วันอังคาร ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2566, 11.42 น.
ผ่าทางตัน!‘อดีตรองอธิการฯมธ.’ชี้ช่องมาตรา 272 วรรคสอง เปิดทาง‘นายกฯคนนอก’
25 กรกฎาคม 2566 รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Harirak Sutabutr ดังนี้...
ไม่ว่าจะอธิบายอย่างไร แต่การที่พรรคเพื่อไทยนัดหารือกับพรรคภูมิใจไทย พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคชาติพัฒนากล้า และพรรคพลังประชารัฐ จะมองเป็นอื่นไปไม่ได้ นอกจากเป็นการมองหาความเป็นไปได้ในการข้ามขั้วเพื่อจัดตั้งรัฐบาลให้สำเร็จ ซึ่งคำตอบก็ชัดเจนว่า หากจะร่วมรัฐบาลกับพรรคเหล่านี้ ก็จะต้องแยกทางกับพรรคก้าวไกล ยกเว้นพรรคชาติพัฒนากล้า ที่เพียงขออย่าแตะต้องมาตรา 112
หากไม่มีการเลื่อนการประชุม ในวันที่ 27 กรกฎาคม ก็จะมีการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งพรรคเพื่อไทยยังจำเป็นต้องแสดงละครต่อไปอีก โดยยังไม่สลัดพรรคก้าวไกลออก และเสนอชื่อแคนดิเดตของพรรคตัวเอง ทั้งที่รู้ดีว่าหากยังจับมือกับพรรคก้าวไกลต่อไป โอกาสที่จะผ่านมีน้อยกว่าน้อย
สำนักข่าวบางสำนักแสดงความเห็นว่า สว.ไม่มีสิทธิ์ที่จะตั้งเงื่อนไขว่าหากยังมีพรรคก้าวไกลก็จะไม่ไหวตให้ เพราะรัฐธรรมนูญมาตรา 272 ระบุให้เป็นการลงคะแนนร่วมกันทั้ง 2 สภา เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี ดังนั้น สว.จะต้องพิจารณาเฉพาะคุณสมบัติผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเท่านั้น มิฉะนั้นจะขัดรัฐธรรมนูญ
ความคิดเช่นนี้เป็นความคิดที่คับแคบอย่างยิ่ง การลงคะแนนเลือกนายกรัฐมนตรี ไม่เพียงต้องพิจารณาคุณสมบัติของผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อ แต่ต้องมองด้วยว่า หากผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี ได้เป็นนายกรัฐมนตรี จะเป็นผลลบต่อชาติบ้านเมืองหรือไม่ หรือเกิดความปั่นป่วนวุ่นวายหรือไม่อย่างไร
สมมติว่าพรรคก้าวไกลได้เป็นรัฐบาลหรือร่วมรัฐบาล เมื่อใดที่มีการผลักดันเรื่องแก้ไขมาตรา 112 น่าสนใจว่าบรรดาพรรคร่วมรัฐบาลที่ประกาศจุดยืนว่า ไม่เห็นด้วยจะทำตัวอย่างไร แต่สำหรับประชาชนส่วนใหญ่ที่ยังคงมีความจงรักภักดีจะต้องออกมาคัดค้านแน่ นี่คือความวุ่นวายที่จะเกิดขึ้น จนอาจนำไปสู่ความรุนแรงถึงขั้นเลือดตกยางออกได้
เมื่อใดที่มีความพยายามจะยุบสภากลาโหม ให้นักการเมืองแต่งตั้งผบ.เหล่าทัพ จัดการกับกองทัพ ที่ดูแล้วน่าจะทำให้กองทัพอ่อนแอลงมากกว่าเข้มแข็งขึ้น ยุบกอ.รมน. ยกเลิกการปกครองส่วนภูมิภาค เลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ให้องค์กรท้องถิ่นดูแลตัวเอง พัฒนาท้องถิ่นด้วยตัวเองไม่ต้องอาศัยส่วนกลาง และอาจถึงกับให้บางจังหวัดแยกตัวเป็นเอกราช เมื่อนั้นก็จะเกิดความวุ่นวายอีกแบบเป็นระลอกๆ และเมื่อถึงคราวเก็บภาษีการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ และการเก็บภาษีคนที่มีทรัพย์สินส่วนที่เกิน 300 ล้านขึ้นไป ก็จะเกิดความวุ่นวายอีกแบบเช่นกัน
