Rechercher dans ce blog

Wednesday, June 30, 2021

“พปชร.” ผนึกพันธมิตร-ฝ่ายค้าน ผ่าทางตันบัตร 2 ใบ ชิงชัยเลือกตั้งครั้งหน้า - ประชาชาติธุรกิจ

เกมรัฐธรรมนูญเสี่ยงจะกลายเป็น deadlock อีกครั้งหรือไม่ เพราะรัฐสภากำลังกุมขมับกับการพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่เพิ่งผ่านวาระรับหลักการ วาระ 1

ภายหลังที่ประชุมรัฐสภาโหวตให้กับร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญของพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เพียงร่างเดียว จากทั้งหมด 13 ร่าง

เป็นร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 83, 91 (แก้ระบบเลือกตั้ง ส.ส. ใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ) เสนอโดย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ปชป.กับคณะ มีมติรับหลักการ 552 คะแนน เป็น ส.ส. 342 คะแนน วุฒิสมาชิก 210 คะแนน ไม่รับหลักการ 24 คะแนน งดออกเสียง 130 คะแนน

แม้เกือบทุกร่างจะได้เสียงเกินกึ่งหนึ่งของที่ประชุม แต่ตามมาตรา 256 ของรัฐธรรมนูญ 2560 กำหนดว่าจะต้องได้เสียงเห็นชอบจาก ส.ว.จำนวน 1 ใน 3 คือ 84 เสียง ที่เหลือ ส.ว.คว่ำเรียบ ไม่โหวตให้

หวยจึงมาลงเอยที่ร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญของพรรคประชาธิปัตย์ ที่แก้ระบบเลือกตั้งเพียง 2 มาตรา คือ มาตรา 83, 91 เท่านั้น

แต่ปัญหาก็คือ รัฐธรรมนูญ 2560 ที่เขียนโดย “เกจิ” มีชัย ฤชุพันธุ์ ได้สร้างกลไกรัฐธรรมนูญ ร้อยรัด เชื่อมโยงกันหลายมาตรา ครั้นจะแก้ไขเพียง 2 มาตราจึงมิอาจทำได้

อีกทั้งขั้นตอนการแปรญัตติ แก้ร่างกฎหมายในชั้นกรรมาธิการ (กมธ.) ของรัฐสภา ยังแก้เนื้อหาที่ขัดหลักการไม่ได้ ดังนั้น เมื่อร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญของพรรคประชาธิปัตย์ที่มีอยู่แค่ 2 มาตรา หากแก้เพียง 2 มาตราก็จะไปขัดกับมาตราอื่น ๆ จึงเป็นปัญหาว่าจะแก้ไขอย่างไรไม่ให้เกิด deadlock

เรื่องวุ่น ๆ นี้ขุนพลฝ่าย ส.ส.ที่ต้องการให้มีการเลือกตั้งบัตร 2 ใบ ต่างออกมาผ่าทางตัน ไม่ว่า เพื่อไทย พลังประชารัฐ หรือ ประชาธิปัตย์ ในฐานะเจ้าของร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ

โดยหยิบข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ข้อ 124 มาแก้วิกฤต ระบุว่า “การแปรญัตติเพิ่มมาตราขึ้นใหม่ หรือตัดทอน หรือแก้ไขมาตราเดิม ต้องไม่ขัดกับหลักการแห่งร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม เว้นแต่การแก้ไขเพิ่มเติมมาตราที่เกี่ยวเนื่องกับหลักการนั้น”

“ชินวรณ์ บุณยเกียรติ” ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐสภา ตีความว่า ข้อ 124 ระบุไว้ชัดเจนว่า สามารถแก้ไขเพิ่มเติมมาตราต่าง ๆ ที่มีความเกี่ยวเนื่องกับหลักการได้ เพราะฉะนั้น ประเด็นใดที่เกี่ยวเนื่องกับหลักการที่แก้ไข เราจะขอเสนอแปรญัตติ เพื่อให้เกิดความสมบูรณ์ที่สุด

สอดคล้องกับ “ชูศักดิ์ ศิรินิล” ประธานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทยให้ความเห็นว่า การแก้ไขเพิ่มเติมมาตราที่เกี่ยวเนื่องกับหลักการนั้น ซึ่งมีความหมายว่า

“แม้ไม่ได้เขียนไว้ในหลักการแต่หากมันเกี่ยวเนื่องกันกับหลักการก็แปรญัตติได้ ซึ่งระบบเลือกตั้งเขียนไว้เกี่ยวเนื่องกันตั้งแต่มาตรา 83 ถึงมาตรา 94 จึงเห็นว่าสามารถที่จะแปรญัตติเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวได้”

ดังนั้น “ไพบูลย์ นิติตะวัน” รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ หัวหอกแก้รัฐธรรมนูญฝ่ายรัฐบาล เตรียมใช้เงื่อนไขตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ข้อ 124 เข็นร่างแปรญัตติ แก้ไขเพิ่มเติมอีก 6 มาตรา ประกอบด้วย มาตรา 86, 90, 91, 92, 93, 94 บวกกับพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีอยู่แล้ว 2 มาตรา รวมกันเป็น 8 มาตรา ซึ่งร่างไว้เรียบร้อยแล้ว

แม้ว่าฝ่ายนัก “อ่านเกม” นอกสภา “สมชัย ศรีสุทธิยากร” อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง ปรามาสว่า ต่อให้เทวดามาแปรญัตติก็ถึงทางตันอยู่ดี

“ความไม่สมบูรณ์เนื่องจากมีการแก้ไขเพียง 2 มาตรา คือ มาตรา 83 และ 91 แต่หลักการที่ต้องแก้ยังต้องมีในมาตราอื่น ๆ อีกอย่างน้อย 5-6 มาตรา ตัวอย่างเช่น มาตรา 86 (1) และ (4) มีการระบุถึงจำนวน ส.ส.เขตเป็น 350 คน หรือมาตรา 93, 94 ยังคงระบุถึงวิธีได้มาของ ส.ส.บัญชีรายชื่อในรูปแบบบัตรใบเดียว”

“แปรอย่างไรก็ไม่ทำให้ร่างแก้ไขเกิดความสมบูรณ์ เพราะแก้แล้วยังขัดกับมาตราที่ไม่ได้แก้”

ความชุลมุนในเกมนี้จึงมาอยู่ที่มือชี้ขาด คือ ส.ว.อีกครั้ง มือเดินเกมในฝ่าย ส.ว.อย่าง “สมชาย แสวงการ” ไกด์แนวทางว่า การแก้ไขเพิ่มหลักการสามารถยื่นตามข้อบังคับรัฐสภา ข้อ 124 โดยสามารถแปรญัตติได้ตั้งแต่ขั้น กมธ. โดยที่ประชุม กมธ.ต้องถามเจ้าของร่างที่เสนอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ คือ พรรคประชาธิปัตย์ เช่น นายบัญญัติ บรรทัดฐาน หรือนายชินวรณ์

ถ้าเจ้าของร่างให้ความเห็นว่าจะต้องมีการแก้ไขเพิ่มเติมจากหลักการ เช่น จะแก้ไขเพิ่มขึ้นจาก 2 มาตราที่เสนอมา ก็ให้สมาชิกใน กมธ.เสนอแปรญัตติ แล้วให้ตัวแทนคณะกรรมการกฤษฎีกาไปยกร่างจนเสร็จ แล้วค่อยนำเข้าที่ประชุม กมธ. เมื่อ กมธ.มีมติเห็นชอบตามนี้ แล้วนำเข้าที่ประชุมรัฐสภาในวาระ 2

เพื่อขอความเห็นชอบว่าจะแก้ไขเพิ่มเติมเกินจากหลักการได้หรือไม่ เพราะมีมาตราที่เกี่ยวข้องเกินจากหลักการ เมื่อผู้เสนอร่างรายงานว่าไม่ขัดข้องที่จะให้แก้ไข กระบวนการก็ไปต่อได้

“แต่ถ้าทำไปแล้วมีการสะดุด ขัดกัน เช่น มาตราหนึ่งบอก ส.ส. 400 คน อีกมาตราให้มี ส.ส. 350 คน อย่างนี้จะเกิดเรื่อง”

“ในสมัยที่ผมเป็นเลขานุการวิปสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ผมก็เคยใช้วิธีนี้”

ด้าน “ไพบูลย์” แห่งพรรคพลังประชารัฐมั่นใจสอดคล้องกันว่า การใช้เงื่อนไขข้อบังคับ ข้อ 124 ไม่มีปัญหา ท่ามกลางข่าวว่า ส.ว.จะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ

“ไม่เชื่อว่าจะมี ส.ว.ไปยื่นศาลรัฐธรรมนูญ แต่ความเป็นไปได้เกิดจาก ส.ส.ที่ไม่ต้องการให้มีบัตรเลือกตั้ง 2 ใบมากกว่า”

“อย่างไรก็ตาม โดยข้อกฎหมายแล้วการแปรญัตติและการเพิ่มมาตราตามข้อบังคับ 124 ไม่ขัดรัฐธรรมนูญแน่”

Adblock test (Why?)


“พปชร.” ผนึกพันธมิตร-ฝ่ายค้าน ผ่าทางตันบัตร 2 ใบ ชิงชัยเลือกตั้งครั้งหน้า - ประชาชาติธุรกิจ
Read More

การรถไฟฯ ลุยทางคู่แลนด์บริดจ์ - กรุงเทพธุรกิจ

1 กรกฎาคม 2564

87

ร.ฟ.ท.ลุยจ้างที่ปรึกษา เริ่มสำรวจรถไฟทางคู่สายใหม่ ชุมพร - ท่าเรือน้ำลึกระนอง คาดใช้งบก่อสร้าง 3.5 หมื่นล้าน ตั้งเป้าชง ครม.ปี 2566 อนุมัติเปิดประมูล มั่นใจคุ้มค่าการลงทุน หนุนการท่องเที่ยว ขนส่งและการค้าเชื่อมแลนด์บริดจ์

รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงชุมพร – ท่าเรือน้ำลึกระนอง โดยระบุว่า ร.ฟ.ท.เตรียมเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) ในเดือน ก.ค.นี้ เพื่อว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษา MAA Consortium เพื่อเริ่มทบทวนงานสำรวจ ออกแบบรายละเอียด และจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการก่อสร้างทางรถไฟ ช่วงชุมพร-ท่าเรือน้ำลึกระนอง โดยจะนำผลการศึกษาของสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) ที่เคยศึกษาไว้ในปี 2561 มาทบทวนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน

“การรถไฟฯ จะนำผลการศึกษาเดิมที่มีอยู่ มาทบทวนใหม่ให้สอดคล้องกับโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้เพื่อเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน (Land Bridge) ที่ต้องการให้มีการเชื่อมต่อการเดินทางกับท่าเรือ 2 ฝั่งทะเล อ่าวไทย-อันดามัน บูรณาการให้สอดคล้องกับโครงการมอเตอร์เวย์ ตามแผน MR – MAP ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม”

อย่างไรก็ดี ร.ฟ.ท.ประเมินว่าการทบทวนผลการศึกษาครั้งนี้จะใช้เวลาราว 1 ปีแล้วเสร็จ ก่อนนำเสนอรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ได้ในช่วงปลายปี 2565 จากนั้นจึงจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติโครงการในปี 2566 ตั้งเป้าเปิดประมูลปลายปี 2567 ใช้เวลาก่อสร้าง 4 ปี และเปิดให้บริการในปี 2573

สำหรับโครงการทางรถไฟ ช่วงชุมพร-ท่าเรือน้ำลึกระนอง เบื้องต้นจะมีการปรับแก้ไขแนวเส้นทางบางส่วน เนื่องจากแนวเส้นทางเดิมตามผลการศึกษาของ สนข.ไม่เหมาะสมกับการใช้เป็นแนวเส้นทางที่จะพัฒนาควบคู่ไปกับทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) ตามแผน MR-MAP เนื่องจากแนวเส้นทางอยู่ใกล้และเกือบขนานกับทางหลวงหมายเลข 4 ซึ่งเป็นทางหลวงสายหลัก

