Rechercher dans ce blog

Sunday, March 20, 2022

รัสเซีย ยูเครน : รัสเซียทำข้อผิดพลาดทางทหารอะไรแล้วบ้าง - บีบีซีไทย

  • โจนาธาน บีล
  • ผู้สื่อข่าวกลาโหม

Abandoned Russian tanks

ที่มาของภาพ, Getty Images

รัสเซียมีกองทัพที่ทรงพลังที่สุดและใหญ่ที่สุดในโลกประเทศหนึ่ง แต่ในช่วงเริ่มต้นของการบุกยูเครนไม่ได้มีการแสดงให้เห็นชัดเจนถึงเรื่องนี้ นักวิเคราะห์ด้านการทหารหลายคนในโลกตะวันตก ต่างประหลาดใจต่อผลงานการสู้รบของรัสเซีย โดยมีคนหนึ่งถึงกับบอกว่า "น่าสิ้นหวัง"

การบุกของกองทัพรัสเซียดูเหมือนจะหยุดชะงักไป และคนบางส่วนกำลังตั้งคำถามว่า รัสเซียจะกอบกู้ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากสงครามครั้งนี้ได้หรือไม่ ในสัปดาห์นี้ เจ้าหน้าที่ทางการทหารอาวุโสขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (North Atlantic Treaty Organization--NATO) หรือ นาโต กล่าวกับบีบีซีว่า "เห็นได้ชัดว่า รัสเซียยังไม่บรรลุเป้าหมายของพวกเขา และสุดท้ายแล้วก็น่าจะไม่บรรลุเป้าหมาย" แล้วเกิดความผิดพลาดอะไรขึ้น ผมได้พูดคุยกับบรรดาเจ้าหน้าที่การทหารและเจ้าหน้าที่ข่าวกรองของชาติตะวันตกหลายคน เกี่ยวกับความผิดพลาดที่รัสเซียได้สร้างขึ้น

การคาดคะเนที่ผิดพลาด

ข้อผิดพลาดแรกของรัสเซียคือ การประเมินความแข็งแกร่งในการต้านทานและขีดความสามารถของกองทัพยูเครนที่เล็กกว่าตัวเองต่ำเกินไป รัสเซียใช้งบประมาณประจำปีด้านกลาโหมมากกว่า 6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2 ล้านล้านบาท) ขณะที่ยูเครนมีงบกลาโหมประจำปีอยู่ที่กว่า 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.3 แสนล้านบาท) เท่านั้น

ขณะเดียวกัน รัสเซีย และชาติอื่น ๆ ดูเหมือนจะประเมินความแข็งแกร่งด้านการทหารของรัสเซียสูงเกินไป ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ได้ปรับปรุงกองทัพให้มีความทันสมัยมากขึ้น และเขาอาจจะเชื่อในการสนับสนุนกองทัพของตัวเองมากเกินไปด้วย

graphic
1px transparent line

เจ้าหน้าที่ด้านการทหารของอังกฤษคนหนึ่งกล่าวว่า รัสเซียลงทุนจำนวนมากในการทดลองต่าง ๆ และอาวุธนิวเคลียร์ รวมถึงการพัฒนาอาวุธชนิดใหม่ ๆ อย่างขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง รัสเซียน่าจะสร้าง ที-14 อาร์มาตา (T-14 Armata) รถถังที่ก้าวหน้าที่สุดในโลกได้แล้ว แต่กลับไม่เห็นรถถังรุ่นนี้ในการสู้รบครั้งนี้ แม้ว่าจะเคยมีการนำมาโชว์ในการสวนสนามในวันแห่งชัยชนะที่จัตุรัสแดงในกรุงมอสโกมาแล้ว แต่รถถังส่วนใหญ่ที่รัสเซียนำมาใช้ในสนามรบคือ รถถังรุ่นที่เก่ากว่านี้คือ ที-72 (T-72) รถลำเลียงพลหุ้มเกราะ ปืนใหญ่ และเครื่องยิงจรวด

ในช่วงเริ่มต้นของบุก รัสเซียมีข้อได้เปรียบที่ชัดเจนในการโจมตีทางอากาศโดยมีการย้ายเครื่องบินรบไปใกล้กับพรมแดน มากกว่าจำนวนเครื่องบินของกองทัพอากาศยูเครนคิดเป็นสัดส่วนกว่า 3 ต่อ 1 นักวิเคราะห์ด้านการทหารส่วนใหญ่คาดว่า กองกำลังที่กำลังเดินหน้าบุกนั้นจะมีความเหนือชั้นกว่าทางอากาศได้อย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้น การป้องกันทางอากาศของยูเครนยังคงได้ผลเป็นอย่างดี ทำให้จำกัดความสามารถในการเคลื่อนกำลังพลของรัสเซีย

