หมอศิริราชคาด ภายในเดือนนี้โควิดสายพันธุ์เดลต้าจะกลายเป็นสายพันธุ์หลักของประเทศ หลังยึด กทม.ได้ ภายในครึ่งเดือน จำนวนผู้ป่วยหนักสูงเป็นอันดับ 12 ของโลก แนะ ทางสุดท้ายในการตัดตอนการระบาด คือ ล็อกดาวน์เต็มรูปแบบ
วันที่ 8 กรกฎาคม 2564 ศ.นพ.มานพ พิทักษ์ภากร หัวหน้าศูนย์วิจัยการแพทย์แม่นยำ คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล โพสต์เฟซบุ๊กเสนอรัฐบาลล็อกดาวน์เต็มรูปแบบ หลังโควิดสายพันธุ์เดลต้ากลายเป็นสายพันธ์หลักของประเทศ
ผ่านมา 10 วันของมาตรการสกัดการระบาด เชื่อว่าทุกคนคงบอกได้ว่าประสบผลสำเร็จหรือไม่ จำนวนผู้ป่วยรายใหม่ยังสูงขึ้นเรื่อย ๆ สอดคล้องกับการระบาดของ Delta variant ที่เดินตามหลายประเทศก่อนหน้านี้ คาดว่าภายในเดือนนี้สายพันธุ์นี้น่าจะแทนที่ Alpha variant เป็นสายพันธุ์หลักของประเทศ หลังจากยึดครองกรุงเทพได้แล้วภายในครึ่งเดือนแรก
บทเรียนจากประเทศอังกฤษในช่วงการกินส่วนแบ่งตลาดของ Delta variant ในระยะแรก จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นราว 3 เท่าจากฐานเดิม บ้านเราก็เดินมาถึงจุดนี้เหมือนกันคือจาก 2-3 พันคน มาเป็น 6,500 คนเมื่อวานนี้ (แม้ว่าจะต่ำกว่าความเป็นจริงไม่น้อย จากข้อมูล positive rate ที่ชี้ว่าเราตรวจน้อยเกินไป) ถ้าเราดูแบบแผนการระบาดของอังกฤษจะเห็นว่าหลังจาก Delta variant ยึดครองพื้นที่ได้หมด จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ยังพุ่งสูงขึ้นอีก 3-4 เท่าถ้าไม่มีมาตรการอะไรเพิ่มเติม
ข้อมูลผู้ป่วยหนัก ผู้ป่วยใน ICU เพิ่มมากแค่ไหน ตัวเลขที่สื่อนำเสนอคงเห็นกันอยู่ เมื่อวานเรามีผู้ป่วยหนักสูงเป็นอันดับ 12 ของโลก แม้จะระดมสร้าง รพ.จริง, จัดหาเตียง, เนรมิตเครื่องช่วยหายใจ, ออกซิเจน, อุปกรณ์การแพทย์ต่าง ๆ ได้ชั่วข้ามคืน เราก็ไม่สามารถเพิ่มจำนวนบุคลากรได้มากกว่านี้อีก
ทางเลือกอื่นในการสกัดการระบาด ไม่ว่าจะเป็นการระดมสร้างภูมิคุ้มกันผ่านวัคซีน กทม และอีกหลายจังหวัดเสี่ยงมีการฉีดวัคซีนไปพอสมควร แต่ด้วยประสิทธิภาพของวัคซีน ระยะเวลาในการกระตุ้นภูมิ รวมถึงจำนวนผู้ได้รับวัคซีนที่ยังไม่มากพอ เราหวังผลจากมันไม่ได้
การตรวจก็มีข้อจำกัด ตัวเลขการตรวจรวมรายสัปดาห์ ฉบับล่าสุดของกรมวิทย์ยังไม่เผยแพร่ออกมา แต่ถ้าดูข้อมูล ศบค ในตาราง เราตรวจหาผู้ติดเชื้อได้ต่ำมาก กทม และปริมณทล ตรวจได้เพียงวันละ 3 พันคน และมี positive rate ที่สูงมาก ๆ จนน่าตกใจ การค้นหาผู้ป่วยและแยกโรคแทบเป็นไปไม่ได้
ในเมื่อสองทางเลือกข้างต้นทำไม่ได้ คงเหลือทางสุดท้ายในการตัดตอนการระบาด คือ full lockdown
ท่าน ผบห ศบค กล่าวไว้ว่า การทำ full lockdown แบบช่วงเมษายนปีที่ผ่านมา รัฐหมดค่าใช้จ่ายถึงเดือนละ 3 แสนล้านบาท เงินจำนวนนี้สามารถเพิ่ม capacity ในการตรวจเชื้อ, ปรับปรุงระบบการเฝ้าระวังการระบาด, เพิ่มศักยภาพของระบบโรงพยาบาล, ซื้อวัคซีนประสิทธิภาพสูง วางแผนการจัดหาและกระจายรวดเร็ว และมีปริมาณเกินพอสำหรับคนทั้งประเทศได้ และเรามีเวลาให้เตรียมการนานถึง 1 ปี
บางที … พวกเราในฐานะประชาชน ควรใช้เหตุการณ์ทั้งหมดเป็นบทเรียนว่า เราปล่อยให้สถานการณ์เดินมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ระหว่างการระบาดระลอก 1 เมื่อเดือนเมษายน 2563 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประกาศเคอร์ฟิวทั่วประเทศ ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ห้ามประชาชนออกนอกเคหสถานตั้งแต่เวลา 22.00 – 04.00 น. มีผลบังคับใช้ (3 เม.ย.63) เพื่อหยุดยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อโรคโควิด-19
นอกจากนี้ กรุงเทพมหานคร ได้สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว ประกอบด้วย ร้านอาหารหรือเครื่องดื่ม ร้านอาหารหรือเครื่องดื่มที่อยู่ในคูหา รถเข็นและแผงลอยจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม ให้เปิดได้ตั้งแต่เวลา 04.01 น. ถึงเวลา 22.00 รวมถึงให้ปิดร้านค้าหรือสถานประกอบการขายสุรา
ขณะที่ศูนย์อำนวยการบริหารสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กระทรวงมหาดไทย (ศบค.มท.) ได้รับรายงานว่า ผู้ว่าราชการจังหวัด 76 จังหวัดทั่วประเทศ ในฐานะผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัด ได้พิจารณาออกคำสั่งปิดร้านค้าและสถานประกอบการจำหน่ายสุราเป็นการชั่วคราว
หมอมานพ แนะ ล็อกดาวน์เต็มรูปแบบ ทางสุดท้ายตัดตอนโควิดระบาด - ประชาชาติธุรกิจ
Read More
No comments:
Post a Comment