คอลัมน์ : เติมความคิดพิชิตการลงทุน ผู้เขียน : เอกภาวิน สุนทราภิชาติ บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด
สวัสดีครับท่านนักลงทุน ปัจจัยต่างประเทศที่ดีขึ้น โดยเงินเฟ้อสหรัฐลดลงต่ำกว่าคาด ทำให้คาดว่าเฟดใกล้ยุติขึ้นดอกเบี้ยในเชิงรุก และคาดหวังจีนจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลัง GDP 2Q23 เติบโตต่ำกว่าตลาดคาด อีกทั้ง งบ 2Q66 กลุ่มธนาคาร กำไรดีกว่าคาด โดยเติบโต 3% QoQ และ 18% YoY หลักๆ มาจากกําไรจากเครื่องมือทางการเงิน และ NIM ที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งช่วยชดเชยการตั้งค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) ที่สูงกว่าคาด
สำหรับแนวโน้มกําไรสุทธิ 3Q66 ฝ่ายวิจัยฯ InnovestX ประเมินว่าจะเพิ่มขึ้น YoY แต่ลดลง QoQ ทั้งนี้ ได้ปรับประมาณการการเติบโตของกําไรปี 2566 ของกลุ่มธนาคารเพิ่มขึ้นจาก 13% สู่ 19% โดยส่วนใหญ่เกิดจากการปรับประมาณการ NIM และกําไรจากเครื่องมือทางการเงิน เพื่อสะท้อนผลประกอบการ 2Q66
ด้านทิศทาง fund flow ในเดือน ก.ค. นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิเป็นเดือนที่ 6 ที่ 1.26 หมื่นลบ. จากเดือนก่อนหน้าที่ขายสุทธิ 9.1 พันลบ. โดยเพิ่มสัดส่วนการถือครองในหุ้นกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ แต่ลดสัดส่วนการถือครองในกลุ่มธนาคาร ค้าปลีก อสังหาฯ ขณะที่ performance ของดัชนี MSCI Thailand ดีกว่า MSCI APAC ex. Japan ในช่วง 1 และ 12 เดือนที่ผ่านมา แต่แย่กว่าในช่วง 3 และ 6 เดือนก่อนหน้า
ทั้งนี้ ในส่วนของประมาณการกำไรฯ ปี 2566 ของ SET นั้น consensus มีการปรับลง 2.17% เช่นเดียวกับ ไต้หวัน สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ที่ปรับลง 2.32%, 0.91%, 0.53% และ 0.53% ตรงข้ามกับเกาหลีใต้ ฟิลิปปินส์ จีน และฮ่องกง ที่ปรับขึ้น 0.72%, 0.52%, 0.42% และ 0.17% ตามลำดับ
ด้านแนวโน้ม SET ในเดือนส.ค. แม้ว่าการจัดตั้งรัฐบาลมีความคืบหน้า จากการข้ามขั้ว อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การเมืองในประเทศยังคงมีความไม่แน่นอน อาจทำให้ SET เคลื่อนไหวในลักษณะผันผวนสูง และในบางช่วงอาจมีแนวโน้มอ่อนตัวได้ รวมถึงแนวโน้มในเดือนส.ค. คาดว่าตลาดหุ้นทั่วโลก มีแนวโน้มเข้าสู่การพักฐาน หลังปรับขึ้นมาก่อนหน้านี้แล้ว
ทั้งนี้ แนวโน้ม SET มีกรอบบนถูกจำกัดบริเวณแนวต้าน 1,555 และ 1,570 จุด ตามลำดับ ดังนั้น ไม่ควรไล่ราคา แต่แนะนำจังหวะดัชนีอ่อนตัวให้เป็นโอกาสในการเข้าซื้อสะสม โดยมีแนวรับอยู่ที่บริเวณ 1,480-1,500 จุด โดยเน้นเลือกหุ้นที่มีความต้านทานความผันผวนภายในอันเกิดจากความไม่แน่นอนทางการเมืองได้ และมีความน่าสนใจของผลการดำเนินงาน
ได้แก่ 1) กลุ่มหุ้นที่คาดผลการดำเนินงาน 2Q66 จะยังเติบโตได้ดี YoY และ QoQ เลือก ADVANC BEM GULF รวมทั้งเก็งกำไรหุ้นที่คาดผลการดำเนินงาน 2Q66 มีโอกาสดีกว่าตลาดคาด เลือก AOT MINT
และ 2) กลุ่มหุ้นที่คาดผลการดำเนินงานผ่านจุดต่ำสุดใน 2Q66 และจะทยอยฟื้นตัวดีขึ้น QoQ และ YoY ใน 3Q-4Q66 เลือก ERW PTT OSP KCE
ขณะที่ช่วงสั้นแนะนำหลีกเลี่ยงการลงทุนสำหรับ 1) หุ้นที่คาดผลการดำเนินงาน 2Q66 จะออกมาอ่อนแอ และมีโอกาสตลาดจะปรับลดประมาณการ อาทิ กลุ่มอาหาร (TU CPF GFPT BTG) และกลุ่มหลักทรัพย์ (ASP, MST)
และ 2) หุ้นที่คาดได้รับผลกระทบจากปรากฎการณ์เอลนีโญจากกำลังซื้อภาคเกษตรที่ลดลง ได้แก่ กลุ่มพาณิชย์ (GLOBAL) กลุ่มสินเชื่อ (MTC SAWAD) กลุ่มยานยนต์ (SAT STANLY) กลุ่มเครื่องดื่ม (CBG มีต้นทุนน้ำตาลสูง) กลุ่มโรงไฟฟ้าพลังน้ำ (CKP) รวมถึงกลุ่มเกษตรและอาหาร (CPF GFPT)
…แล้วพบกันใหม่ ในคอลัมน์ฉบับหน้า ด้วยรัก และหวังดี
SET เดือน ส.ค. ผันผวนในทางลง เลือกหุ้นให้ถูก หลีกเลี่ยงกลุ่มเสี่ยง - ประชาชาติธุรกิจ
Read More
No comments:
Post a Comment