อีกทั้งเส้นทางรถไฟจากผลการศึกษาเดิมยังไม่ตอบสนองการเชื่อมโยงกับท่าเรือน้ำลึกตามการศึกษาโครงการแลนด์บริดจ์ที่ต้องการสร้างโครงข่ายคมนาคมเชื่อมโยงการเดินทางของคน และสินค้าเข้าสู่สถานีรถไฟระนอง ต่อไปยังถนนเชื่อมโยงไปยังท่าเรือน้ำลึกชุมพร ด่านศุลกากร โครงข่ายมอเตอร์เวย์ สายชุมพร-ระนอง ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต รวมไปถึงท่าอากาศยานระนอง และชุมพร

รายงานข่าวยังระบุด้วยว่า แนวเส้นทางรถไฟทางคู่ที่จะศึกษาใหม่นี้ มีการขยับจุดเริ่มต้นโครงการลงไปทางด้านทิศใต้มากขึ้น โดยเริ่มต้นที่ชายฝั่งอ่าวไทยบริเวณแหลมริ่ว จังหวัดชุมพร จากแนวเดิมที่จะเริ่มต้นด้านใต้ของสถานีรถไฟชุมพร ซึงมีจุดสิ้นสุดโครงการที่ชายฝั่งทะเลอันดามันบริเวณอ่าวอ่าง ตำบลราชกรูด จังหวัดระนอง โดยเส้นทางใหม่จะเป็นแนวเส้นแนวตรงมากขึ้น ช่วยลดค่าก่อสร้างและผลกระทบสิ่งแวดล้อม อีกทั้งจะหลีกเลี่ยงการเวนคืนที่ดินชุมชน มีความยาวตลอดแนวเส้นทางราว 91 กิโลเมตร คาดว่าจะใช้งบลงทุนราว 3.5 หมื่นล้านบาท

อย่างไรก็ดี โครงการทางรถไฟ ช่วงชุมพร-ท่าเรือน้ำลึกระนอง คาดว่าจะเพิ่มศักยภาพด้านการคมนาคมขนส่ง 3 ส่วน คือ 1.เป็นทางลัดของเส้นทางเดินเรือหลักเชื่อมระหว่างมหาสมุทรอินเดียและแปซิฟิก เป็นทางเลือกในการถ่ายลำการขนส่งสินค้าในภูมิภาค และสะพานเศรษฐกิจพลังงาน 2.เป็นเส้นทางสำหรับสินค้านำเข้าและส่งออกระหว่างของไทยกับประเทศทางฝั่งมหาสมุทรอินเดีย และ 3.เป็นเส้นทางสำหรับสินค้าที่มาจากทางจีนตอนใต้ รวมถึงการพัฒนาพื้นที่หลังท่าโดยเฉพาะในเรื่องการประกอบชิ้นส่วน

ทั้งนี้ จุดเริ่มต้นโครงการตามแนวเส้นทางใหม่จะเริ่มที่ชายฝั่งอ่าวไทยบริเวณแหลมริ่ว ตำบลบางน้ำจืด อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร ตัดผ่านไปทางตะวันตก ผ่านทางรถไฟสายใต้บริเวณทิศเหนือของสถานีควนหินมุ้ย จากนั้นมุ่งไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ผ่าน ทล. 4097 และตัดผ่านทล. 41 (สายแยกปฐมพร – พัทลุง) และขนานไปกับแนวทล. 4006 (สายราชกรูด – หลังสวน) ผ่านพื้นที่ภูเขา แล้วตัดกับ ทล. 4006

จากนั้นมุ่งลงไปทางทิศใต้ ขนานกับ ทล. 4 (ถนนเพชรเกษม) โดยอยู่ทางด้านทิศตะวันออกของ ทล.4 ผ่านด้านหลังของวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีระนอง จากนั้นแนวเส้นทางโค้งขวามุ่งไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ผ่านพื้นที่ป่าชายเลนไปสิ้นสุดที่ชายฝั่งทะเลอันดามันที่บริเวณอ่าวอ่าง ต.ราชกรูด อ.เมือง จ.ระนอง

โดยแนวเส้นทางโครงการ ผ่านพื้นที่ทั้งหมด 9 ตำบล 3 อำเภอ ของ 2 จังหวัด ได้แก่ ตำบลบางน้ำจืด ตำบลนาขา ตำบลวังตะกอ และตำบลหาดยาย ของอำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร รวมไปถึงตำบลปังหวาน ตำบลพระรักษ์ ตำบลพะโต๊ะ และตำบลปากทรง ของอำเภอพะโต๊ะ จังหวัดชุมพร และตำบลราชกรูด อำเภอเมือง จังหวัดระนอง

Adblock test (Why?)


การรถไฟฯ ลุยทางคู่แลนด์บริดจ์ - กรุงเทพธุรกิจ
Read More

กรมการขนส่งทางบก เปิดรับสมัครพนักงานราชการเฉพาะกิจ 406 อัตราทั่วประเทศ - ไทยรัฐ

30 มิ.ย. 2564 14:40 น.

ตกงานเชิญทางนี้ "กรมการขนส่งทางบก" สนองนโยบายรัฐช่วยคนตกงานหลังโดนพิษ "โควิด-19" ประกาศเปิดรับสมัครพนักงานราชการเฉพาะกิจ ตำแหน่งนักวิชาการขนส่ง จำนวน 406 อัตราทั่วประเทศ

นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติ เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 2564 ที่ผ่านมา เห็นชอบข้อเสนอแนวทางการจัดสรรกรอบอัตรากำลังและกลไกการบริหารจัดการพนักงานราชการเฉพาะกิจ จำนวน 10,000 อัตรา เพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด ให้มีงานทำและกระจายการจ้างงานลงสู่ระดับพื้นที่

ข่าวแนะนำ

ทั้งนี้ ในส่วนของกรมการขนส่งทางบกได้รับการจัดสรรอัตราพนักงานราชการเฉพาะกิจ จำนวน 406 อัตรา บรรจุในตำแหน่งนักวิชาการขนส่งทั่วประเทศ เพื่อปฏิบัติภารกิจที่มีความสำคัญเร่งด่วน และสนับสนุนให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับบริการที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

สำหรับการสรรหาและเลือกสรรพนักงานราชการเฉพาะกิจจำนวน 406 อัตรา ได้มอบอำนาจให้สำนักงานขนส่งจังหวัดทุกจังหวัดดำเนินการได้ทันที และให้งดการเก็บค่าธรรมเนียมการสมัครสอบ เพื่อเป็นการสนองนโยบายรัฐบาลในการช่วยเหลือประชาชน และดำเนินการด้วยความรวดเร็ว โดยกำหนดกรอบระยะเวลาให้ดำเนินการสรรหาและเลือกสรรพนักงานราชการเฉพาะกิจให้แล้วเสร็จภายในเดือนก.ค. 2564 และดำเนินการการจ้างให้แล้วเสร็จภายในเดือน ส.ค. 2564

อย่างไรก็ตาม โดยมีเงื่อนไขการทำสัญญาจ้างพนักงานราชการเฉพาะกิจไม่เกิน 1 ปี นับตั้งแต่วันที่ทำสัญญาจ้าง และได้รับค่าตอบแทน 18,000 บาทต่อเดือน สิ้นสุดสัญญาจ้างงานไม่เกินวันที่ 30 ก.ย. 2565 และจะไม่มีการต่อสัญญาจ้าง ขณะนี้สำนักงานขนส่งจังหวัดบางจังหวัดได้เริ่มประกาศเปิดรับสมัครแล้ว ดังนั้น ผู้ที่สนใจสมัครสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานขนส่งจังหวัดทุกจังหวัด ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป.

อ่านเพิ่มเติม...

Adblock test (Why?)


กรมการขนส่งทางบก เปิดรับสมัครพนักงานราชการเฉพาะกิจ 406 อัตราทั่วประเทศ - ไทยรัฐ
Read More

“ธนกร” โต้ ”พิชัย” พิการทางจิตใจ เอาโควิด เล่นการเมือง บนความทุกข์ประชาชน - ไทยรัฐ

30 มิ.ย. 2564 17:03 น.

“ธนกร” ย้อน ”พิชัย” พิการทางจิตใจ เล่นการเมืองบนความทุกข์ประชาชน แจง รัฐบาลไม่ล้มเหลว ทั้งการเร่งฉีดวัคซีนและมาตรการเยียวยาฟื้นฟูประเทศ เหน็บ อย่าเอาใจคนแดนไกล จนไร้เหตุผล


วันที่ 30 มิ.ย. นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นผู้นำพิการทางความคิด ล้มเหลวทุกด้านว่า สำหรับตนแล้วคนที่พิการทางความคิดเป็นนายพิชัย ไม่ใช่ท่านนายกฯ และยังพิการทางด้านจิตใจด้วย เพราะวันๆ จิตใจคิดแต่เรื่องลบ ไม่รู้กาลเทศะ เล่นการเมืองบนชีวิตของประชาชน การแก้ปัญหาโควิด-19 ไม่ได้ล้มเหลวทุกอย่างเดินหน้าตามยุทธศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นการเร่งฉีดวัคซีนให้กับพี่น้องประชาชน หรือการออกมาตรการเยียวยาและฟื้นฟูประเทศ ทั้งโครงการคนละครึ่ง เพิ่มกำลังซื้อในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ ฯลฯ แม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดจะเกิดขึ้นในบางพื้นที่ แต่พล.อ.ประยุทธ์ก็เร่งแก้ปัญหาในทันที เช่นเดียวกับการประกาศปิดแคมป์ก่อสร้าง ร้านอาหารเครื่องดื่มในพื้นที่ 6 จังหวัด และมีการออกมาตราการช่วยเหลือตามมา ใช้งบประมาณ 8,500 ล้านบาท


นายธนกร กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่นายพิชัยตั้งคำถามนั้น รัฐบาลก็ชี้แจงได้ทุกข้อ เช่น กรณีการเยียวยาในโครงการ “ยิ่งใช้ยิ่งได้” ที่คนเข้าร่วมโครงการน้อยมาก แค่ 4 แสนคน จากยอดโครงการ 4 ล้านราย แม้กระทั่งโครงการ “คนละครึ่ง” ที่ในอดีตแย่งกันลงทะเบียน แต่ปัจจุบันกลับมีเหลือเป็นล้านราย แต่ทำไมถึงยังดำเนินโครงการต่อนั้น รัฐบาลออกแบบมาตรการเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ให้ครอบคลุมและรองรับประชาชนทุกกลุ่มของประเทศให้มากถึง 51 ล้านคน อย่างไรก็ตาม ประชาชนสามารถเลือกได้ว่าจะใช้สิทธิโครงการใดตามความเหมาะสมและความจำเป็นของตนเอง โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 เปิดให้ประชาชนผู้สนใจเข้าร่วมโครงการถึง 31 ล้านคน โดยมีผู้ได้สิทธิแล้วกว่า 28 ล้านคน มากกว่าโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 1 และ 2 โดยคาดว่าเมื่อเริ่มเปิดให้ใช้จ่ายในวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 จะยังมีประชาชนสนใจเข้ามาลงทะเบียนอีกอย่างต่อเนื่อง สำหรับโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของผู้มีกำลังซื้อ ซึ่งมุ่งเน้นกลุ่มที่ยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประมาณ 4 ล้านคน อีกทั้งขณะนี้ร้านค้าได้ทยอยลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ ดังนั้น เมื่อเริ่มเปิดให้ใช้จ่ายในวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 คาดว่าจะมีประชาชนที่สนใจเข้ามาลงทะเบียนอีกเช่นกัน