รัฐบาลรัสเซีย อาจจะคาดเช่นกันว่า กองกำลังพิเศษของตัวเองจะมีบทบาทสำคัญ ช่วยให้มีการโจมตีอย่างเด็ดเดี่ยวและรวดเร็ว

เจ้าหน้าที่ข่าวกรองอาวุโสของชาติตะวันตกคนหนึ่งกล่าวกับบีบีซีว่า รัสเซียคิดว่า จะส่งหน่วยแนวหน้าอย่าง ทหารพลร่มวีดีวี และสเปตส์นาตซ์ "เพื่อกำจัดผู้ที่ต่อต้านจำนวนไม่มาก" แต่ในช่วง 2-3 วันแรก ได้มีการขับไล่เฮลิคอปเตอร์ของรัสเซียที่โจมตีสนามบินฮอสโตเมล (Hostomel Airport) นอกกรุงเคียฟ ทำให้รัสเซียไม่สามารถนำทหาร อุปกรณ์ต่าง ๆ และเสบียงเข้ามาได้

มีการแสดงรถถัง ที-14 อาร์มาตา ของรัสเซียในงานสวนสนาม ปี 2017

ที่มาของภาพ, Getty Images

รัสเซียจึงต้องขนส่งเสบียงโดยใช้ถนนเป็นส่วนใหญ่ ทำให้เกิดการจราจรติดขัดและมีจุดที่เคลื่อนผ่านลำบากหลายจุด ง่ายต่อการตกเป็นเป้าซุ่มโจมตีโดยกองทัพยูเครน ยานหุ้มเกราะขนาดใหญ่บางส่วนได้วิ่งออกนอกถนน และติดหล่มโคลน

ขณะที่ขบวนรถหุ้มเกราะที่เคลื่อนขบวนเป็นแถวยาวจากทางเหนือ ซึ่งมีดาวเทียมหลายดวงถ่ายภาพนี้ได้ ก็ยังไม่สามารถล้อมกรุงเคียฟได้ การบุกของรัสเซียส่วนใหญ่จึงมาจากทางใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ใช้ทางรถไฟในการขนส่งเสบียงเข้าเติมให้กับกำลังพลได้ นายเบน วอลเลซ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของสหราชอาณาจักร กล่าวกับบีบีซีว่า กองกำลังของประธานาธิบดีปูติน "ได้สูญเสียแรงเหวี่ยงไป"

"พวกเขาไม่ขยับ แล้วก็ช้ามาก และแน่นอนว่า มีคนบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก"

ความสูญเสียและขวัญกำลังใจต่ำ

รัสเซียเคลื่อนกำลังพลราว 190,000 นาย ในการบุกยูเครนและทหารส่วนใหญ่ก็ต้องการที่จะร่วมรบครั้งนี้ แต่ได้มีการสูญเสียกำลังทหารนี้ไปแล้วราว 10% ไม่มีตัวเลขที่น่าเชื่อถือในการบอกถึงความสูญเสียของฝ่ายรัสเซียหรือยูเครน แต่ยูเครนอ้างว่า ได้สังหารทหารรัสเซียไปแล้ว 14,000 นาย แต่สหรัฐฯ ประเมินว่า จำนวนอาจจะน้อยกว่านั้นครึ่งหนึ่ง

เจ้าหน้าที่ทางการชาติตะวันตก กล่าวว่า มีหลักฐานด้วยว่า ขวัญกำลังใจในหมู่ทหารรัสเซียลดต่ำลง โดยมีคนหนึ่งบอกว่า "ต่ำ ต่ำมาก ๆ" อีกคนบอกว่า ทหาร "หนาว เหนื่อย และหิว" เพราะพวกเขาต้องรอคอยท่ามกลางหิมะนานหลายสัปดาห์ในเบลารุสและรัสเซีย ก่อนที่จะได้รับคำสั่งให้บุก

รัสเซียจึงจำเป็นต้องคัดเลือกทหารเพิ่มเติมเพื่อนำไปแทนที่กำลังพลที่สูญเสียไป รวมถึงการนำหน่วยสำรองที่อยู่ไกลทางตะวันออกของประเทศและในประเทศอาร์เมเนียเข้ามาเสริม เจ้าหน้าที่ทางการจากชาติตะวันตกหลายคนเชื่อว่า "มีความเป็นไปได้สูงมาก" ที่ทหารต่างชาติจากซีเรียจะเข้าร่วมต่อสู้ในครั้งนี้ในอีกไม่ช้า พร้อมกับทหารรับจ้างจากกลุ่มแวกเนอร์ (Wagner) ซึ่งเป็นกลุ่มลับของรัสเซีย เจ้าหน้าที่ทางการทหารอาวุโสของนาโต กล่าวว่า นี่คือสัญญาณว่า รัสเซีย "กำลังจนตรอก"

