Rechercher dans ce blog

Saturday, March 13, 2021

ปรับ ครม."ผสมโรง" รื้อรัฐธรรมนูญสะดุดกลางทาง : ศึกนอกแรง ศึกในแซงโค้ง - ไทยรัฐ

แต่แรงกระฉอกยังไม่สงบง่ายๆ อย่างที่เห็นโผเปลี่ยนไปเปลี่ยนมารายวัน

ตามรูปการณ์เน้นโฟกัสไปที่ก๊วน 3 รัฐมนตรีช่วย “ผู้กองนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ “มาดามบิ๊กอาย” นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมช.แรงงาน และนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง

ยังไม่ได้รับการสนองตอบการ “อัปเกรด” ขึ้นชั้น

โดยเฉพาะ “ผู้กองนัส” ที่สถานะเจ้าของสวนกล้วยในค่ายพลังประชารัฐ มันใหญ่กว่าเก้าอี้รัฐมนตรีช่วยไปแล้ว แนวโน้มถ้ารอบนี้ไม่ได้โปรโมตตามผลงานชนะศึกเลือกตั้งซ่อมนครศรีธรรมราช ต่อเนื่องกับการโชว์พลังในสภา ตัวเลขโหวตแซงหน้า “บิ๊กตู่” ตีคู่เท่า “บิ๊กป้อม”

ตามฟอร์มนักการเมือง “ปาก” ไม่ตรงกับ “ใจ”

คิวนี้ “ผู้กองนัส” บอกแล้วแต่นายกฯจะพิจารณา “พี่ตู่” ก็ต้องแปลรหัสให้ดีๆ

เกม “ซ่อนแต้ม” ในคิวโหวตอภิปรายไม่ไว้วางใจ โชว์ให้เห็น จะจะมาแล้ว

อีกช็อตที่มาถึงจุดแตกหัก สะท้อนร่องรอยการเหยียบตาปลากันเองในขบวนโหนอำนาจทหารเฒ่า 3 ป. ตามปรากฏการณ์อย่างที่ “บิ๊กป้อม” ต้องบอกปัดปมร้อนระหว่าง “เสี่ยแฮงค์” นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกฯ ในฐานะเลขาธิการพรรค กับ “มาดามบิ๊กอาย” แย่งกันคุมคิวในพรรค

หักหน้า เบรกแตก โซ้ยกันแรงๆต่อหน้าลุง

ภาวะยุ่งเหยิงที่เริ่มเกินวิสัยทหารเฒ่า 3 ป. จะคุมอาการ “กระสัน” อำนาจและผลประโยชน์ของนักการเมืองตามท้องเรื่องประจานเชื้อเน่าชักลามเลยเถิด อารมณ์เบียดแย่ง เหยียบบ่า ปาดหน้า

เนื้อในพลังประชารัฐแตกเป็นเสี่ยง เห็นได้จากภายนอก

นั่นยังไม่ได้พูดถึงพรรคร่วมรัฐบาลที่เกาะเกี่ยวกันด้วยเกมอำนาจและผลประโยชน์หลวมๆ โฟกัสไปที่พรรคภูมิใจไทย กับยี่ห้อประชาธิปัตย์ที่ผูกเสี่ยวกันร่วมรัฐบาล

แท็กทีมเรียกสินสอดทองหมั้น หยิบชิ้นปลามันตัดหน้าพรรคแกนหลัก

จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์
จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์

เกมนี้เจอลูกเขี้ยวของ “บิ๊กตู่” หักดิบ โยนให้ “เสี่ยหนู” นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กับ “อู๊ดด้า” นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯและ รมว.พาณิชย์ หัวหน้าค่าย ปชป.ไปเกลี่ยโควตากันเอง

ตามเงื่อนไขภูมิใจไทยต้อนงูเห่าสีส้มมาเพิ่มแต้ม ตรงกันข้ามยี่ห้อประชาธิปัตย์เสียงหดหาย

โบ้ยให้ไปเปิดศึกภายในแต่ละพรรค ล่อเป้ากันเอง

“บิ๊กตู่” หมดโปรฯสำหรับพรรคร่วมรัฐบาล ปั่นป่วนกับการแย่งชามข้าวในค่ายพลังประชารัฐ ตามเงื่อนไขสถานการณ์ปรับ ครม.ไม่ว่าออกมารูปไหน หนีไม่พ้นการตอกย้ำรอยร้าวในหมู่ทีมอำนาจ 3 ป.

ภาพภายในกัดกร่อน สะท้อนภาวะอ่อนกำลัง

ขณะที่ภาพภายนอก ก็ฉุดความชอบธรรม เมื่อการปรับ ครม.แค่แก้ปมการเมือง ไม่ได้เน้นเรื่องประสิทธิภาพในการบริหารราชการแผ่นดิน อุดปมด้อยรัฐบาลแต่อย่างใด

กระแสภายนอก ภาวะภายใน โหลดภูมิต้านทานรัฐบาลทหารเฒ่า 3 ป.