นายธนกร กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่ นายพิชัยสอบถามการปล่อยกู้ดอกเบี้ย 0% ตามที่ได้ประกาศว่า ได้มีการดำเนินการไปถึงไหนแล้ว มีธุรกิจใดได้แล้วบ้าง จะมีการกระจายให้ทั่วถึงได้อย่างไรนั้น กระทรวงการคลังได้มอบหมายให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจขยายมาตรการพักชำระหนี้ และมาตรการสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องให้แก่ประชาชน และผู้ประกอบการ SMEs จนถึงสิ้นปี 2564 ทั้งนี้ ไม่เคยมีการประกาศเรื่องการปล่อยกู้ดอกเบี้ย 0% แต่อย่างใด โดย เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2564 ธนาคารออมสิน ได้ออกมาตรการยกเว้นการชำระเงินต้นและดอกเบี้ย ทำให้เงินงวดเป็นศูนย์ เป็นระยะเวลา 6 เดือน (ก.ค. - ธ.ค. 2564) สำหรับผู้ประกอบการ SMEs ธุรกิจโรงแรม รีสอร์ต เกสต์เฮาส์ และเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ ที่มีวงเงินสินเชื่อรวมไม่เกิน 250 ล้านบาท และหนี้ค้างชำระไม่เกิน 90 วัน และธนาคารออมสินมี 2 มาตรการสนับสนุนสินเชื่อเสริมสภาพคล่อง คือ 1. มาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน วงเงินกู้สูงสุด 5 แสนบาท และ 2. มาตรการสินเชื่อ มีที่ มีเงินสำหรับธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ใช้ที่ดินเป็นหลักประกัน อัตราดอกเบี้ย ปีแรก 0.1%

ส่วนที่นายพิชัย ระบุว่า ถ้าเปิดประเทศไม่ได้ เศรษฐกิจไทยจะทรุดต่อไปอีกนาน พล.อ.ประยุทธ์ มีแผนงานจะทำอย่างไรต่อไปเพื่อบรรเทาปัญหาเศรษฐกิจนั้น การดำเนินมาตรการทางเศรษฐกิจในระยะต่อไป จะให้ความสำคัญทั้งในด้านสาธารณสุขและด้านเศรษฐกิจไปพร้อมๆ กัน และจะติดตามการระบาดและสถานการณ์ทางเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด รวมถึงมีแนวทางในการดูแลด้านสาธารณสุขให้ควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็ว เพื่อมิให้ส่งผลกระทบต่อกิจการและกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากนัก โดยมุ่งเน้นที่การจัดหาวัคซีนโควิดให้มีใช้อย่างเพียงพอทั้งปริมาณและคุณภาพรวมตลอดจนการกระจายวัคซีนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่โดยเร็ว หากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 มีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น การดำเนินมาตรการช่วยเหลือและเยียวยาจะเป็นทางเลือกแรกที่จำเป็นต้องเร่งดำเนินการให้ทันต่อสถานการณ์เพื่อประคองการดำรงชีพให้แก่ประชาชน ตลอดจนพยุงการบริโภคไม่ให้ระบบเศรษฐกิจภายในประเทศหยุดชะงัก

อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์เริ่มมีความคลี่คลาย รวมถึงประชาชนได้รับการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้นรัฐบาลจะเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นการกระตุ้นการบริโภคและกิจกรรมทางเศรษฐกิจภายในประเทศให้กลับมาฟื้นตัวและเป็นแรงขับเคลื่อนหลัก ทดแทนภาคส่งออกและภาคการท่องเที่ยวจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ลดลง ประกอบกับการฟื้นฟูภาคการผลิต ส่งเสริม และสนับสนุนให้กับภาคธุรกิจภายในประเทศให้กลับมาฟื้นตัวได้โดยเร็ว ตลอดจนสร้างแรงจูงใจให้กับภาคการผลิตในการพัฒนาสินค้าและบริการที่สอดรับกับความต้องการของตลาดมากยิ่งขึ้น โดยรัฐบาลจะพิจารณการดำเนินมาตรการต่างๆ อย่างเหมาะสมภายใต้ความเสี่ยงต่างๆ เพื่อให้มั่นใจว่า เศรษฐกิจของประเทศจะสามารถฟื้นตัวเข้าสู่สภาวะปกติได้โดยเร็ว และสอดคล้องกับการฟื้นตัวของสภาวะเศรษฐกิจโลกในระยะยาว


"รัฐบาลจะปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ มุ่งเน้นการลงทุนเพื่อปรับโครงสร้างสู่เศรษฐกิจดิจิทัล รวมถึงการวิจัยและพัฒนาเพื่อให้เกิดนวัตกรรม และการให้ความสำคัญกับการพัฒนาพลังงานสะอาด และการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตลอดจนการมุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชากร ลดความเหสื่อมล้ำ และยกระดับทักษะแรงงาน ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางที่ประเทศไทยได้ตั้งเป้าหมายไว้ ได้แก่ การมุ่งไปสู่เศรษฐกิจฐานนวัตกรรมและองค์ความรู้ วิถีชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โอกาสสำหรับทุกกลุ่มคนและทุกพื้นที่และกำลังคนภาครัฐที่มีสมรรถนะสูง หวังว่านายพิชัยจะเข้าใจ อย่าเอาใจคนแดนไกลจนไร้เหตุผล" นายธนกร กล่าว.

อ่านเพิ่มเติม...

Adblock test (Why?)


“ธนกร” โต้ ”พิชัย” พิการทางจิตใจ เอาโควิด เล่นการเมือง บนความทุกข์ประชาชน - ไทยรัฐ
Read More

กรมขนส่งทางบก รับสมัครงาน 406 อัตรา เงินเดือน 18,000 บาท - ประชาชาติธุรกิจ

กรมการขนส่งทางบก

กรมการขนส่งทางบก ขานรับนโยบายรัฐ เปิดรับสมัครงาน “พนักงานราชการเฉพาะกิจ” 406 อัตราทั่วประเทศ สัญญาจ้างไม่เกิน 1 ปี เงินเดือน 18,000 ต่อเดือน

วันที่ 30 มิถุนายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา เห็นชอบข้อเสนอแนวทางการจัดสรรกรอบอัตรากำลังและกลไกการบริหารจัดการพนักงานราชการเฉพาะกิจ จำนวน 10,000 อัตรา เพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ให้มีงานทำและกระจายการจ้างงานลงสู่ระดับพื้นที่ โดยกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรี

ในส่วนของกรมการขนส่งทางบกได้รับการจัดสรรอัตราพนักงานราชการเฉพาะกิจ จำนวน 406 อัตรา บรรจุในตำแหน่งนักวิชาการขนส่ง เพื่อปฏิบัติภารกิจที่มีความสำคัญเร่งด่วนและสนับสนุนให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับบริการที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ซึ่งได้จัดสรรอัตราพนักงานราชการเฉพาะกิจให้สำนักงานขนส่งจังหวัดทั้ง 76 จังหวัด เพื่อให้เกิดการจ้างงานในระดับพื้นที่ แบ่งเป็น

  • จังหวัดที่มีขนาดใหญ่ จำนวน 26 จังหวัด ได้รับจัดสรรจังหวัดละ 6 อัตรา รวม 156 อัตรา
  • จังหวัดที่มีขนาดกลางและขนาดเล็ก ได้รับการจัดสรรจังหวัดละ 5 อัตรา รวม 250 อัตรา

อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า การสรรหาและเลือกสรรพนักงานราชการเฉพาะกิจจำนวน 406 อัตรา ได้มอบอำนาจให้สำนักงานขนส่งจังหวัดทุกจังหวัดดำเนินการได้ทันที และให้งดการเก็บค่าธรรมเนียมการสมัครสอบ เพื่อเป็นการสนองนโยบายรัฐบาลในการช่วยเหลือประชาชน และดำเนินการด้วยความรวดเร็ว

ทั้งนี้ กำหนดกรอบระยะเวลาให้ดำเนินการสรรหาและเลือกสรรพนักงานราชการเฉพาะกิจให้แล้วเสร็จภายในเดือนกรกฎาคม 2564 และดำเนินการการจ้างให้แล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคม 2564 โดยมีเงื่อนไขการทำสัญญาจ้างพนักงานราชการเฉพาะกิจไม่เกิน 1 ปี นับตั้งแต่วันที่ทำสัญญาจ้าง และได้รับค่าตอบแทน 18,000 บาทต่อเดือน สิ้นสุดสัญญาจ้างงานไม่เกินวันที่ 30 กันยายน 2565 และจะไม่มีการต่อสัญญาจ้าง

ขณะนี้สำนักงานขนส่งจังหวัดบางจังหวัดได้เริ่มประกาศเปิดรับสมัครแล้ว ดังนั้น ผู้ที่สนใจสมัครสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานขนส่งจังหวัดทุกจังหวัดทุกจังหวัด ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

กรมการขนส่งทางบก

Adblock test (Why?)


กรมขนส่งทางบก รับสมัครงาน 406 อัตรา เงินเดือน 18,000 บาท - ประชาชาติธุรกิจ
Read More

'Plant-based' อาหารทางเลือก โอกาสบนความยั่งยืน สู่เป้า 'Net Zero' - กรุงเทพธุรกิจ

30 มิถุนายน 2564

195

ผลิตภัณฑ์อาหารจากพืช” หรือ “Plant-based Food” อาหารในกลุ่มโปรตีนทางเลือกที่ใช้วัตถุดิบจากพืชที่ให้โปรตีนสูง กลายเป็นทางเลือกให้แก่ผู้บริโภคที่ต้องการลดบริโภคเนื้อสัตว์ รวมถึงมีส่วนช่วยในการลดคาร์บอนฯ

ข้อมูลจากกรีนพีซ ประเทศไทย ระบุว่า การผลิตเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์นมเชิงอุตสาหกรรมทั่วโลกที่ขยายตัว เป็นหนึ่งในตัวการทำให้โลกสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ มีการเปลี่ยนพื้นที่เพาะปลูกและเลี้ยงสัตว์ในเชิงกสิกรรมเป็นเชิงอุตสาหกรรม ส่งผลให้เกิดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกถึง 1 ใน 4 ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต้นเหตุการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทั้งหมด

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate change) กลายเป็นเรื่องที่ทั่วโลกให้ความสำคัญ สหประชาชาติ ได้กำหนด เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ Sustainable Development Goals (SDGs) ทั้งหมด 17 ข้อ มุ่งหวังจะช่วยแก้ปัญหาที่โลกกำลังเผชิญอยู่รวมไปถึงด้านสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ ในอุตสาหกรรมอาหาร ซึ่งปล่อยคาร์บอนฯ กว่า 30-40% ของปริมาณคาร์บอนทั้งหมด นำมาซึ่งความพยายามลดผลกระทบจากอุตสาหกรรม ตั้งเป้าสู่ “Net Zero” ลดการปล่อยมลพิษ ผลักดันให้คาร์บอนเป็นศูนย์ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ส่วนประกอบพืชแทนเนื้อสัตว์ อาหารออแกนิค หรือแพจเกจจิ้งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

162487954671

“ผลิตภัณฑ์อาหารจากพืช” หรือ Plant-based Food อาหารในกลุ่มโปรตีนทางเลือกที่ใช้วัตถุดิบจากพืชที่ให้โปรตีนสูง กลายเป็นทางเลือกให้แก่ผู้บริโภคที่ต้องการลดบริโภคเนื้อสัตว์ รวมถึงมีส่วนช่วยในการลดคาร์บอนฯ แม้ปัจจุบันความนิยม Plant-based Food ในไทยจะยังไม่สูงเท่าสหรัฐอเมริกาที่เป็นตลาด Plant-based Food ที่ใหญ่ที่สุด แต่ ศูนย์วิจัยกรุงไทย ธนาคารกรุงไทย มองว่า ธุรกิจ Plant-based Food ในไทยมีโอกาสสร้างกำไรดีขึ้นจากเดิม 2-10% ไปสู่ระดับ 10-35% และคาดว่ามูลค่าตลาดอาจแตะระดับ 4.5 หมื่นล้านบาท ในปี 2567 หรือเติบโตเฉลี่ยปีละ 10%

กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารในกลุ่ม Plant-based Food ที่มีโอกาสเติบโตในไทย คือ ผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์จากพืช (Plant-based Meat) อาหารปรุงสำเร็จจากพืช (Plant-based Meal) และไข่จากพืช (Plant-based Egg) นอกจากนี้ เม็ดเงินลงทุนของ Startup ในต่างประเทศ กลุ่ม Bio-engineered Food เติบโตอย่างก้าวกระโดดถึงกว่า 3 พันล้านดอลลาร์ฯ ในปี 2563

