแดนของตน แต่มีความพยายามที่จะแบ่งแยกดินแดน
ไบเดนกล่าวว่า แม้ทั้งคู่จะมีความขัดแย้งกันมากมาย แต่สีก็พูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมา การเจรจาครั้งนี้เป็น “การอภิปรายที่สร้างสรรค์และมีประสิทธิผลที่สุดที่เราเคยมี”
แต่ขณะที่ไบเดนกำลังจะลงจากเวที เขาตอบคำถามของนักข่าวโดยบอกว่า เขาถือว่า สี จิ้นผิง เป็น “เผด็จการ”
ไบเดนบอกว่า “เขาเป็นเผด็จการในแง่ที่ว่า เขาเป็นคนที่บริหารประเทศ โดยมีรูปแบบการปกครองที่แตกต่างไปจากรัฐบาลของเราอย่างสิ้นเชิง”
นอกจากการกลับมาสื่อสารทางทหารอีกครั้งแล้ว ทั้งสองฝ่ายยังได้ประกาศข้อตกลงอื่น ๆ อีกหลายฉบับ เช่น การรับมือกับการไหลเข้าสู่สหรัฐฯ ของเฟนทานิล (Fentanyl) ซึ่งเป็นสารเสพติดที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตจากการใช้ยาเกินขนาดในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น
บริษัทผู้ผลิตในจีนไม่เพียงแต่เป็นแหล่งของเฟนทานิลเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งของสารเคมีตั้งต้นที่สามารถนำมารวมกันเพื่อผลิตได้ “เรากำลังดำเนินการเพื่อลดการไหลของสารเคมีตั้งต้นและยาเสพติดจากประเทศจีนมายังซีกโลกตะวันตกอย่างมีนัยสำคัญ”
ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว จีนจะจัดการบริษัทที่ผลิตสารเคมีตั้งต้นเหล่านั้นโดยตรง
ผู้นำทั้งสองยังได้หารือเกี่ยวกับความขัดแย้งในอิสราเอลและฉนวนกาซา เจ้าหน้าที่อาวุโสของสหรัฐฯ รายหนึ่งกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ไบเดนได้ขอให้จีนใช้อิทธิพลของตนเองกับอิหร่าน เพื่อเรียกร้องให้จีนไม่ดำเนินการใด ๆ ที่อาจมองว่าเป็นการยั่วยุ
มหาอำนาจทั้งสองยังตกลงที่จะร่วมมือในเรื่องเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และมีการสนทนาที่ยาวนานเกี่ยวกับไต้หวัน ซึ่งเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ รายหนึ่งระบุว่า สี จิ้นผิง กล่าวว่าเป็น “ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดและอันตรายที่สุดในความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ-จีน”
หลังการเจรจา จีนกล่าวว่า ความสัมพันธ์ทางทหารที่ได้รับการฟื้นฟูนั้นเกิดขึ้น “บนพื้นฐานของความเสมอภาคและความเคารพ”
สี จิ้นผิง กล่าวว่า “โลกมีขนาดใหญ่พอสำหรับให้ทั้งสองประเทศประสบความสำเร็จ และความสำเร็จของประเทศหนึ่งก็เป็นโอกาสสำหรับอีกประเทศหนึ่ง ... หากต้องเผชิญหน้ากัน จะส่งผลร้ายสำหรับทั้งสองฝ่าย”
เรียบเรียงจาก BBC
ภาพจาก Brendan Smialowski / AFP
TOP ต่างประเทศ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด
สหรัฐฯ-จีน ฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางทหารสำเร็จ เปิดช่องทางต่อสายฉุกเฉิน - PPTVHD36
Read More
No comments:
Post a Comment