ยิ่งใกล้ก็ยิ่งเจ็บสำหรับคู่รักหวานแหววระหว่าง “ก้าวไกล” กับ “เพื่อไทย” ที่เสน่หาเริ่มจืดจางจนมีอาการต้องแยกกันคนละทางเสียแล้วกระมัง
“เพื่อไทย” จัดประชุม ส.ส.และกรรมการบริหารเห็นพ้องต้องกันว่าให้คณะเจรจาไปพูดคุยเพื่อหาข้อยุติว่าด้วยตำแหน่งประมุขฝ่ายนิติบัญญัติได้ความอย่างไรแล้วกลับมารายงาน
“ธง” ตั้งไว้คือ
“ก้าวไกล” ใช้สูตร 14+1 (นายกรัฐมนตรี)
“เพื่อไทย” ใช้สูตร 14+1 (ประธานสภา)
อ้างชอบธรรมไม่ใช่การแย่งเก้าอี้และเพื่อให้การจัดตั้งรัฐบาลที่มี “พิธา” เป็นนายกรัฐมนตรีเป็นไปด้วยความราบรื่น
หลัง “ก้าวไกล” ได้รับทราบแนวทางแล้วก็มีปฏิกิริยาในทันทีคือเลื่อนการเจรจาระหว่าง 2 ฝ่ายรวมถึงการนัด 8 หัวหน้าพรรคจัดตั้งรัฐบาลด้วย
ไม่มีกำหนด!
แม้ด้านหนึ่งจะเห็นชอบให้ “ปดิพัทธ์ สันติภาดา” เป็นประธานสภาฯ พูดง่ายๆว่าเตรียมพร้อมทุกอย่างเอาไว้แล้วเพราะคาดว่า “เพื่อไทย” คงจะยกเก้าอี้ตัวนี้ให้
เป็นอย่างนี้ก็อลเวงซิครับ...
ไม่ต้องถามว่าชาวคณะส้มจะคิดอย่างไร เพราะก่อนหน้านี้ก็คิดว่าไม่มีปัญหา เพราะ “เพื่อไทย” บอกว่าเป็นไปตามหลักการเป็นของพรรคอันดับ 1 จนมีการขอบคุณกันไปแล้ว
แต่จู่ๆกลับเป็นอย่างนี้ไปได้อย่างไร?
ความจริงแล้วสัญญาณในเรื่องนี้ “ก้าวไกล” น่าจะอ่านออกเมื่อ “เพื่อไทย” มีการสัมมนาให้ ส.ส.แสดงความเห็นได้อย่างเต็มที่
ปรากฏเสียงส่วนใหญ่ต้องการได้ตำแหน่งนี้และกล่าวโทษทีมเจรจาว่าไปยอมยกให้เขาได้อย่างไร
นั่นมันคือคำตอบที่ชัดในตัวของมันเองดีอยู่แล้ว
แน่นอนว่าเมื่อปัญหามันคาราคาซังอย่างนี้คงต้องมีการเจรจาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ในเร็วๆนี้ เนื่องจากจะมีการประชุมเพื่อตั้งประธานสภาฯในวันที่ 4 ก.ค.66
ถ้า “ก้าวไกล” ไม่ยอมเกมมันก็จะต้องไปถึงการเปิด “ฟรีโหวต” เพื่อลงมติ ซึ่งหวยมันคงไปออกที่ “เพื่อไทย” ได้ตำแหน่งนี้ไปครอง
กลายเป็นว่าพรรคร่วมรัฐบาลมาแย่งชิงกันเองที่มันสะท้อนถึงความไม่เป็นเอกภาพจะทำให้เกิดปัญหาตามมาอย่างแน่นอน
หรือถ้า “ก้าวไกล” ยอมก็จะเป็นเบี้ยล่างตลอดไป ซึ่งดูทรงแล้วไปกันได้ไม่ไกลแน่ด้วยเหตุผล 2 ประการ
1.แค้นใจเหมือนถูกหักหลัง
2.ความฮึกเหิมเหมือนม้าคะนองที่ต้องก่อปฏิกิริยาทางใดทางหนึ่ง
ว่าให้ถึงที่สุด “ก้าวไกล” ตกอยู่ในสภาพ “กับดัก” ของ “เพื่อไทย” ที่ออกซ้ายออกขวาก็ไม่ได้แม้มีเสียงเป็นอันดับ 1 ก็ตาม
ยิ่งโอกาสในความเป็นจริงที่จะก้าวไปถึงทำเนียบนั้น หนทางค่อนข้างจะริบหรี่ด้วยสภาพอย่างนี้คงทำให้ “ก้าวไกล” ต้องคิดหนักเพื่อหาทางออก
ที่สุดแล้วก็คงต้องเลือกทางใดทางหนึ่ง เพราะการจะอยู่ร่วมกันในภาวะจิตใจที่รับกันไม่ได้ก็ไม่มีความสุข พลอยให้การแก้ไขปัญหาอย่างที่ตั้งใจไว้สำริดผลยาก
อีกทางก็แยกทางกันเลยดีกว่า!
“สายล่อฟ้า”
“ก้าวไกล” ทางสองแพร่ง - ไทยรัฐ
Read More
No comments:
Post a Comment