“หุ้นไทย-หุ้นโลก” อิงทางบวกหลังบอนด์ยีลด์ย่อตัว-มาตรการท่องเที่ยวในประเทศดันกรอบดัชนี 1,545-1,565 จุด
บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) รายงานแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้ (10 มี.ค. 2564) ว่า คาดดัชนีหุ้นไทย (SET) และทั่วโลก ยังคงถูกครอบงำด้วยความกังวลการเร่งตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Bond Yield) ของสหรัฐอย่างต่อเนื่อง ทำให้ความผันผวนของ Bond Yield ดังกล่าว แปรผกผันกับการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นในช่วงสั้นต่อไป
โดยเมื่อคืนนี้ Bond Yield มีการย่อตัวลงเล็กน้อย ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐและเซนติเมนต์ลงทุนในภูมิภาคเช้านี้อิงทางบวกได้เล็กน้อย อีกทั้งไทยมีปัจจัยบวกเรื่องมาตรการท่องเที่ยวเข้ามาช่วยหนุน จึงคาด SET Index เช้านี้จะผันผวนออกข้างอิงทางขึ้นในกรอบระหว่าง 1,545-1,565 จุด
กลยุทธ์การลงทุนเลือกหุ้นที่รับประโยชน์การเปิดเมืองและการออกมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวของภาครัฐ รวมถึงหุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า พร้อมรอดูท่าจากการประชุม ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในสัปดาห์นี้และการประชมธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ในสัปดาห์หน้า
ทางฝ่ายวิจัยคาดค่าเงินดอลลาร์สหรัฐจะยังแข็งค่าขึ้นต่อในระยะสั้น จากความคืบหน้ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐของไบเดน วงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ ที่คาดว่าจะหนุนให้เศรษฐกิจสหรัฐในปีนี้กลับมาโตได้เกิน 6% และหนุนการจ้างงานให้กลับมาเต็มศักยภาพภายในปีหน้า
ประกอบกับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐหลายตัวในเดือน ก.พ. กลับมาส่งสัญญาณดีขึ้น ด้าน Goldman Sachs คาดสหรัฐจะลดอัตราการว่างงานลงไปแตะระดับ 4.1% จากการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในปีนี้ ทำให้หุ้นกลุ่มส่งออกสินค้าได้อานิสงส์จากการอ่อนค่าของเงินบาทเชิงเปรียบเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ
ส่วนมาตรการวัคซีนพาสปอร์ต (Vaccine Passport) คาดว่าจะถูกนำไปมาใช้กันอย่างมากในปีนี้ หลังทั่วโลกฉีดวัคซีนแล้วกว่า 312 ล้านโดส แต่ทั้งนี้ยังมีข้อระวังกรณีเดินทางเป็นครอบครัวแต่เด็กไม่ได้รับการฉีดวัคซีน เนื่องจากอายุไม่ถึงเกณฑ์ และการถือพาสปอร์ต (Passport) ข้ามสัญชาติจะใช้เกณฑ์กักตัวอย่างไร
แม้ว่ารัฐบาลจะเริ่มดำเนินมาตรการ Vaccine Passport แล้ว แต่ทางฝ่ายวิจัยคาดว่าการท่องเที่ยวภายในประเทศจะยังเป็นกำลังหลัก ส่วนการดึงต่างชาติเข้ามาจะช่วยหนุนรายได้เพิ่มขึ้น ลดความเสี่ยงการปิดกิจการและว่างงานจากภาคการท่องเที่ยว และทำให้เศรษฐกิจไทยปีนี้อาจเติบโตกว่าคาดการณ์เดิมได้
"หุ้นไทย-หุ้นโลก" อิงทางบวกหลังบอนด์ยีลด์ย่อตัว - ประชาชาติธุรกิจ
Read More
No comments:
Post a Comment