กรุงเทพฯ–ภาคตะวันออก
- เส้นทางที่ 1 จากกรุงเทพฯไป จ.ชลบุรี (ทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 สายกรุงเทพฯ–ชลบุรี–พัทยา)
- เส้นทางที่ 2 จากกรุงเทพฯ ไป อ.บางปะกง (ทางหลวงหมายเลข 34 ถนนบางนา-ตราด) จากนั้นมุ่งหน้าสู่ จ.ชลบุรี โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 3 ถนนสุขุมวิท
- เส้นทางที่ 3 จากกรุงเทพฯ ไป อ.พนัสนิคม–จ.ชลบุรี (ทางหลวงหมายเลข 304)
กรุงเทพฯ–ภาคใต้
- เส้นทางที่ 1 จากกรุงเทพฯ ไป จ.สมุทรสาคร–จ.สมุทรสงคราม (ทางหลวงหมายเลข 35)–แยกวังมะนาว–จ.เพชรบุรี (ทางหลวงหมายเลข 4 ถนนเพชรเกษม) จากนั้นมุ่งหน้าสู่ จ.ประจวบคีรีขันธ์
- เส้นทางที่ 2 จากกรุงเทพฯ ไป อ.สามพราน–อ.นครชัยศรี–จ.นครปฐม–จ.ราชบุรี–แยกวังมะนาว–จ.เพชรบุรี (ทางหลวงหมายเลข 4 ถนนเพชรเกษม) จากนั้นมุ่งหน้าสู่ จ.ประจวบคีรีขันธ์
- เส้นทางที่ 3 จากกรุงเทพฯ ไป ถนนบรมราชชนนี (ทางหลวงหมายเลข 338 ปิ่นเกล้า–นครชัยศรี)–อ.นครชัยศรี–จ.นครปฐม–จ.ราชบุรี–แยกวังมะนาว–จ.เพชรบุรี (ทางหลวงหมายเลข 4 ถนนเพชรเกษม) จากนั้นมุ่งหน้าสู่ จ.ประจวบคีรีขันธ์
"หากประชาชนต้องการสอบถามข้อมูลการเดินทางเพิ่มเติม หรือแจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายระหว่างเดินทาง สามารถติดต่อได้ที่สายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง) สายด่วนมอเตอร์เวย์ 1586 กด 7 และตำรวจทางหลวง 1193"
คาดพีคสุด รถออก กทม.วันละเฉียดล้าน-กลับเฉียด 7 แสนคัน
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2564 ระหว่างวันที่ 10-16 เม.ย.นี้ คาดการณ์แนวโน้มปริมาณการจราจรเดินทางต่างจังหวัด เพื่อเตรียมหาแนวทางบริหารจัดการเวลาการเดินทางบนถนน ซึ่งได้ข้อสรุปจะขอความร่วมมือประชาชนวางแผนเวลาเดินทางเหลื่อมเวลาภายใต้มาตรการ "บ้านใกล้เดินทางออกทีหลัง และเดินทางกลับก่อน" เพื่อกระจายการเดินทางและเหลื่อมเวลาเดินทาง "เข้า-ออก" กรุงเทพฯ โดยจะขอความร่วมมือประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา หรือท่องเที่ยวภายในรัศมี 300 กม.จากกรุงเทพฯ เดินทางออกช่วงระหว่างวันที่ 11-12 เม.ย.64 และเดินทางกลับช่วงระหว่างวันที่ 15-16 เม.ย.64
"ส่วนสาเหตุที่ขอความร่วมมือให้เดินทางแบบเหลื่อมเวลานั้น เนื่องจากคาดการณ์แนวโน้มปริมาณจราจร การเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทั้งช่วงเดินทางออกกรุงเทพฯ และช่วงเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ พบว่าปริมาณจราจรเดินทางออกจากกรุงเทพฯ สูงถึง 946,133 คันต่อวัน ในช่วงที่มีการเดินทางสูงสุด และมีปริมาณจราจรเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ ถึง 667,040 คันต่อวัน ในช่วงที่มีการเดินทางสูงสุด"
ขอความร่วมมือ ปชช. 21 จังหวัด เหลื่อมวันเวลาเดินทาง "เข้า-ออก" กทม.
สำหรับประชาชนในกลุ่มจังหวัดบ้านใกล้กรุงเทพฯ ระยะทางไม่เกิน 300 กม. ซึ่งภาครัฐจะขอความร่วมมือมีจำนวน 21 จังหวัด ดังนี้
- 1.กลุ่มจังหวัดเส้นทางสายเหนือ 9 จังหวัด คือ พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง สุพรรณบุรี สิงห์บุรี ชัยนาท ลพบุรี อุทัยธานี นครสวรรค์ และเพชรบูรณ์
- 2.กลุ่มจังหวัดเส้นทางตะวันออกเฉียงเหนือ 4 จังหวัด คือ สระบุรี นครนายก ชัยภูมิ และนครราชสีมา
- 3.กลุ่มจังหวัดเส้นทางสายตะวันออก 4 จังหวัด คือ ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี และสระแก้ว
- 4.กลุ่มจังหวัดเส้นทางสายตะวันตก 4 จังหวัด คือ สมุทรสงคราม ราชบุรี เพชรบุรี และกาญจนบุรี
นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า กล่าวอีกว่า มั่นใจหากประชาชนให้ความร่วมมือร่วมใจวางแผนในการเดินทาง และเหลื่อมเวลาตามมาตรการดังกล่าวจะช่วยลดปริมาณจราจรช่วงประชาชนเดินทางออกจากกรุงเทพฯ ได้ 75,800 คันต่อวัน ในช่วงที่มีการเดินทางสูงสุด และช่วยลดปริมาณจราจรในช่วงที่ประชาชนเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯได้ถึง 48,300 คันต่อวัน ในช่วงที่มีการเดินทางสูงสุด นอกจากเป็นการช่วยกระจายปริมาณจราจรบนถนน และบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัดแล้ว ยังสามารถช่วยลดความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่ ลดสถิติการเกิดอุบัติเหตุ รวมทั้งช่วยลดมลภาวะทางอากาศได้อีกด้วย
"อย่างไรก็ตาม ได้สั่งให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมร่วมกันรณรงค์ประชาสัมพันธ์ เพื่อให้ประชาชนรับทราบข้อมูลการเดินทางและวางแผนการเดินทางล่วงหน้า รวมทั้งเหลื่อมเวลาเดินทางเพื่อช่วยกระจายปริมาณจราจรบนถนน และบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัด ตลอดจนให้บูรณาการร่วมกันอำนวยความสะดวกให้แก่พี่น้องประชาชน ในการเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ด้วย"
เรียบเรียงโดย : หงเหมิน
กราฟิก : Varanya Phae-araya
15 ทางเลี่ยง "รถติด" สงกรานต์ ปี 64 คาดพีคสุด แห่ออกกรุง เฉียดวันละล้านคัน! - ไทยรัฐ
Read More
No comments:
Post a Comment