162487956894

บริษัท เอ็น อาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ NRF ในฐานะเป็นผู้ผลิต จัดหา และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปรุงรสอาหาร อาหารสำเร็จรูป อาหารมังสวิรัติที่ไม่มีส่วนผสมของไข่และนม อาหารโปรตีนจากพืช รวมถึงผลิตภัณฑ์สินค้าอุปโภคที่ไม่ใช่อาหารในบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม (V-shape) นับเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีเป้าหมายการเป็นผู้นำระดับโลกในการเป็นผู้ผลิตอาหารแห่งอนาคต “Food For Future”

162487949255

แดน ปฐมวาณิชย์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NRF

แดน ปฐมวาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NRF กล่าวว่า NRF เป็นบริษัทที่พยายามต่อสู้กับโลกร้อน ด้วยการผลิตอาหารที่ยั่งยืน มุ่งมั่นให้ผู้บริโภคได้บริโภคอาหารคาร์บอนต่ำ (Low Carbon) ภายใต้กลยุทธ์เดินหน้าสร้างโรงงานในแต่ละทวีปทั่วโลก เพื่อผลิตอาหารที่คาร์บอนต่ำ เป้าหมายที่สำคัญที่สุด คือ การเป็นผู้ผลิตโปรตีนทางเลือกที่เป็นเบอร์หนึ่งของโลก 

ผู้เชี่ยวชาญ จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด มองว่า SDGs เป็นโอกาสเชิงพาณิชย์ที่มีมูลค่า 12 ล้านล้านดอลลาร์ ในระบบเศรษฐกิจ 4 ระบบ ได้แก่ อาหารและการเกษตร เมือง พลังงานและวัสดุ สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี อันเป็นผลมาจากโอกาสใหม่ ๆ และประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น ซึ่งอุตสาหกรรมอาหารมีโอกาสเป็น 1 ใน 4 ดังนั้น โอกาสมีหลากหลายตั้งแต่วัตถุดิบ เทคโนโลยี การบริโภค

ที่ผ่านมา NRF มีการลงทุนในเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับนวัตกรรมผลิตภัณฑ์อาหาร (The Next Evolution of Food) การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต วัตถุดิบและส่วนประกอบของอาหาร (Processing, Productivity, Raw Material, Ingredients) เพื่อผลิตอาหารที่มีคุณภาพ และสามารถเติบโตอย่างยั่งยืน มีรสชาติถูกปาก สร้างความสุข และส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ให้กับผู้บริโภคทั่วโลก มุ่งเน้นการพัฒนาอย่างยั่งยืนตามแนวทางของสหประชาชาติ (United Nations) ขับเคลื่อนสู่สังคมสีเขียว โดยได้ริเริ่มโครงการ คาร์บอนฟุตพริ้นท์ เมื่อเดือนตุลาคม 2562 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ แผนการดำเนินงานของ NRF เพื่อเดินหน้าถึงเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก “แดน” กล่าวว่า
แผนระยะสั้น คือ ต้องเป็นบริษัทที่เป็นตัวอย่าง ปัจจุบัน
NRF เป็นโรงงานผลิตอาหารภาคเอกชนรายแรกในประเทศไทย
ที่ได้รับประกาศนียบัตรรับรอง “องค์กรปราศจากคาร์บอน” (
Carbon Neutral) สองปีซ้อน พร้อมทำความร่วมมือกับบริษัทพันธมิตร ในการติดตั้งโซล่าร์เซลล์ ลดการปล่อยคาร์บอนในโรงงาน นอกจากนี้ ยังมีนโยบายการใช้เคมีภัณฑ์ในวัตถุดิบให้น้อยลง ลดการทำร้ายดิน อีกหนึ่งเป้าหมาย คือ ทำอย่างไรให้เกษตรกรลดการใช้เคมีเพื่อช่วยปรับหน้าดิน เพราะดินมีส่วนสำคัญในการดูดคาร์บอน    

แผนระยะปานกลาง คือ การปลูกป่า เนื่องจากรัฐบาลมีนโยบายเพิ่มพื้นที่สีเขียว จากการพูดคุยกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พบว่าไทยมีพื้นที่ 26 ล้านไร่ที่สามารถปลูกป่าได้ แต่ต้องใช้งบประมาณกว่า 2 แสนล้านบาท ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องยากในสถานการณ์โควิด-19 ดังนั้น ภาคเอกชน สามารถมีส่วนร่วมได้ แนวทาง คือ ปัจจุบันมีการจ่ายปันผลทุกปีสำหรับบริษัทมหาชน หากเพิ่มปันผลที่จ่ายออกไป 3% และเอาเงินตรงนั้นย้อนกลับมาปลูกป่า จะสามารถปลูกป่า 26 ล้านไร่ ได้ภายในปี 2593 เป้าหมาย คือ ทำอย่างไรให้ปั้นโครงการนี้ขึ้นมาให้ได้โดยเริ่มจาก NRF

“เป้าหมายปานกลาง - ระยะยาว ยังมาจากธุรกิจของ NRF เอง คือ โปรตีนทางเลือก ตอนนี้บริษัทฯ กำลังสร้างโรงงานในภูมิภาคทั่วโลก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ยุโรป ไทย จีน อเมริกาใต้ อินเดีย ภายใน 10 ปีข้างหน้า ภายใต้งบ 5,000 – 7,000 ล้านบาทตั้งเป้าหมายกำลังการผลิต Plant based food ใน 3 ปีแรก อยู่ที่ประมาณ 1 แสนตัน หากคำนวณตัวเลขใช้แฮมเบอร์เกอร์เป็นตัวอย่าง การเลือกทานแฮมเบอร์เกอร์จาก Plant based ลดคาร์บอนได้ถึง 3.3 กิโลคาร์บอน ดังนั้น
การผลิตและบริโภค
Plant based แทนเนื้อสัตว์ 1 แสนตัน จะลดคาร์บอนได้ 3.3 แสนตันคาร์บอนต่อปี

NRF ยังขับเคลื่อนเรื่องนี้ร่วมกับเครือข่ายต่างๆ  โดยเข้าร่วมเป็นสมาชิก สภาเศรษฐกิจโลก (World Economic Forum) อยู่ระหว่างทำโครงการเป้าหมายให้ไทยเป็นหนึ่งในฐานการผลิตโปรตีนทางเลือกของโลก พร้อมจัดตั้ง “Root the Future องค์กรไม่แสวงหากำไร 100% ประชาสัมพันธ์ให้ผู้บริโภคเปลี่ยนจากการบริโภคเนื้อสัตว์ หันมาทาน Plant-based food และทำอย่างไรให้ตระหนักในสภาวะโลกร้อน ผ่านมา 1 ปี ในวันนี้มีผู้ติดตามกว่า 3 หมื่นคน คอนเทนต์เข้าถึงประชาชน 4.4 ล้านคนต่อสัปดาห์ พร้อมกับ สนับสนุนมูลนิธิ , NGO ทั่วโลก และ Forum for The Future ในการศึกษาผลกระทบของระบบอาหาร รวมถึงในมุมของนักลงทุนที่จะเลือกลงทุนในบริษัท โดยคำนึงถึงเรื่องของคาร์บอนฟุตพริ้นท์

นอกจากนี้ ยังเข้าร่วมเป็นสมาชิกของสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย (GCNT : Global Compact Network Thailand) เครือข่ายความยั่งยืนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย  ซึ่งเป็นเครือข่ายท้องถิ่นของ UN global compact ที่มีสมาชิกทั่วโลก 13,331 องค์กร จาก 165 ประเทศทั่วโลก ซึ่งมีเป้าหมาย วิธีคิด เดียวกัน ถือเป็นส่วนสำคัญในการสร้างกรอบการทำงาน คิดกลยุทธ์ เพื่อไปสู่เป้าหมายร่วมกัน คือเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs)

“แดน” กล่าวเพิ่มเติมว่า ความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คือ การตระหนักและการกระตือรือร้นในการลงมือทำอย่างจริงจัง เพราะธรรมชาติของมนุษย์ ต้องรอให้ปัญหาเกิดก่อนถึงจะแก้ ดังนั้น จะทำอย่างไรให้สร้างการรับรู้ได้เร็ว รวมถึง
ผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เช่น ผู้จำหน่ายสารเคมี  สิ่งเหล่านี้เป็นอุปสรรคสำคัญของการเปลี่ยนแปลง

“การที่เราจะเปลี่ยนโลกนั้นยาก ดังนั้น อีกหนึ่งกุญแจสำคัญ คือ นักลงทุนสถาบัน กองทุนจะต้องเปลี่ยน ตอนนี้
นักลงทุนอาจจะคิดเรื่องผลตอบแทนอย่างเดียวไม่ได้ แต่ต้องคิดในเรื่องของผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วย”

“เราสามารถทำธุรกิจได้ และรู้สึกภูมิใจว่าไม่ได้แสวงหาผลกำไรเพียงอย่างเดียว แต่มีส่วนในการช่วยสังคม สิ่งที่คาดหวัง คือ เป็นหนึ่งในผู้มีบทบาทเปลี่ยนความคิดของคนในเรื่องสิ่งแวดล้อม เป้าหมาย คือ
ทำอย่างไร ให้ช่วยลดคาร์บอนของโลก คาดหวังว่าสักวัน
NRF จะเป็น The first carbon negative company ในประเทศไทย”แดน กล่าวทิ้งท้าย

Adblock test (Why?)


'Plant-based' อาหารทางเลือก โอกาสบนความยั่งยืน สู่เป้า 'Net Zero' - กรุงเทพธุรกิจ
Read More

Tuesday, June 29, 2021

นักวิจัยไขข้อสงสัย!! COVID-19 ไม่ติดต่อทางอาหาร - ประชาชาติธุรกิจ

การแกะรอยต้นกำเนิดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจน และยังมีข้อถกเถียงในกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ว่า เชื้อโควิด-19 อาจจะกระจายจากค้างคาวมาที่สัตว์ตัวกลางซึ่งยังไม่ทราบแน่ชัดว่าคือสัตว์ประเภทใด หรืออาจจะเป็นสัตว์ที่อยู่ในตลาดอู่ฮั่นประเทศจีนที่เริ่มระบาดในช่วงแรก ซึ่งยังต้องสืบค้นกันต่อไปแต่ข้อมูลที่เชื่อกันว่าไวรัสนี้มาจากค้างคาวค่อนข้างชัดเจน

เชื้อโควิด-19 ก่อให้เกิดอาการป่วยระบบทางเดินหายใจในคน โดยติดต่อผ่านระบบทางเดินหายใจและแพร่เชื้อจากคนสู่คน ซึ่งการติดเชื้อวิธีนี้จะไม่มีผลต่อระบบทางเดินอาหารมากนัก แต่มีบางกรณีที่ไวรัสเข้าสู่ร่างกายและกระจายจากตำแหน่งทางเดินหายใจไปสู่ระบบทางเดินอาหาร โดยไวรัสมีการนำส่งจากปอดไปที่ลำไส้ผ่านทางกระแสเลือด ซึ่งไม่ได้เกิดจากการรับประทานอาหาร ขณะที่ ไวรัสที่ติดต่อผ่านระบบทางเดินอาหารจะเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจไม่ได้ และมีวิธีการเข้าสู่ร่างการแตกต่างกัน

จากกรณีประเทศจีนยกเลิกนำเข้าสินค้าปลาแซลมอนจากประเทศนอร์เวย์ หลังจากพบเชื้อโควิด-19 บนเขียงแล่ และต่อมามีการแพร่กระจายเชื้อในกรุงปักกิ่ง แท้ที่จริงแล้วสาเหตุที่ผู้ป่วยติดเชื้อไม่ได้มาจากการรับประทานปลา แต่เกิดจากการจับปลาแล้วความไม่ได้ระวัง ไม่ล้างมือให้สะอาด และเชื้อเข้าสู่ร่างกายโดยการสัมผัสหน้าหรือป้ายตา ซึ่งเป็นช่องทางในการติดเชื้อที่สูงมาก ดังนั้น ต้องแยกแยะสาเหตุของการติดเชื้อ เพราะว่าการรับประทานโดยตรงไม่ก่อให้เกิดโรค แต่การสัมผัสไวรัสมีโอกาสเกิดได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีปริมาณไวรัสเยอะและไวรัสอยู่ในสถานที่เย็น จะคงทนอยู่ได้นานมากกว่าปกติ 

โดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐอเมริกา (CDC) ทำการเก็บหลักฐานและตัวอย่างเป็นระยะเวลาเกือบ 1 ปีครึ่งจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ผ่านมายังไม่พบผู้ติดเชื้อจากการรับประทานอาหารโดยตรง นอกจากนี้ จำนวนผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 กว่า 170 ล้านคนทั่วโลกขณะนี้ ยังไม่มีรายงานว่าติดเชื้อทางการรับประทานอาหารที่มาจากการปนเปื้อนเชื้อไวรัสโควิด-19 และทางการสัมผัสกับบรรจุภัณฑ์อาหาร ถึงแม้จะมีรายงานตรวจพบรหัสพันธุกรรมของเชื้อไวรัสโควิด-19 บนอาหารทะเลเนื้อสัตว์แช่แข็งและบรรจุภัณฑ์อาหาร พบว่าส่วนใหญ่เป็นซากเชื้อ มีจำนวนก็น้อยมากไม่เพียงพอก่อโรคในคน

นอกจากนี้ “ความร้อน” สามารถทำลายเชื้อโควิด-19 ได้ เนื่องจากความร้อนทำให้สารพันธุกรรมชนิด RNA ไวรัสสลายอย่างรวดเร็ว ทำให้ไวรัสหมดสภาพ ดังนั้น หากไวรัสอยู่ในความร้อนอุณหภูมิ 56 องศาเซลเซียส ต่อเนื่อง 30 นาที จะถูกทำลาย อุณหภูมิ 72 องศาเซลเซียสอยู่ได้ 5 นาที และอุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียส หรือน้ำเดือด เชื้อจะอยู่ได้ประมาณ 10 วินาที 

อย่างไรก็ตาม มีข้อมูลจากงานวิจับพบว่าเชื้อโควิด-19 สามารถมีชีวิตรอด และส่งผ่านเชื้อได้ ขึ้นอยู่กับลักษณะพื้นผิว เช่น พื้นผิวของทองแดง ไวรัสสามารถมีชีวิตอยู่ได้ 4 ชั่วโมง กระดาษลัง – พัสดุไปรษณีย์ สามารถมีชีวิตอยู่ได้ 24 ชั่วโมง พลาสติก – สแตนเลส อยู่ได้นานที่สุดคือ 72 ชั่วโมงหรือ 3 วัน แต่ประเด็นที่น่าสนใจคือ เชื้อไวรัสโควิด-19 อยู่บนร่างกายได้นานเท่าไหร่คงจะเป็นสิ่งที่น่ากังวลมากกว่า เนื่องจากร่างกายคือจุดเริ่มต้นของการสัมผัสสิ่งต่างๆ ซึ่งมีการทดลองที่สามาถสรุปได้ว่าเชื้อโควิด-19 จะอยู่บนร่างกายได้ประมาณ 2-3 ชม. ดังนั้น จึงมีหลายประเด็นที่เปลี่ยนแปลงไปจากความเข้าใจของเชื้อโควิด-19 เมื่อปีที่แล้วว่าการติดเชื้อส่วนใหญ่เกิดจากการสัมผัสเข้าสู่ร่างกายคงจะเป็นประเด็นที่น้อยลง และโอกาสที่จะสัมผัสเอาปริมาณไวรัสมากๆเข้าสู่ร่างกายก็จะน้อยลงไปด้วย 

สำหรับการใช้แอลกอฮอล์เช็ดทำความสะอาดผลิตภัณฑ์ พัสดุ พื้นผิวต่างๆก่อนสัมผัส ถือว่าเป็นการสร้างความตระหนักในตนเองว่าควรเพิ่มความระมัดระวัง ใส่ใจเรื่องความสะอาด แต่หากไม่ได้ใช้แอลกอฮอล์ก็ไม่ต้องวิตกกังวล นอกจากนี้ ควรรับประทานอาหารปรุงสุกเพื่อลดโอกาสเสี่ยงในการติดเชื้อ ส่วนอาหารดิบยังรับประทานได้ แต่ต้องมั่นใจว่าสด สะอาด ปลอดภัย แต่หากไม่รู้แหล่งที่มาหรือไม่มั่นใจในความสะอาดก็ไม่แนะนำให้บริโภค เนื่องจากยังมีเชื้ออื่นๆที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ทั้งนี้ ความปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญ แต่ต้องเข้าใจเชื้อไวรัสว่าติดต่อทางใด เพื่อให้ปฏิบัติตนเองได้อย่างถูกวิธี

ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา
ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ
ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค)

Adblock test (Why?)


นักวิจัยไขข้อสงสัย!! COVID-19 ไม่ติดต่อทางอาหาร - ประชาชาติธุรกิจ
Read More

เปิด 4 ทางเลือก "เด เคอา" หากย้ายออกจาก "แมนยูฯ" ซัมเมอร์นี้ - ไทยรัฐ

แต่ทว่าจากการที่ตัวเขาดูเหมือนจะสูญเสียตำแหน่งมือหนึ่งของยอดทีมสีแดงแห่งเมืองแมนเชสเตอร์ ในช่วงท้ายฤดูกาลให้กับ ดีน เฮนเดอร์สัน นายทวารเด็กปั้นของสโมสร นั่นทำให้ตัวเขามีข่าวเชื่อมโยงถึงการย้ายทีม ซึ่งทางสื่อเจ้าดังกล่าวบอกว่า นายด่านวัย 30 กะรัต มี 4 ทางเลือกหากต้องย้ายออกจากทีมไปนั่นคือการย้ายกลับไปยัง "ตราหมี" แอตเลติโก มาดริด, "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลนา, "ม้าลาย" ยูเวนตุส หรือ "ปิศาจแดงดำ" เอซี มิลาน

Adblock test (Why?)


เปิด 4 ทางเลือก "เด เคอา" หากย้ายออกจาก "แมนยูฯ" ซัมเมอร์นี้ - ไทยรัฐ
Read More

ประกาศราชกิจจาฯ ปูทาง 'ศบค.' เปิดพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวรองรับ นทท.ต่างชาติ - กรุงเทพธุรกิจ

29 มิถุนายน 2564

76

ประกาศราชกิจจานุเบกษา ปูทาง “ศบค.” เปิดพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยวเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาจากต่างประเทศ เพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจ

เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ ข้อกําหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 26) ระบุว่า 

ตามที่ได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2563 และต่อมาได้ขยายระยะเวลาการบังคับใช้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าวออกไป เป็นคราวที่ 12 จนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 นั้น 

โดยที่รัฐบาลเล็งเห็นถึงความจําเป็นในการเปิดพื้นที่นําร่องด้านการท่องเที่ยวเพื่อรองรับ นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาจากต่างประเทศ อันจะเป็นประโยชน์ต่อการดําเนินการในภาค ธุรกิจท่องเที่ยวและภาคธุรกิจบริการที่เกี่ยวเนื่อง 

ในการนี้รัฐบาลได้เตรียมความพร้อมในการกําหนด มาตรการรองรับและบูรณาการประสานการปฏิบัติระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มีการปฏิบัติ ตามมาตรการต่าง ๆ ภายใต้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินอย่างเป็นระบบ และให้การขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจและสังคมสามารถดําเนินการควบคู่กับมาตรการด้านสาธารณสุขได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 และมาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 นายกรัฐมนตรีจึงออกข้อกําหนดและข้อปฏิบัติแก่ส่วนราชการทั้งหลาย ดังต่อไปนี้ 

ข้อ 1 การกําหนดผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรเพิ่มเติม ให้เพิ่มความต่อไปนี้ เป็น (12) ของข้อ 1 การเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ของข้อกําหนดออกตามความในมาตรา 4 แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 12) ลงวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2563 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยข้อ 3 ของข้อกําหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 13) ลงวันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2513

“(12) ผู้ซึ่งได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรในพื้นที่ที่กําหนดให้เป็นจังหวัดนําร่อง ด้านการท่องเที่ยว เพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว หรือกิจกรรมอื่น ๆ ตามนโยบายของรัฐบาล” 

162498744782 

ข้อ 2 มาตรการป้องกันโรคสําหรับผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร การกําหนดพื้นที่ จังหวัดนําร่องด้านการท่องเที่ยว เงื่อนไข เงื่อนเวลา การจัดระบบ หลักเกณฑ์ และมาตรการป้องกันโรค สําหรับผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรตามข้อ 1 ให้เป็นไปตามคําสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 เป็นต้นไป

ประกาศ ณ วันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ.2564

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา

นายกรัฐมนตรี

อ่านเพิ่มเติม : มาตรการเปิดประเทศฉบับเต็ม ราชกิจจานุเบกษาประกาศ เริ่ม 1 ก.ค.64  

162498759837

Adblock test (Why?)


ประกาศราชกิจจาฯ ปูทาง 'ศบค.' เปิดพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวรองรับ นทท.ต่างชาติ - กรุงเทพธุรกิจ
Read More

เผยสถิติ "อังกฤษ" แพ้ทาง "เยอรมนี" รอบน็อกเอาต์-ดวลจุดโทษ ก่อนบู๊ยูโร 2020 คืนนี้ - ไทยรัฐ

เปิดสถิติน่าสนใจก่อนดวลบิ๊กแมตช์ยูโร 2020 รอบ 16 ทีม คืนนี้ อังกฤษ แพ้ทาง เยอรมนี ในรอบน็อกเอาต์ทัวร์นาเมนต์ใหญ่ และไม่เคยดวลจุดโทษชนะด้วย

ข่าวแนะนำ

วันที่ 29 มิ.ย. 64 ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป "ยูโร 2020" รอบ 16 ทีม คู่ที่ 7 ซึ่งเป็นคู่เอกของรอบนี้ ทีมชาติอังกฤษ แชมป์กลุ่มดี ที่ลุ้นคว้าถ้วยแชมป์สมัยแรก โคจรมาพบกับ ทีมชาติเยอรมนี รองแชมป์กลุ่มเอฟ ดีกรีแชมป์สูงสุด 3 สมัยเทียบเท่า สเปน

แม้ "สิงโตคำราม" จะได้เปรียบจากการลงเล่นที่ เวมบลีย์ สนามเหย้าของตัวเองในฐานะเจ้าภาพร่วม 1 ใน 11 ชาติของทัวร์นาเมนต์นี้ แต่สถิติที่ผ่านมานับว่าแพ้ทาง "อินทรีเหล็ก" โดยเฉพาะการเผชิญหน้ากันในรอบน็อกเอาต์ของศึกฟุตบอลรายการใหญ่ 

ผลงานของ อังกฤษ ในการพบกับ เยอรมนี รอบน็อกเอาต์ รายการใหญ่

5 ครั้ง ชนะ 1 แพ้ 4

ฟุตบอลโลก 1966 รอบชิงชนะเลิศ : ต่อเวลาพิเศษชนะ 4-2 (เสมอ 2-2 ในเวลาปกติ)

ฟุตบอลโลก 1970 รอบ 8 ทีม : ต่อเวลาพิเศษแพ้ 2-3 (เสมอ 2-2 ในเวลาปกติ)

ฟุตบอลโลก 1990 รอบรองชนะเลิศ : ดวลจุดโทษแพ้ 3-4 (เสมอ 1-1 ในเวลา 120 นาที)

ยูโร 1996 รอบรองชนะเลิศ : ดวลจุดโทษแพ้ 5-6 (เสมอ 1-1 ในเวลา 120 นาที)

ฟุตบอลโลก 2010 รอบ 16 ทีม : แพ้ 1-4

หากเกมยืดเยื้อจนถึงการดวลจุดโทษตัดสิน อังกฤษ ก็ไม่เคยชนะ เยอรมนี ในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ได้เลยทั้ง 2 ครั้ง ขณะที่สถิติการดวลจุดโทษกับทุกทีมทั้ง 9 ครั้งในฟุตบอลรายการใหญ่ "สิงโตคำราม" ก็เป็นฝ่ายคว้าชัยได้เพียง 3 ครั้ง แต่แพ้ถึง 6 ครั้ง

สถิติการดวลจุดโทษตัดสินของทีมชาติอังกฤษ

ฟุตบอลโลก (ชนะ 1 แพ้ 3)