เสบียงและการส่งกำลังบำรุง

รัสเซียเผชิญกับปัญหาพื้นฐานหลายอย่าง มีคำพูดทางการทหารที่เก่าแก่คำพูดหนึ่งว่า มือสมัครเล่นพูดถึงยุทธวิธี ส่วนมืออาชีพศึกษาการส่งกำลังบำรุง มีหลักฐานว่า รัสเซียไม่ได้คำนึงถึงเรื่องนี้มากพอ ขบวนยานหุ้มเกราะขาดแคลนเชื้อเพลิง อาหาร และกระสุน ยานพาหนะต่าง ๆ เครื่องยนต์ขัดข้อง และต้องจอดทิ้งไว้ จากนั้นก็มีรถแทร็กเตอร์ของยูเครนมาลากออกไป

เจ้าหน้าที่ทางการจากชาติตะวันตก ยังเชื่อด้วยว่า อาวุธบางส่วนของรัสเซียกำลังร่อยหรอลง รัสเซียได้ยิงอาวุธที่มีความแม่นยำสูงพิสัยไกลไปแล้วประมาณ 850-900 ลูก รวมถึงขีปนาวุธร่อน ซึ่งหาของมาทดแทนได้ยากกว่าอาวุธที่ไม่มีระบบนำวิถี เจ้าหน้าที่ทางการสหรัฐฯ ได้เตือนว่า รัสเซียได้ขอให้จีนช่วยแก้ปัญหาเรื่องขาดแคลนอาวุธบางส่วนแล้ว

ในทางกลับกัน อาวุธที่ชาติตะวันตกมอบให้กับยูเครนถูกส่งเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย ซึ่งช่วยเพิ่มขวัญกำลังใจ สหรัฐฯ เพิ่งประกาศว่า จะให้ความช่วยเหลือด้านกลาโหมแก่ยูเครนอีก 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2.7 หมื่นล้านบาท) นอกจากนี้ก็ส่งขีปนาวุธต่อต้านรถถังและต่อต้านเครื่องบินให้กับยูเครนเพิ่มขึ้นด้วย คาดว่าจะมีการมอบสวิตช์เบลด (Switchblade) ซึ่งเป็นโดรน "กามิกาเซ่" ขนาดเล็กที่สหรัฐฯ พัฒนาขึ้นให้ด้วย โดยโดรนนี้สามารถขนติดตัวไว้ในเป้ได้ก่อนที่จะใช้ในการนำส่งวัตถุระเบิดขนาดเล็กไปโจมตีเป้าหมายในพื้นที่ได้

เจ้าหน้าที่ทางการชาติตะวันตกยังเตือนว่า ประธานาธิบดีปูติน "อาจจะเพิ่มระดับความโหดเหี้ยมมากขึ้น" พวกเขาบอกว่า ปูตินยังมีระเบิดมากพอในการโจมตีเมืองต่าง ๆ ของยูเครน "นานสักช่วงเวลาหนึ่ง"

แม้ว่าจะมีความผิดพลาดหลายอย่าง เจ้าหน้าที่ข่าวกรองคนหนึ่งกล่าวว่า ประธานาธิบดีปูติน "ไม่น่าที่จะหยุดยั้ง แต่อาจจะยกระดับขึ้นไปอีก เขาน่าจะยังคงมั่นใจว่า รัสเซียจะเอาชนะยูเครนทางการทหารได้" และขณะที่กองกำลังของยูเครนได้แสดงการต่อต้านอย่างดุเดือด เจ้าหน้าที่ทางการคนเดิมได้เตือนว่า หากไม่มีการขนส่งเสบียงเข้าไปเติม ท้ายที่สุด พวกเขาก็จะหมดกระสุนและเสียกำลังพลไป แม้ว่าสถานการณ์จะดีกว่าตอนเริ่มสงคราม แต่พวกเขาก็ยังดูเหมือนว่า ยังเพลี่ยงพล้ำให้กับฝ่ายยูเครน

line

Adblock test (Why?)


รัสเซีย ยูเครน : รัสเซียทำข้อผิดพลาดทางทหารอะไรแล้วบ้าง - บีบีซีไทย
Read More

No comments:

Post a Comment

นักวิชาการ มธ. เสนอกลไกทางเลือกแก้ PM 2.5 - ไทยโพสต์

นักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อม ม.ธรรมศาสตร์ แนะ ควรให้ ‘อำนาจสั่งการ’ คกก.อากาศสะอาด ดำเนินมาตรการข้ามหน่วยงาน พร้อม ‘บูรณาการงบประมาณ’ ตามภารกิจ...