หากมีการย้ายข้างย้ายขั้ว ไม่มีพรรคก้าวไกลร่วมรัฐบาล ไม่ว่านายกรัฐมนตรีจะเป็นเป็นพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายอนุทิน ชาญวีรกูล หรือพลเอก ประวิตร วงศ์สุวรรณ ล้วนส่อว่าจะทำให้เกิดความวุ่นวายถึงเลือดตกยากออกได้ไม่แตกต่างกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากนายกรัฐมนตรีคือ พลเอกประยุทธ์ หรือพลเอก ประวิตร จะเรียกแขกได้มากว่าคนอื่นๆ
ความวุ่นวายเหล่านี้หากขยายเป็นวงกว้างจนควบคุมไม่ได้ ก็จะเป็นการสร้างเงื่อนไขให้มีการทำรัฐประหารอีกครั้ง อย่างไรก็ดีรัฐธรรมนูญมาตรา 272 วรรคสองในบทเฉพาะกาลบัญญัติว่า
"ในระหว่างเวลาตามวรรคหนึ่ง หากมีกรณีที่ไม่อาจแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีจากผู้มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมืองแจ้งไว้ในตามมาตรา 88 ไม่ว่าด้วยเหตุใด และสมาชิกของทั้งสองสภารวมกันจำนวนไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภา เข้าชื่อเสนอต่อประธานรัฐสภา ขอให้สภายกเว้นเพื่อไม่ต้องเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีจากผู้มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมืองแจ้งไว้ตามมาตรา 88 ในกรณีเช่นนั้น ให้ประธานรัฐสภาจัดให้มีการประชุมร่วมกันของรัฐสภาโดยพลัน และในกรณีที่รัฐสภามีมติด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสองในสามของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภาให้ยกเว้นได้ ให้ดำเนินการตามวรรคหนึ่งต่อไป โดยจะเสนอชื่อผู้ที่อยู่ในบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมือง แจ้งไว้ตามมาตรา 88 หรือไม่ก็ได้"
โอกาสที่จะทำให้มีความวุ่นวายน้อยที่สุดหรือไม่มีเลย คือต้องสรรหาคนที่ไม่ใช่นักการเมืองอาชีพ ที่มีคุณสมบัติดีเลิศ ไม่มีประวัติด่างพร้อย เป็นคนเก่งคนดีที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในวงกว้าง และพรรคร่วมรัฐบาลไม่ว่าจะข้ามฝ่ายหรือไม่ก็ตามพร้อมใจกันทำตามมาตรา 272 วรรคสอง ซึ่งทำได้ทันที ไม่จำเป็นต้องรอให้เสนอผู้ที่อยู่ในบัญชีรายชื่อจนครบทุกคนเสียก่อน
นี่คือทางออกของประเทศที่น่าจะมีปัญหาน้อยที่สุด นี่เป็นโอกาสของพรรคการเมืองต่างๆที่พร่ำบอกว่าทำเพื่อประเทศชาติประชาชน จะแสดงให้เห็นว่าได้ทำเพื่อประเทศชาติประชาชนจริงๆ ไม่ได้เป็นเพียงลมปากเท่านั้น
กรุงรัตนโกสินทร์จะไม่สิ้นคนดี พระสยามเทวาธิราชมีความศักดิ์สิทธิ์จริง
-005
ผ่าทางตัน!'อดีตรองอธิการฯมธ.'ชี้ช่องมาตรา 272 วรรคสอง เปิดทาง'นายกฯคนนอก' - หนังสือพิมพ์แนวหน้า
Read More
No comments:
Post a Comment