ปี 1990 - รอบรองชนะเลิศ แพ้ เยอรมนีตะวันตก 3-4 (เสมอ 1-1 ในเวลา 120 นาที)

ปี 1998 - รอบ 16 ทีม แพ้ อาร์เจนตินา 3-4 (เสมอ 2-2 ในเวลา 120 นาที)

ปี 2006 - รอบ 8 ทีม แพ้ โปรตุเกส 1-3 (เสมอ 0-0 ในเวลา 120 นาที)

* ปี 2018 - รอบ 16 ทีม ชนะ โคลอมเบีย 4-3 (เสมอ 1-1 ในเวลา 120 นาที)

ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป (ชนะ 1 แพ้ 3)

* ยูโร 1996 - รอบ 8 ทีม ชนะ สเปน 4-2 (เสมอ 0-0 ในเวลา 120 นาที)

ยูโร 1996 - รอบรองชนะเลิศ แพ้ เยอรมนี 5-6 (เสมอ 1-1 ในเวลา 120 นาที)

ยูโร 2004 - รอบ 8 ทีม แพ้ โปรตุเกส 5-6 (เสมอ 2-2 ในเวลา 120 นาที)

ยูโร 2012 - รอบ 8 ทีม แพ้ อิตาลี 2-4 (เสมอ 0-0 ในเวลา 120 นาที)

ยูฟ่า เนชันส์ลีก (ชนะ 1) 

* ปี 2019 - รอบไฟนอลส์ นัดชิงอันดับ 3 ชนะ สวิตเซอร์แลนด์ ชนะ 6-5 (เสมอ 0-0 ในเวลา 120 นาที)

อย่างไรก็ตาม จากสถิติดังกล่าวจะเห็นได้ว่าลูกทีมของกุนซือ แกเร็ธ เซาธ์เกต ซึ่งสมัยเป็นนักเตะก็เคยยิงจุดโทษพลาดก่อนแพ้ เยอรมนี ในศึกยูโร 1996 รอบรองชนะเลิศ สามารถเอาชนะคู่แข่งในการดวลจุดโทษตัดสินได้ตลอด 2 ครั้งหลังสุด ต้องติดตามกันว่า อังกฤษ จะล้างคำสาปในการปะทะกับ เยอรมนี คืนนี้ได้หรือไม่.

อ่านข่าวเพิ่มเติมแน่ใจนะ "เซาธ์เกต" อาจวาง "พิคฟอร์ด" เป็นมือปืน หากอังกฤษต้องดวลจุดโทษเยอรมนี (คลิป)

Adblock test (Why?)


เผยสถิติ "อังกฤษ" แพ้ทาง "เยอรมนี" รอบน็อกเอาต์-ดวลจุดโทษ ก่อนบู๊ยูโร 2020 คืนนี้ - ไทยรัฐ
Read More

ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์ฯ แถลง 5 จุดยืน เร่งรัฐบาลนำเข้าวัคซีนทางเลือก - ประชาชาติธุรกิจ

หมอแถลง 5 จุดยืน

ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย แถลง 5 จุดยืน เรียกร้องรัฐบาลนำเข้าวัคซีนทางเลือก ปรับกฎที่ทำให้เกิดความล่าช้า สร้างความชัดเจน-โปร่งใส ไม่อยู่ภายใต้อิทธิพลทางการเมืองหรือผลประโยชน์

วันที่ 29 มิถุนายน 2564 ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย ออกประกาศ ที่ รอ.ทั่วไป 78/2564 เรื่อง วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (ฉบับที่ 2) แถลงจุดยืนเรื่องวัคซีนโควิด ฉบับที่ 2 ดังนี้

ตามที่ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทยได้แถลงจุดยืน (position statement) เรื่องวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (วัคซีนโควิด-19) ฉบับที่ 1 ไปแล้วเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2564 เพื่อสนับสนุนให้ทุกท่านรับวัคซีนโควิด-19 โดยเร็วที่สุดนั้น จากสถานการณ์การระบาดที่มีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้น การเกิดการระบาดของเชื้อกลายพันธุ์เข้ามาในประเทศ

รวมทั้งข้อมูลเรื่องประสิทธิภาพและประสิทธิผลของวัคซีนโควิด-19 ชนิดต่าง ๆ ที่เพิ่มขึ้น กรรมการบริหารราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย จึงมีมติแถลงจุดยืน (position statement) เรื่องวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019
ฉบับที่ 2 ดังนี้

1.รัฐบาลควรใช้ความพยายามอย่างสูงสุดในการจัดหาวัคซีนโควิด-19 ให้มีใช้อย่างเพียงพอทั้งปริมาณและคุณภาพ เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่โดยเร็ว และควรให้ความสำคัญกับความเสี่ยงของการเกิดการระบาดของเชื้อกลายพันธุ์ซึ่งมีอัตราการแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว และทำให้ประสิทธิภาพและประสิทธิผลของวัคซีนลดลง

โดยเร่งจัดหาวัคซีนโควิด-19 ที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลต่อเชื้อกลายพันธุ์มาใช้ เพื่อให้ครอบคลุมทั้งผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน และเพื่อฉีดกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้กับผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้วแต่อาจยังไม่ครอบคลุมเชื้อกลายพันธุ์ โดยมุ่งเน้นกลุ่มที่ยังไม่ได้รับวัคซีนเป็นอันดับแรก

2.รัฐบาลควรใช้ความพยายามอย่างสูงสุดและเร็วที่สุด ในการนำเข้าวัคซีนทางเลือกทุกชนิดที่ได้รับการอนุมัติโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา โดยปรับกฎระเบียบและระบบราชการที่ทำให้เกิดความล่าช้า รวมถึงสนับสนุนการวิจัยวัคซีนและผลิตวัคซีนภายในประเทศ เพื่อให้ประชาชนได้รับโอกาสและทางเลือกในการเข้าถึงวัคซีนโควิด-19 เพิ่มขึ้น

3.รัฐบาลควรบริหารจัดการกระจายวัคซีนโควิด-19 ให้ดีขึ้นอย่างเป็นระบบ มีความชัดเจนและโปร่งใส ให้ความสำคัญกับหลักการทางการแพทย์และสาธารณสุข โดยไม่อยู่ภายใต้อิทธิพลทางการเมืองหรือผลประโยชน์ใด ๆ รวมทั้งต้องสื่อสารทำความเข้าใจเรื่องวัคซีนโควิด-19 โดยเฉพาะเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ที่เกิดขึ้นหลังการได้รับวัคซีนโควิด-19 อย่างเปิดเผยและรวดเร็ว

4.ประชาชนควรเข้ารับวัคซีนโดยเร็วที่สุด ทั้งที่รัฐบาลจัดหามาให้และวัคซีนทางเลือก โดยยังต้องให้ความสำคัญของมาตรการการป้องกันโรคได้แก่ งดเว้นกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่ม การเว้นระยะห่าง ล้างมือ ใส่หน้ากากอนามัย อย่างเคร่งครัดถึงแม้ได้รับวัคซีนโควิด-19 ครบแล้ว เพราะวัคซีนทุกชนิดป้องกันการเกิดโควิด-19 ได้ระดับหนึ่งเท่านั้น แต่ป้องกันอาการเจ็บป่วยรุนแรงและเสียชีวิตได้ดี

5.สมาชิกราชวิทยาลัยอายุรแพทย์ฯ ทุกคนควรเข้ารับวัคซีนเมื่อมีโอกาสได้รับการฉีดเร็วที่สุด เพื่อลดการเจ็บป่วย ลดการกักตัว ลดการนำเชื้อไปสู่ผู้ป่วยและผู้ร่วมงาน ลดการระบาดภายในสถานพยาบาล รวมทั้งเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับแพทย์สาขาอื่น ๆ บุคลากรทางการแพทย์ และประชาชนในการยอมรับวัคซีนโควิด-19

ประกาศ ณ วันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2564

นายแพทย์อนุตตร จิตตินันทน์
ประธานราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย

Adblock test (Why?)


ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์ฯ แถลง 5 จุดยืน เร่งรัฐบาลนำเข้าวัคซีนทางเลือก - ประชาชาติธุรกิจ
Read More

กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ควักงบ 500 ล้าน รุกธุรกิจผ่านช่องทางดิจิทัลเต็มสูบ - ประชาชาติธุรกิจ

กรุงศรี คอนซูมเมอร์ คักงบ 500 ล้านบาท เตรียมขยายธุรกิจผ่านช่องทางดิจิทัล ชูกลยุทธ์สร้างระบบนิเวศดิจิทัลด้วย 3 แนวทาง ขยายแพลตฟอร์มข้อมูล-จับมือพันธมิตร-ทำการตลาดเฉพาะบุคคล พร้อมตั้งเป้าสิ้นปีลูกค้าใช้ UChoose เพิ่มเป็น 6.5 ล้านราย เติบโต 12% ลั่นไตรมาส 3 จ่อเปิดตัวช่องทางสื่อสารใหม่ Line OA-Website-Facebook-Youtube ปลื้มกระแสตอบรับบริการ U Cash ลูกค้าแห่ขอสินเชื่อกว่า 2 พันล้านบาท คาดสิ้นปียอดแตะ 1 หมื่นล้านบาท

วันที่ 29 มิถุนายน 2564 นายอธิป ศิลป์พจีการ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารธุรกิจกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ บริษัท อยุธยา แคปปิตอล เซอร์วิสเซส จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้ตั้งงบประมาณ 500 ล้านบาท นับตั้งแต่ปี 2564-2565 เพื่อสร้างระบบนิเวศดิจิทัล (Digital Ecosystem) ของกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ซึ่งเป็นการพัฒนาต่อเนื่องให้สอดรับพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนไปอยู่บนดิจิทัลมากขึ้น ทำให้ธุรกิจจำเป็นต้องปรับให้เข้าถึงลูกค้าที่ใช้บริการออนไลน์ได้อย่างต่อเนื่องดิจิทัล เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการได้อย่างครบวงจร รวดเร็ว และหลากหลาย

สำหรับแนวทางการสร้างระบบนิเวศดิจิทัลมีอยู่ 3 ด้านสำคัญ ได้แก่ 1.ขยายแพลตฟอร์มข้อมูล(Platform) ผลิตภัณฑ์ บริการ หลากหลายทั้งบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อผ่อนชำระ และประกันภัย และช่องทางบริการดิจิทัลรูปแบบใหม่ 2.การสร้างพันธมิตรทางธุรกิจ (Partnership) โดยจับมือพันธมิตรพัฒนาโปรโมชัน ผลิตภัณฑ์ บริการ ซึ่งปัจจุบันมีมากกว่า 2.5 หมื่นราย และ 3.การตลาดเฉพาะบุคคลแบบ Personalized โดยใช้ข้อมูล Personalized นำเสนอผลิตภัณฑ์ได้อย่างเหมาะสมและตรงตามความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่มมากขึ้น และสร้างโมเดลธุรกิจตอบโลกออนไลน์เต็มรูปแบบ

ทั้งนี้ จากฐานลูกค้า 9 ล้านราย พบว่ามีฐานลูกค้าที่หันมาใช้บริการ UChoose เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากเดือนธ.ค.63 อยู่ที่ 5.8 ล้านราย คาดว่าปีนี้จะเพิ่มเป็น 6.5 ล้านราย เติบโต 12% คิดเป็นสัดส่วน 70% ของฐานลูกค้าทั้งหมด สอดคล้องกับยอดธุรกรรมชำระบัตรที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 4 เท่าภายในสิ้นปีนี้ จาก 1.6 ล้านรายการในปี 63 เพิ่มเป็น 6.2 ล้านรายการ โดยในช่วง 5 เดือนแรกมียอดธุรกรรมแล้วกว่า 2.2 ล้านรายการ หากดูการทำรายการผ่านบริษัทในเครือพบว่าสูงถึง 151 ล้านรายการ เฉลี่ยทำรายการอยู่ที่ 4 แสนรายการต่อวัน

