Rechercher dans ce blog

Sunday, August 6, 2023

SET เดือน ส.ค. ผันผวนในทางลง เลือกหุ้นให้ถูก หลีกเลี่ยงกลุ่มเสี่ยง - ประชาชาติธุรกิจ

คอลัมน์ : เติมความคิดพิชิตการลงทุน
ผู้เขียน : เอกภาวิน สุนทราภิชาติ
        บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด

สวัสดีครับท่านนักลงทุน ปัจจัยต่างประเทศที่ดีขึ้น โดยเงินเฟ้อสหรัฐลดลงต่ำกว่าคาด ทำให้คาดว่าเฟดใกล้ยุติขึ้นดอกเบี้ยในเชิงรุก และคาดหวังจีนจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลัง GDP 2Q23 เติบโตต่ำกว่าตลาดคาด อีกทั้ง งบ 2Q66 กลุ่มธนาคาร กำไรดีกว่าคาด โดยเติบโต 3% QoQ และ 18% YoY หลักๆ มาจากกําไรจากเครื่องมือทางการเงิน และ NIM ที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งช่วยชดเชยการตั้งค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) ที่สูงกว่าคาด

สำหรับแนวโน้มกําไรสุทธิ 3Q66 ฝ่ายวิจัยฯ InnovestX ประเมินว่าจะเพิ่มขึ้น YoY แต่ลดลง QoQ ทั้งนี้ ได้ปรับประมาณการการเติบโตของกําไรปี 2566 ของกลุ่มธนาคารเพิ่มขึ้นจาก 13% สู่ 19% โดยส่วนใหญ่เกิดจากการปรับประมาณการ NIM และกําไรจากเครื่องมือทางการเงิน เพื่อสะท้อนผลประกอบการ 2Q66

ด้านทิศทาง fund flow ในเดือน ก.ค. นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิเป็นเดือนที่ 6 ที่ 1.26 หมื่นลบ. จากเดือนก่อนหน้าที่ขายสุทธิ 9.1 พันลบ. โดยเพิ่มสัดส่วนการถือครองในหุ้นกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ แต่ลดสัดส่วนการถือครองในกลุ่มธนาคาร ค้าปลีก อสังหาฯ ขณะที่ performance ของดัชนี MSCI Thailand ดีกว่า MSCI APAC ex. Japan ในช่วง 1 และ 12 เดือนที่ผ่านมา แต่แย่กว่าในช่วง 3 และ 6 เดือนก่อนหน้า

               

ทั้งนี้ ในส่วนของประมาณการกำไรฯ ปี 2566 ของ SET นั้น consensus มีการปรับลง 2.17% เช่นเดียวกับ ไต้หวัน สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ที่ปรับลง 2.32%, 0.91%, 0.53% และ 0.53% ตรงข้ามกับเกาหลีใต้ ฟิลิปปินส์ จีน และฮ่องกง ที่ปรับขึ้น 0.72%, 0.52%, 0.42% และ 0.17% ตามลำดับ

ด้านแนวโน้ม SET ในเดือนส.ค. แม้ว่าการจัดตั้งรัฐบาลมีความคืบหน้า จากการข้ามขั้ว อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การเมืองในประเทศยังคงมีความไม่แน่นอน อาจทำให้ SET เคลื่อนไหวในลักษณะผันผวนสูง และในบางช่วงอาจมีแนวโน้มอ่อนตัวได้ รวมถึงแนวโน้มในเดือนส.ค. คาดว่าตลาดหุ้นทั่วโลก มีแนวโน้มเข้าสู่การพักฐาน หลังปรับขึ้นมาก่อนหน้านี้แล้ว

ทั้งนี้ แนวโน้ม SET มีกรอบบนถูกจำกัดบริเวณแนวต้าน 1,555 และ 1,570 จุด ตามลำดับ ดังนั้น ไม่ควรไล่ราคา แต่แนะนำจังหวะดัชนีอ่อนตัวให้เป็นโอกาสในการเข้าซื้อสะสม โดยมีแนวรับอยู่ที่บริเวณ 1,480-1,500 จุด โดยเน้นเลือกหุ้นที่มีความต้านทานความผันผวนภายในอันเกิดจากความไม่แน่นอนทางการเมืองได้ และมีความน่าสนใจของผลการดำเนินงาน

ได้แก่ 1) กลุ่มหุ้นที่คาดผลการดำเนินงาน 2Q66 จะยังเติบโตได้ดี YoY และ QoQ เลือก ADVANC BEM GULF รวมทั้งเก็งกำไรหุ้นที่คาดผลการดำเนินงาน 2Q66 มีโอกาสดีกว่าตลาดคาด เลือก AOT MINT

และ 2) กลุ่มหุ้นที่คาดผลการดำเนินงานผ่านจุดต่ำสุดใน 2Q66 และจะทยอยฟื้นตัวดีขึ้น QoQ และ YoY ใน 3Q-4Q66 เลือก ERW PTT OSP KCE

ขณะที่ช่วงสั้นแนะนำหลีกเลี่ยงการลงทุนสำหรับ 1) หุ้นที่คาดผลการดำเนินงาน 2Q66 จะออกมาอ่อนแอ และมีโอกาสตลาดจะปรับลดประมาณการ อาทิ กลุ่มอาหาร (TU CPF GFPT BTG) และกลุ่มหลักทรัพย์ (ASP, MST)

และ 2) หุ้นที่คาดได้รับผลกระทบจากปรากฎการณ์เอลนีโญจากกำลังซื้อภาคเกษตรที่ลดลง  ได้แก่ กลุ่มพาณิชย์ (GLOBAL) กลุ่มสินเชื่อ (MTC SAWAD) กลุ่มยานยนต์ (SAT STANLY) กลุ่มเครื่องดื่ม (CBG มีต้นทุนน้ำตาลสูง) กลุ่มโรงไฟฟ้าพลังน้ำ (CKP) รวมถึงกลุ่มเกษตรและอาหาร (CPF GFPT)

…แล้วพบกันใหม่ ในคอลัมน์ฉบับหน้า ด้วยรัก และหวังดี

เอกภาวิน สุนทราภิชาติ
เอกภาวิน สุนทราภิชาติ ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด

Adblock test (Why?)


SET เดือน ส.ค. ผันผวนในทางลง เลือกหุ้นให้ถูก หลีกเลี่ยงกลุ่มเสี่ยง - ประชาชาติธุรกิจ
Read More

No comments:

Post a Comment

นักวิชาการ มธ. เสนอกลไกทางเลือกแก้ PM 2.5 - ไทยโพสต์

นักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อม ม.ธรรมศาสตร์ แนะ ควรให้ ‘อำนาจสั่งการ’ คกก.อากาศสะอาด ดำเนินมาตรการข้ามหน่วยงาน พร้อม ‘บูรณาการงบประมาณ’ ตามภารกิจ...