สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) รุดพัฒนา นวัตกรรมช่วยแพทย์สู้โควิดต่อเนื่อง พร้อมโชว์ “เอไอวัดสัญญาณชีพทางไกล” (CROMAS) หนุนแพทย์ รพ. สนาม ตรวจวัดและติดตามอาการผู้ป่วยขั้นวิกฤตแบบใกล้ชิด-ไร้สัมผัส พร้อมแสดงผลแบบเรียลไทม์ไปยังมอนิเตอร์ส่วนกลาง เพื่อให้แพทย์ทำการวิเคราะห์ผลและแนวทางการรักษาได้ทันท่วงที
“ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์” อธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) กล่าวว่า สจล. ต่อยอดองค์ความรู้พัฒนา “เทเลเฮลท์” (telehealth) เทคโนโลยีและนวัตกรรมการรักษาทางไกล ซึ่งเหมาะสำหรับใช้ในกับโรคโควิด-19
โดยล่าสุดได้พัฒนาเอไอวัดสัญญาณชีพทางไกล (COVID-19 Remote & Offsite Monitoring Application Systems หรือ CROMAS) อาทิ คลื่นไฟฟ้าหัวใจ อัตราการหายใจ อัตราการเต้นของหัวใจ ค่าออกซิเจนในเลือด พร้อมแสดงผลแบบเรียลไทม์ไปยังมอนิเตอร์ส่วนกลาง เพื่อให้แพทย์ทำการวิเคราะห์ผลและแนวทางการรักษาได้ทันท่วงที ผ่านการสวมปลอกแขนให้ผู้ป่วยตั้งแต่ครั้งแรก
ซึ่งพัฒนาโดยทีมคณาจารย์และนักศึกษา จากภาควิชาวิศวกรรมชีวการแพทย์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ สจล. และนำร่องใช้จริงแล้วที่โรงพยาบาลสนาม กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ณ อาคารนิมิบุตร (สนามกีฬาแห่งชาติ) กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นสถานที่รองรับผู้ป่วยโควิด-19 ที่สามารถรองรับได้ถึง 300 เตียง และเมื่อเร็ว ๆ นี้ ทีมวิจัยนวัตกรรมดังกล่าวได้เข้าไปสาธิตวิธีติดตั้งอุปกรณ์แล้ว โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้เกียรติร่วมรับฟังการสาธิตการติดตั้งอุปกรณ์ ทั้งนี้ โรงพยาบาลหรือหน่วยงานสาธารณสุขใดที่สนใจ สามารถติดต่อคณะวิศวกรรมศาสตร์ สจล. ได้ที่ โทร. 0-2329-8321
“ดร.วิบูลย์ ปิยวัฒนเมธา” อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมชีวการแพทย์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) กล่าวเพิ่มเติมว่า เอไอวัดสัญญาณชีพทางไกลเป็นการขมวดองค์ความรู้ด้านการแพทย์และปัญญาประดิษฐ์
โดยมี 2 องค์ประกอบสำคัญ ได้แก่ 1) อุปกรณ์ปลอกแขน ที่ทำหน้าที่ตรวจจับสัญญาณชีพค่าต่าง ๆ ของผู้ป่วย ทั้งคลื่นไฟฟ้าหัวใจ อัตราการหายใจ อัตราการเต้นของหัวใจ ค่าออกซิเจนในเลือด (เปอร์เซ็นต์) อุณหภูมิ และค่าความดันโลหิต
2) ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence – AI) ที่ช่วยแพทย์วิเคราะห์พร้อมแสดงข้อมูลสัญญาณชีพผู้ติดเชื้อขั้นวิกฤตแบบเรียลไทม์ไปยังมอนิเตอร์ส่วนกลาง ซึ่งช่วยให้แพทย์ทำการวิเคราะห์แนวทางการรักษาได้อย่างทันท่วงที ผ่านการสวมปลอกแขนให้ผู้ป่วยตั้งแต่ครั้งแรก
อไอวัดสัญญาณชีพทางไกลมีต้นทุนอยู่ที่ 90,000-100,000 บาทต่อชุด และในอนาคต สจล. เตรียมพัฒนานวัตกรรมทางการแพทย์อื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการใช้ในงานในช่วงสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อช่วยเหลือประชาชนและบุคลากรทางการแพทย์ไทยต่อไป
สจล.พัฒนา AI วัดสัญญาณชีพทางไกล หนุน รพ.สนาม สู้โควิด - ประชาชาติธุรกิจ
Read More
No comments:
Post a Comment