นอกจากนี้ การชำระเงินผ่าน QR Code Payment ถือว่ามีอัตราการขยบายตัวต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากภาครัฐที่สนับสนุนการใช้จ่ายผ่าน QR Code จากมาตรการช่วยเหลือต่างๆ รวมถึงการระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้คนหันมาทำธุรกรรมผ่าน QR Code มากขึ้น โดยในปี 63 มีธุรรรมเพียง 8.7 หมื่นรายการ และในช่วง 5 เดือนแรกเพิ่มเป็น 1.01 แสนรายการ คาดว่าภายในสิ้นปีจะเพิ่มเป็น 3 แสนรายการ หรือเติบโต 3.4%

สอดคล้องกับลูกค้าที่หันไปทำธุรกรรมบนโมบายแอปพลิเคชั่นมากขึ้น จาก 5 เดือนแรกอยู่ที่อยู่ที่ 30 ล้านครั้ง จากปี 63 อยู่ที่ 65 ล้านครั้ง คาดว่าภายในสิ้นปีจะเพิ่มเป็น 80 ล้านครั้ง หรือเติบโต 23%

นายอธิป กล่าวเพิ่มเติมว่าจากแนวโน้มการทำธุรกรรมผ่านดิจิทัลเพิ่มขึ้น ภายในไตรมาสที่ 3 กรุงศรี คอนซูฒเมอร์ มีแผนเพิ่มช่องทางการสื่อสารทางดิจิทัลใหม่ๆ อาทิ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ Line OA, Website, Facebook, Youtube เป็นต้น เพื่อขยายขีดความสามารถในการให้บริการลูกค้าได้อย่างครอบคลุม

นอกจากนี้ บริษัทได้เปิดให้บริการดิจิทัลใหม่ๆ เช่น บริการ ‘ยูแคช’ (U Cash) โอนวงเงินบัตรเข้าบัญชีธนาคารเพื่อใช้เป็นเงินสดหลังเปิดบริการไปเมื่อวันที่ 1 มิ.ย.64 ที่ผ่านมาจน ณ วันที่ 23 มิ.ย.64 พบว่า ได้กระแสตอบรับค่อนข้างดี โดยมียอดปล่อยสินเชื่อไปแล้ว 1,200 ล้านบาท มีการทำธุรกรรมจำนวน 1.35 แสนรายการ เฉลี่ยวงเงิน 1.6 หมื่นบาทต่อราย คาดภายในสิ้นปีจะสามารถปล่อยสินเชื่อได้ 1 หมื่นล้านบาท ขณะเดียวกันจะมีบริการ U Card สมัครบัตรใหม่ผ่านแอป UChoose พร้อมขยายจุดรับบริการยืนยันตัวตนอิเล็กทรอนิกส์ (E-KYC) ผ่านจุดยืนยันตัวตนกว่า 14,000 แห่งทั่วประเทศในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2564

“การสร้างระบบนิเวศดิจิทัล โดยใช้จุดแข็งฐานลูกค้าที่มีอยู่กว่า 9 ล้านราย ทั้งลูกค้ากลุ่มทั่วไป และกลุ่มระดับบน รวมถึงพันธมิตรมากว่า 2.5 หมื่นราย จะเพิ่มประสิทธิภาพในการทำการตลาดโดยใช้ข้อมูลให้กับบริษัท และในอนาคตเตรียมสร้าง Krungsri Consumer Data Platform ซึ่งจะเป็นแพลตฟอร์ม ที่จะเชื่อมต่อและระบุตัวตนของลูกค้าจากข้อมูลทั้งออนไลน์ และออฟไลน์จากทุก Touch Point ของลูกค้าตลอด Customer Journey เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลเหล่านี้ ให้บริษัทสามารถให้บริการลูกค้าแบบไร้รอยต่อ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า”

Adblock test (Why?)


กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ควักงบ 500 ล้าน รุกธุรกิจผ่านช่องทางดิจิทัลเต็มสูบ - ประชาชาติธุรกิจ
Read More

Monday, June 28, 2021

ถูกทางแต่ไม่พอ! 'กรณ์' ขอ ครม.วันนี้ ปรับเกณฑ์ขยายเยียวยา เป็น 3 เดือน - ไทยรัฐ

นอกจากนี้ ต้องยอมรับว่าต้นตอการแพร่เชื้อส่วนใหญ่เกิดจากกิจกรรมใต้ดิน และในส่วนของแคมป์คนงานก็เป็นเรื่องที่พวกเราได้ตักเตือนเจ้าหน้าที่ของรัฐมาหลายเดือนว่าให้ระมัดระวังว่า จะเป็นแหล่งแพร่เชื้อสำคัญ ซึ่งหละหลวมมากในการตรวจสอบ กทม.ควรต้องมาตรวจสอบเชิงรุกว่า มีใครอาศัยอยู่ในแคมป์บ้าง ห้ามเข้าออก ห้ามเปลี่ยนคนงาน แต่ที่ผ่านมาก็ไม่ได้เข้มงวด จนทำให้กลายเป็นคลัสเตอร์การแพร่เชื้อ และการประกาศมาตรการกึ่งล็อกดาวน์ที่รัฐประกาศออกมาล่าสุด ก็สร้างความอึดอัดให้กับประชาชนและผู้ประกอบการร้านอาหาร ที่เขารู้สึกว่าไม่ยุติธรรมเพราะไม่ใช่ความผิดเขาที่ระวังตัวกันมาตลอด แต่ต้องมารับเคราะห์กรรมจากมาตรการ ที่ทำให้เขาขาดรายได้อีกรอบ และเป็นการประกาศอย่างฉับพลัน ทำให้ร้านค้า ร้านอาหารตั้งตัวแทบไม่ติด เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก ดังนั้นการจะเปิดประเทศภายใน 120 วัน หรือ 4 เดือน จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเตรียมพร้อม

อดีตรมว.การคลัง กล่าวด้วยว่า มาตรการเยียวยาผู้ประกอบการ เริ่มมีนโยบายที่เข้าเป้า พรรคกล้าเรียกร้องมาโดยตลอดโดยเฉพาะผู้ประกอบการร้านอาหาร วันนี้รัฐบาลตั้งงบไว้ที่ 7,500 ล้านบาท ส่วนหนึ่งเป็นงบจากกองทุนประกันสังคมที่มีผู้ประกันตนอยู่เกือบเจ็ดแสนคน ตามกฎหมาย โดยกำหนดให้พวกเขาได้รับสิทธิชดเชยรายได้ 50 เปอร์เซ็นต์ ชดเชยรายได้สูงสุดไม่เกิน 7,500 บาท รวมถึงการจัดสรรเงินจาก เงินกู้ พ.ร.ก.ห้าแสนล้าน เพิ่มเติมให้รายละ 2,000 บาท ซึ่งเป็นการจ่ายให้แค่ครั้งเดียวและเดือนเดียว นอกจากนี้ รัฐจะเยียวยาให้ผู้ประกอบการเพิ่มเติมตามรายหัวลูกจ้าง โดยคำนวณตามสูตร ลูกจ้างจะได้รับเยียวยา 3,000 บาท เพดานสูงสุดไม่เกิน 200 คน หรือไม่เกิน 600,000 บาท ต่อกิจการ เพื่อผ่อนหนักเป็นเบาในแง่ภาระค่าใช้จ่าย ซึ่งก็สมเหตุสมผล เพราะเป้าหมาหมายหลักที่เราเรียกร้องคือ เอสเอ็มอี ผู้ประกอบการรายเล็ก ก็มีลูกจ้างแค่หลักหน่วยหลักสิบ เพดานดังกล่าว น่าจะครอบคลุมได้ทั้งหมด

“นโยบายลักษณะนี้ มาถูกทาง แต่ไม่น่าเพียงพอ สำหรับลูกจ้าง การได้รับเงินชดเชย จากกองทุนประกันสังคมสูงสุด 7,500 บาท และเมื่อรวมกับเงินสมทบทุนอีก 2,000 บาท หากคิดเป็นสัดส่วนรายได้เฉลี่ย 20,000 บาทต่อเดือน ก็ยังต่ำกว่าครึ่ง ไม่น่าเพียงพอ ต่อภาระค่าใช้จ่ายที่ทุกคนต้องมี และยิ่งมาตรการที่ประกาศให้เพียงแค่ 1 เดือน ยิ่งทำให้ผู้ประกันตนมีความกังวลว่าเมื่อพ้นเดือนไปแล้วเขาจะอยู่อย่างไร ดังนั้น จึงอยากฝากไปถึง ครม.เศรษฐกิจที่พิจารณาเรื่องนี้ว่า ขอให้ขยายวงเงินและขยายเวลาในการช่วยเหลือ โดยวงเงินสมทบที่เหมาะสมคือ 5,000 บาท บวกกับเงินชดเชยรายได้สูงสุด 7,500 บาทก็จะเป็นเงิน 12,500 บาท ก็น่าจะพอประทังชีวิตให้กับครอบครัวช่วงนี้ ผมคำนวณแล้ว ในแง่ภาระต่องบประมาณของรัฐเป็นวงเงินที่น่าจะแบกรับไว้ได้ เพราะวงเงินที่รัฐจัดสรรไว้เพื่อการชดเชยให้ผู้ประกันตน และผู้ประกอบการโดยรวมมีเพียงแค่ประมาณ 4,000 ล้านบาท งบที่รัฐบาลประกาศไว้รวมกับกองทุนประกันสังคมเป็นเงิน 7,500 ล้านบาท เมื่อเทียบกับเงินกู้ 5 แสนล้าน มันน้อยมาก นี่คือวิธีการที่จะเยียวยาที่ถูกจุด ตรงเป้าที่สุด และต้องขยายเวลาไปเป็นสามเดือน และถ้าเป็นไปอย่างที่ผมเสนอขยายวงเงินจาก 2,000 เป็น 5,000 บาท รัฐจะต้องจัดสรรเงินเพิ่มเป็น 5,000 ล้านบาท ต่อเดือน ภาระค่าใช้จ่ายของรัฐ ก็จะเพิ่มเป็น 15,000 ล้าน จาก ห้าแสนล้านซึ่งเป็นอำนาจในมือ ที่รัฐบาลสามารถดำเนินการได้ และจะส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนที่ไม่ได้เป็นต้นเหตุของการแพร่เชื้อในรอบปัจจุบันแต่ต้องมารับเคราะห์แทน” นายกรณ์ กล่าว

หัวหน้าพรรคกล้า กล่าวถึง ภาพยาวที่รัฐบาลต้องเตรียมการไว้เพิ่มเติมสำหรับการเยียวยาพี่น้องประชาชนและผู้ประกอบการ คือ เท่าที่ดูสถานการณ์ โอกาสที่เราจะอยู่สถานภาพที่จะเปิดประเทศได้ใน 120 วัน อย่างเก่งคือ 50:50 อย่างที่กล่าวข้างต้นแล้วว่า โอกาสจะไปอยู่ที่ในจุดนั้นน้อยมาก และหากวัคซีนมาช้า ภายในสิ้นปีก็อาจไม่ทัน และอาจทอดยาวถึงต้นปี หรืออาจจะถึงกลางปีหน้า เราต้องอดทนไปนานถึง 6 เดือน ถ้าโชคร้ายก็เป็นปี ในสถานการณ์ที่เป็นจริงเช่นนี้ รัฐบาลมีมาตรการอะไร เพื่อที่ประชาชนจะคลายความกังวลและสบายใจในการต่อสู้ได้บ้าง งบประมาณ 5 แสนล้านต้องใช้อย่างสมเหตุสมผล ซึ่งเพียงพอในระดับที่มีความน่าเชื่อถือ ต้องคิดให้รอบด้านเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้กับประชาชนว่ารัฐคิดเผื่อไว้สำหรับสถานการณ์ที่อาจเลวร้าย จังหวะนี้ การเข้าถึงข้อมูลข้อเท็จจริง เรื่องของการสื่อสาร เรื่องของแนวโน้มโอกาส และการเตรียมมาตรการที่ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ

นอกจากนี้ นายกรณ์ ยังได้หยิบยก ข้อเสนอ 5 ข้อ ที่พรรคกล้า ได้เคยนำเสนอไปแล้วเพื่อให้รัฐบาลดำเนินการต่อเนื่องเพื่อลดผลกระทบต่อเศรษฐกิจในภาพรวม ซึ่งประกอบไปด้วย

