นายกฯสั่งคลังหาวิธีให้คนนำเงินฝากออกมาใช้ในระบบเศรษฐกิจ หลังพบช่วงโควิด-19 คนไม่ใช่จ่าย เก็บเงินอย่างเดียว พร้อมเห็นชอบต่อโครงการ “คนละครึ่ง” เฟส 3 คาดเริ่มเดือน มิ.ย.นี้ หลัง “เราชนะ” จบ ลุ้นคลังชง ครม. 23 มี.ค.นี้ แก้เงื่อนไข พ.ร.ก.ซอฟโลน์ ภายใต้แนวคิด “โกดังเก็บหนี้”
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน เปิดเผยภายหลังเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม พร้อมกับนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง และนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่า ได้หารือถึงแนวทางออกมาตรกากระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม โดยนายกฯมอบหมายให้กระทรวงการคลังหาวิธีจูงใจผู้ที่มีเงินฝากในธนาคารให้นำเงินฝากออกมาใช้ หลังพบว่าช่วงโควิด-19 คนออมเงินในธนาคารสูงขึ้น และเก็บเงินจากที่ไม่ได้ท่องเที่ยว โดยแนวทางหนึ่งคือการออกมาตรการช้อปดีมีคืน เพื่อให้นำค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้าไปลดหย่อนภาษี หรืออาจคิดมาตรการใหม่ๆ ขึ้นมาอีก
ข่าวแนะนำ
นอกจากนี้ ยังหารือถึงผลของมาตรการต่างๆ ทั้งเราชนะ คนละครึ่ง เราเที่ยวด้วยกัน ได้ช่วยให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ ซึ่งนายกฯให้แนวทางดำเนินโครงการคนละครึ่งระยะที่ 3 (เฟส 3) ต่อจากที่เฟส 2 จะสิ้นสุดมาตรการวันที่ 31 มี.ค.นี้ แต่เฟส 3 อาจไม่ทันเดือน เม.ย.นี้ จึงอาจจะต่ออายุมาตรการหลังโครงการเราชนะ จบลงในวันที่ 31 พ.ค. เพื่อให้มีโครงการลักษณะนี้ต่อเนื่อง ส่วน “เราผูกพัน” จะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบเร็วๆนี้
สำหรับการแก้ไข พ.ร.ก.ให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบวิสาหกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือซอฟต์โลน วงเงิน 500,000 ล้านบาทนั้น กระทรวงการคลังหารือกับ ธปท.แล้ว จะนำเข้าสู่ที่ประชุม ครม.เร็วที่สุด ที่ผ่านมาใช้เงินไป 130,000 ล้านบาท นอกจากนี้ นายกฯอยากเห็นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเป็นรูปธรรม จึงสั่งการว่าเวลานำโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจเข้าพิจารณาใน ครม.ขอให้เสนอเป็นแพ็กเกจ
ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ได้โพสต์เฟซบุ๊กวานนี้ (22 มี.ค.) ว่าได้ประชุมหารือมาตรการฟื้นฟู และรักษาสภาพคล่องให้กับเอสเอ็มอี รวมถึงมาตรการซอฟต์โลน และ asset warehousing นอกจากนี้ ยังได้ติดตามผลโครงการ “เราชนะ” และ “คนละครึ่ง” และพิจารณาดำเนินการเฟสต่อไป ปัจจัยสำคัญคือยังพบว่ามีการโกงเกิดขึ้น ทั้งในส่วนของบุคคลและผู้ประกอบการ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจะหาหนทางแก้ไข รวมถึงดำเนินการทางกฎหมายต่อผู้กระทำผิดอย่างเคร่งครัด เราต้องไม่ยอมให้คนส่วนน้อยทำลายสิ่งดีๆ ของคนส่วนใหญ่ในช่วงวิกฤตินี้ครับ #รวมไทยสร้างชาติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แนวทางแก้ไข พ.ร.ก.ซอฟต์โลนที่คลังจะเสนอให้ ครม.พิจารณาวันที่ 23 มี.ค.นี้ อยู่ภายใต้แนวคิด “โกดังเก็บหนี้” (Asset Warehousing) โดยจะปรับปรุงเงื่อนไขการให้ซอฟท์โลนกับภาคธุรกิจ เช่น เพิ่มประเภทธุรกิจที่ขอใช้วงเงินสินเชื่อได้ปรับวงเงินสูงสุดเป็นรายละไม่เกิน 500 ล้านบาท และเปิดให้แบงก์คิดดอกเบี้ยได้มากกว่า 2% ซึ่งก่อนหน้านี้ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง กล่าวว่า จะแบ่งเงินส่วนหนึ่งราว 100,000 ล้านบาท จากวงเงินซอฟต์โลนมาใช้ในโกดังเก็บหนี้ เพื่อช่วยเหลือโรงแรม และอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับผลกระทบมากจากโควิด-19 ในหลักการคือเปิดทางให้ลูกหนี้แบงก์ที่จะเข้าร่วมโครงการสามารถตีโอนทรัพย์ค้ำประกันที่มีอยู่กับเจ้าหนี้ มาชำระหนี้ เพื่อช่วยปลดภาระหนี้ที่ต้องผ่อนส่ง โดยมีสัญญาที่จะซื้อสินทรัพย์ที่เป็นหลักประกันนั้นคืนในเวลาที่กำหนด
นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กล่าวว่า คนละครึ่งประสบความสำเร็จสูงในการส่งเสริมการบริโภคภายในประเทศ และฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยณ วันที่ 21 มี.ค.64 มีร้านค้าเข้าร่วมโครงการกว่า 1.5 ล้านร้านค้า มีผู้ใช้สิทธิ 14.79 ล้านคน มียอดการใช้จ่าย 98,860 ล้านบาท ส่วนเราชนะ ณ วันที่ 22 มี.ค.64 มีผู้ใช้สิทธิแล้ว 32.4 ล้านคน มูลค่าใช้จ่ายกว่า 147,801 ล้านบาท มีร้านค้าเข้าร่วมโครงการ 1.2 ล้านกิจการ.
อ่านเพิ่มเติม...
ดิ้นหาทางให้คนใช้เงินฝาก ชง ครม.วันนี้แก้เงื่อนไขวงเงินซอฟต์โลน - ไทยรัฐ
Read More
No comments:
Post a Comment