ในจังหวะที่ต้องรอรับแรงกระแทกหนักๆ จากผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญกรณีคำร้องของนายไพบูลย์ นิติตะวัน และนายสมชาย แสวงการ ในฐานะสมาชิกรัฐสภา ที่ขอให้ศาลวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจรัฐสภาในการตั้ง ส.ส.ร.เพื่อยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ชอบด้วย รัฐธรรมนูญหรือไม่

สรุปรัฐสภามีอำนาจหน้าที่จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้โดยต้องให้ประชาชนผู้มีอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญได้ลงประชามติเสียก่อนว่าประชาชนประสงค์ จะให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ และเมื่อจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เสร็จแล้วลงประชามติอีกครั้ง

ท่ามกลางการตีความหมายกันไปต่างๆนานา

จับสัญญาณจาก “ส.ว.ลากตั้ง” ส่วนใหญ่ เสนอให้ไปเริ่มกระบวนใหม่ และให้ที่ประชุมรัฐสภาเบรกการลงมติวาระ 3 ร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม

ตามรูปการณ์ กระบวนการรื้อรัฐธรรมนูญส่อสะดุดกลางทาง

ตามเงื่อนไขศาลรัฐธรรมนูญ ต้องทำประชามติว่าประชาชนเห็นด้วยกับการยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่หรือไม่ อีกขั้นคือเมื่อยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่เสร็จแล้วต้องทำประชามติอีกรอบ

โดยคำตอบเป็นนัย ถึงจะไฟเขียวให้เดินหน้ารื้อรัฐธรรมนูญใหม่ได้ แต่กว่าจะเสร็จสิ้นกระบวนการประชามติ 2–3 รอบ เวลาที่เหลืออีก 24 เดือนของรัฐบาล 3 ป. ไม่น่าจะทัน

เข้าเหลี่ยมทีม “ทหารเฒ่า” ลากเรือเหล็กสนิมเขรอะต่อไปอีกยาวๆ

แต่อีกมุมมันก็เข้าทางม็อบต้านอำนาจรัฐบาล 3 ป. มวลชนรุ่นใหม่ นักเรียน นิสิต นักศึกษา จะได้จังหวะฉวยน้ำมัน เบนซินไวไฟ จากปมฝ่าย คุมเกมอำนาจเบี้ยวรื้อรัฐธรรมนูญ

ผสมเชื้อไฟกับการเคลื่อนไหว ให้ปล่อยแกนนำออกจากเรือนจำ โละมาตรา 112

แกะรอยตามสัญญาณล่าสุด กลุ่ม REDEM จัด “โหวตนัดชุมนุมใหญ่” สู้กับเผด็จการเรียกร้องประชาธิปไตยในสัปดาห์หน้า ปลุกเร้ามวลชนเคลื่อนพลนัดหักดิบ

ม็อบนอกสภาส่อยกระดับตามเกมยื้อคิวรื้อรัฐธรรมนูญ

ตามสภาพแกนนำโดนรวบอยู่ในเรือนจำ มวลชนเด็กรุ่นใหม่ไร้หัว มีแต่ตัวและหัวใจของแนวร่วมสู้กันตามลำพัง จะไร้น้ำยา หมดพลัง หรือตรงกันข้ามยิ่งเพิ่มดีกรีความกดดัน

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เกมม็อบแรงแค่ไหน มักไม่มีผลต่อผู้นำรัฐบาลในการถอยออกจากกระดานอำนาจ ปลายทางของเกมมวลชนจะจบที่รัฐประหาร รถถังแอ่นแอ๊น เข้ามาจัดการทุกรอบ

และมันจะเกิดขึ้นหลังฉากแลกเลือด ความสูญเสียรุนแรง บาดเจ็บล้มตาย

ประเมินตามเงื่อนไขสถานการณ์ศึกนอก ม็อบแรงแน่ แต่อีกมุมก็อย่ากะพริบตา “ศึกใน” อาจแซงโค้งตามสภาพ เกมการเมืองในสภา พรรคร่วมรัฐบาลที่เกาะเกี่ยวกันด้วยเกมอำนาจและผลประโยชน์บางๆ

ถึงจุดไล่บี้ไล่ทุบกันแรงๆ เลิกยึดมารยาททางการเมือง

ตามท้องเรื่องพรรคประชาธิปัตย์ที่โดนเสียงเย้ยหยันถากถาง ไม่เหลือศักดิ์ศรีพรรคเก่าแก่ อยู่ในสภาพอกช้ำเลือดช้ำหนองจากการโดนพลังประชารัฐเหยียบซ้ำย่ำยี ไล่บี้เจาะฐานปักษ์ใต้แบบไม่แคร์

แค่เกาะเอวท็อปบูตร่วมรัฐบาลไปวันๆ นับวันยิ่งหมดราคา ยี่ห้อ ปชป.ส่อสูญพันธุ์

เมื่อมาถึงจุดพลิกผัน สถานการณ์ชัดเลยว่า คิวรื้อรัฐธรรมนูญโดนเบี้ยว “บิ๊กตู่” ยังอยู่อีกยาว

หัวอกนักเลือกตั้งอาชีพ เชื่อว่า ประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย คงต้องต่อสายคุยกับพรรคเพื่อไทย ก้าวไกล

คงไม่ยอมกินน้ำใต้ศอกทหารเฒ่า เฉาตายก่อนแน่.

“ทีมการเมือง”

Let's block ads! (Why?)


ปรับ ครม."ผสมโรง" รื้อรัฐธรรมนูญสะดุดกลางทาง : ศึกนอกแรง ศึกในแซงโค้ง - ไทยรัฐ
Read More

No comments:

Post a Comment

นักวิชาการ มธ. เสนอกลไกทางเลือกแก้ PM 2.5 - ไทยโพสต์

นักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อม ม.ธรรมศาสตร์ แนะ ควรให้ ‘อำนาจสั่งการ’ คกก.อากาศสะอาด ดำเนินมาตรการข้ามหน่วยงาน พร้อม ‘บูรณาการงบประมาณ’ ตามภารกิจ...