กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เคยให้ข้อมูลไว้ว่าในช่วง "วันหยุดยาว" ต่างๆ ของไทยจะเป็นช่วงที่ประชาชนออกเดินทางเป็นจำนวนมาก ทำให้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้บ่อย กรมควบคุมโรค จึงมีคำแนะนำถึงประชาชนเพื่อการเตรียมความพร้อมทั้งคนทั้งรถก่อนการเดินทาง
โดยเฉพาะการเตรียมตัวสำหรับคนขับถือว่าสำคัญมาก เพราะนอกจากต้องเพิ่มความระมัดระวังให้กับตัวเองแล้ว ยังต้องมีความรับชอบต่อเพื่อนร่วมทางคนอื่นๆ ด้วย สำหรับวิธีเตรียมตัวให้พร้อมก่อนขับรถทางไกล และวิธี "แก้ง่วง" ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่รู้สึกสดชื่นขึ้นได้ในระหว่างเดินทาง ได้แก่
- ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดและไม่รับประทานยาที่ทำให้ง่วง ทั้งก่อนการขับรถและขณะขับรถ เช่น ยาลดน้ำมูก ยาภูมิแพ้ ยาแก้ไอ เป็นต้น
- พักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง ก่อนขับรถ
- ตรวจเช็คความพร้อมของยานพาหนะ โดยตรวจเช็คลมยาง ไฟส่องสว่าง ไฟเลี้ยว ระบบเบรก ฯลฯ
- คาดเข็มขัดนิรภัย หรือ สวมหมวกนิรภัยทุกครั้งขณะขับรถ และขับรถด้วยความระมัดระวัง ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด
นอกจากนี้ ยังมีคำแนะนำเกี่ยวกับการ "ตรวจสภาพรถ" เบื้องต้นด้วยตัวเองที่ควรรู้ สำหรับเป็นเช็กลิสต์ในการตรวจเช็กสภาพรถก่อนเดินทางไกล กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ รวบรวมข้อมูลมาให้แล้ว ดังนี้
ล้อรถ/ยางรถยนต์ : ก่อนเดินทางควรเติมลมยางเพิ่ม 3-5 ปอนด์/ตร.นิ้ว เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและช่วยประหยัดเชื้อเพลิง
แบตเตอร์รีรถยนต์ : ถ้าเป็นแบตเตอรี่แบบน้ำจะต้องคอยเติมน้ำกลั่นอยู่เสมอไม่ให้ขาด ถ้าเป็นแบตเตอรี่แบบแห้งไม่ต้องดูแลอะไรมาก และถ้าเป็นแบตเตอรี่แบบกึ่งแห้ง จะต้องเติมน้ำกลั่นปีละ 1-2 ครั้ง
ระบบเบรก/น้ำมันเบรก : ให้ลอง “เหยียบเบรกแล้วฟัง” สังเกตดูว่ามีเสียงดังผิดปกติหรือไม่ หากมีเสียงผิดปกติควรเข้าอู่โดยด่วน ในส่วนของน้ำมันเบรกต้องใส่เติมให้อยู่ระดับปกติ
ระบบไฟส่องสว่าง : ควรตรวจเช็คระบบไฟทุกส่วน ทั้งไฟหน้าสูง-ต่ำ ไฟท้าย ไฟเบรก ไฟเลี้ยว ไฟถอยหลัง ไฟตัดหมอก ไฟฉุกเฉิน ฯลฯ ต้องใช้งานได้ครบทุกจุด
ที่ปัดน้ำฝน : ต้องอยู่ในสภาพใช้งานได้ดี ตัวยางต้องแน่น ลองเปิดใช้งานต้องไม่มีเสียงขูดขีดผิดปกติ
น้ำมันเครื่อง/หม้อน้ำ : น้ำมันเครื่องต้องอยู่ในระดับที่เหมาะสม ตรวจเช็กได้จากก้านวัดน้ำมันเครื่อง ส่วนหม้อน้ำต้องตรวจดูว่ายังมีน้ำอยู่ไหม ถ้าน้ำลดหายไปเยอะ ควรเติมเข้าไปให้ต่ำว่าขีด Max เล็กน้อย
"วันหยุดยาว" 28-31 ก.ค.65 ก่อนขับรถทางไกลต้องรู้! วิธีแก้ง่วงและเช็กรถยนต์ - กรุงเทพธุรกิจ
Read More
No comments:
Post a Comment