1. ควรเร่งเจรจากับ Platform online ที่ร้านอาหารทั้งหลายใช้เป็นช่องทางขายและจัดส่งอาหารอยู่ในปัจจุบัน ไม่ให้คิดค่าธรรมเนียมการใช้บริการหรือ GP เกินร้อยละ 15 อย่างน้อยก็ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด เพื่อแบ่งเบาภาระให้ผู้ประกอบการและประชาชน 2. รัฐควรช่วยเหลือเยียวยาค่าจ้างเงินเดือนของพนักงานในร้านอาหารเหล่านี้ร้อยละ 50 ในช่วงที่รัฐบาลประกาศห้ามมีลูกค้านั่งในร้านอาหาร 3. งดการจัดเก็บภาษีในรอบระยะเวลาบัญชี 1 ปีที่ผ่านมา ให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่ง
4. ผ่อนผันการผ่อนชำระเงินกู้และดอกเบี้ยของผู้ประกอบการร้านอาหาร ด้วยมาตรการงดผ่อนต้นผ่อนดอก ไปอีกอย่างน้อย 6 เดือน

และ 5. ในกรณีที่ร้านอาหารมีค่าเช่าพื้นที่ เช่น ร้านอาหารในห้างสรรพสินค้า เจ้าของพื้นที่ควรลดค่าเช่าให้ด้วย อย่างน้อยร้อยละ 50 และเจ้าของพื้นที่สามารถนำส่วนลดที่ให้กับร้านอาหารเหล่านั้น ไปขอลดหย่อนภาษีจากทางรัฐบาลได้ ในรอบบัญชีถัดไป เพื่อเป็นการชดเชยและลดค่าใช้จ่ายให้ร้านอาหารที่ต้องเสียค่าเช่าทุกเดือน

“อยากฝากบอกว่า พรรคกล้า เราจะติดตามและเสนอแนะรัฐบาลอย่างสร้างสรรค์ เพื่อช่วยคลี่คลายสถานการณ์ เราเปิดโอกาสให้ประชาชนแสดงความเห็น เสนอแนะวิธีการที่จะช่วยให้เขาอยู่รอดได้ มีวิธีใดได้บ้าง บางส่วนก็นำไปสู่การปฏิบัติ บางส่วนก็ยังไม่ได้ทำ” นายกรณ์ กล่าวทิ้งท้าย

Adblock test (Why?)


ถูกทางแต่ไม่พอ! 'กรณ์' ขอ ครม.วันนี้ ปรับเกณฑ์ขยายเยียวยา เป็น 3 เดือน - ไทยรัฐ
Read More

สหรัฐ โจมตีทางอากาศ กองกำลังติดอาวุธซีเรีย-อิรัก - กรุงเทพธุรกิจ

28 มิถุนายน 2564

99

กองทัพสหรัฐภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ทำการโจมตีทางอากาศใส่อาคารที่สหรัฐระบุว่าเป็นของกองกำลังติดอาวุธที่ได้รับการหนุนหลังจากอิหร่าน ใกล้พรมแดนระหว่างอิรักและซีเรีย

นายจอห์น เคอร์บี้ โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐ ระบุว่า กองกำลังติดอาวุธใช้อาคารดังกล่าวเพื่อทำการโจมตีด้วยอากาศยานไร้คนขับ ต่อกองทัพสหรัฐในอิรัก

นายเคอร์บี้กล่าวว่า กองทัพสหรัฐมีเป้าหมายโจมตีอาคารปฏิบัติงานและเก็บอาวุธ 3 แห่ง โดยแบ่งเป็น 2 แห่งในซีเรียและ 1 แห่งในอิรัก

นายเคอร์บี้ระบุว่า การโจมตีทางอากาศเป็นการป้องกันตนเอง และการโจมตีดังกล่าวเป็นการตอบโต้การโจมตีอย่างต่อเนื่องของกลุ่มที่ได้รับการหนุนหลังจากอิหร่านที่มีเป้าหมายที่ผลประโยชน์ของสหรัฐในอิรัก

“สหรัฐใช้มาตรการที่จำเป็น เหมาะสม และรอบคอบ ที่ออกแบบมาเพื่อจำกัดความเสี่ยง แต่ก็เป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจน” นายเคอร์บี้กล่าว

การโจมตีทางอากาศเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาเป็นครั้งที่ 2 ที่คณะทำงานของปธน.ไบเดน ดำเนินการทางทหารในภูมิภาคนี้ โดยในเดือนก.พ.ที่ผ่านมา สหรัฐทำการโจมตีทางอากาศใส่อาคารในซีเรียใกล้ชายแดนอิรัก โดยระบุว่าเป็นอาคารของกลุ่มติดอาวุธที่ได้รับการหนุนหลังจากอิหร่าน

กระทรวงกลาโหมระบุว่า การโจมตีดังกล่าวเป็นการตอบโต้การใช้ขีปนาวุธโจมตีอิรักในเดือนก.พ.ที่ทำให้มีพลเรือนเสียชีวิต 1 ราย และเจ้าหน้าที่สหรัฐและกองกำลังพันธมิตรได้รับบาดเจ็บ

มีรายงานว่า ในตอนนั้น ปธน.ไบเดนกล่าวว่า อิหร่านควรจะมองว่าการตัดสินใจให้สหรัฐโจมตีทางอากาศในซีเรีย เป็นการเตือนว่าอาจเกิดผลตามมาสำหรับการสนับสนุนกองกำลังติดอาวุธที่คุกคามผลประโยชน์หรือบุคลากรของสหรัฐ

Adblock test (Why?)


สหรัฐ โจมตีทางอากาศ กองกำลังติดอาวุธซีเรีย-อิรัก - กรุงเทพธุรกิจ
Read More

กรมทางหลวงทุ่ม 1.5 พันล้าน ทะลวงจุดตัด 5 ทางแยก แก้ปัญหารถติดเชียงใหม่ - ประชาชาติธุรกิจ

กรมทางหลวงเผยความคืบหน้าโครงการออกแบบปรับปรุง ทล.121 ช่วง จุดตัด ทล.108 – จุดตัด 1006 จ.เชียงใหม่ เป็น 4-6 ช่องจราจร เพื่อแก้ไขปัญหาจราจรและรองรับการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมขนส่งอย่างยั่งยืน คาดว่าจะเริ่มดำเนินการปีงบประมาณ 2565

วันที่ 28 มิถุนายน 2564 ฝ่ายประชาสัมพันธ์ กรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า ทล. ดำเนินโครงการสำรวจและออกแบบปรับปรุงและแก้ไขปัญหาจราจรบนทางหลวงหมายเลข 121 หรือวงแหวนรอบ 3 ช่วงจุดตัดทางหลวงหมายเลข 108 – จุดตัดทางหลวงหมายเลข 1006 เนื่องจากปัจจุบันทางหลวงสายดังกล่าวมีปริมาณจราจรหนาแน่น ทำให้รถสะสมเป็นระยะทางยาวบริเวณทางแยก ประกอบกับเป็นจุดเชื่อมต่อกับทางหลวงสายสำคัญ จึงนำไปสู่แนวทางการแก้ไขปัญหาจราจรบนสายทางดังกล่าวและโครงข่ายทางหลวงที่ใกล้เคียง อันจะเป็นประโยชน์ต่อภาคการขนส่ง และการเดินทางของประชาชนให้มีความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย

ทั้งนี้พื้นที่โครงการครอบคลุมใน 4 อำเภอ 9 ตำบล ได้แก่ อำเภอเมือง อำเภอหางดง อำเภอสารภี และอำเภอสันกำแพง และ 9 ตำบลได้แก่ ตำบลป่าแดด ตำบลหนองคาย ตำบล สันผักหวาน ตำบลท่าวังตาล ตำบลดอกแก้ว ตำบลหนองผึ้ง ตำบลไชยสถาน ตำบลป่าบง ตำบลสันกลาง และตำบลต้นเปา

จุดเริ่มต้นโครงการที่ กม. 0+000 และสิ้นสุดที่ กม. 16+346 ระยะทางประมาณ 16.3 กิโลเมตร โดยออกแบบให้มีการผสมผสานระหว่างแนวคิดด้านวิศวกรรม แนวคิดด้านภูมิสถาปัตยกรรมที่เน้นเอกลักษณ์ของเมืองเชียงใหม่ และการออกแบบเพื่อลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม

สำหรับรูปแบบก่อสร้างทั่วไปเป็นถนนแอสฟัลท์ติกคอนกรีตขนาด 4 ช่องจราจร และ 6 ช่องจราจร ความกว้างช่องจราจรละ 3.50 เมตร ไหล่ทางด้านนอกกว้าง 2.50 เมตร แบ่งทิศทางจราจรด้วยเกาะกลางชนิดกดร่อง (Depressed Median)

ส่วนช่วง กม. 10+500 – กม.15+310 แบ่งทิศทางจราจรด้วยเกาะกลางแบบยก (Raised Median) ทางขนานที่ให้บริการชุมชน 2 ข้างทาง ออกแบบแยกจากทางสายหลักด้วยเกาะกลางแบบกดร่อง (Depressed Median)

ทั้งนี้รูปแบบทางแยกโครงการมีอยู่ด้วยกัน 5 ทางแยกดังนี้

1. ทางแยกสะเมิง ทล.121 ตัด ทล.108 (กม.0+000) 1.1 ออกแบบเป็นทางแยกต่างระดับแบบทางเลี้ยววน (Loop Ramp) สำหรับทิศทางจราจรที่มาจากหนองควาย มุ่งหน้า อ.หางดง และจาก อ.สันกำแพงมุ่งหน้าสู่เชียงใหม่

1.2 ทิศทางเลี้ยวขวาจาก อ.หางดง มุ่งหน้า อ.สันกำแพง ให้ใช้สะพานทางเลี้ยวกึ่งตรง

1.3 ทิศทางเลี้ยวขวาจากเชียงใหม่ไปหนองควาย ให้ใช้ทางกลับรถใต้สะพานบน ทล.121

1.4 แยกพืชสวนโลกออกแบบเป็นสะพานข้ามแยกในทิศทาง อ.หางดง มุ่งหน้าไปตัวเมืองเชียงใหม่

2.ทางแยกกองทราย ทล.121 ตัด ทล.106 (กม.8+500) เป็นพื้นที่คุ้มครองด้านสิ่งแวดล้อม มีแนวคิดออกแบบเพื่ออนุรักษ์ต้นยางนาบริเวณทางแยก โดยออกแบบการจราจรบนทางหลวงหมายเลข 121 เป็นรูปแบบสะพานข้ามแยก การจราจรบนทางหลวงหมายเลข 106 และทิศทางเลี้ยวขวาให้ใช้วงเวียน

3. ทางแยกซุปเปอร์ไฮเวย์ ทล.121 ตัด ทล.11 (กม.10+000) ก่อสร้างทางแยกต่างระดับให้สมบูรณ์ เพิ่มช่องทางเลี้ยวมุ่งหน้าไป จ.ลำพูน และทางเลี้ยววน (Loop Ramp) มุ่งหน้าไป อ.หางดง ออกแบบทางเลี้ยวระดับพื้นเชื่อมทางเลี้ยววน (Loop Ramp) เดิมเพื่อรองรับการจราจรจากถนนเลียบทางรถไฟมุ่งหน้าไป อ.สันกำแพง

4. ทางแยกสันกลาง ทล.121 ตัด ทล.1317 (กม.13+000) ออกแบบการจราจรทางตรงบนทางหลวงหมายเลข 1317 และทางหลวงหมายเลข 121 ให้เป็นสะพานข้ามทางแยกที่ระดับ 2 และ 3 ตามลำดับ ทิศทางเลี้ยวขวาทุกทิศทางออกแบบให้ใช้วงเวียน (ระดับ 1) สำหรับทิศทางอื่นเป็นทางเลี้ยวระดับพื้น

5. ทางแยกต้นเปาพัฒนาหรือแยกหลุยส์ ทล.121 ตัด ทล.1006 (กม.15+310) ออกแบบการจราจรทิศทางตรงบนทางหลวงหมายเลข 121 ใช้สะพานข้ามทางแยก ทางเลี้ยวขวาทุกทิศทางออกแบบให้ใช้วงเวียน สำหรับทิศทางอื่นเป็นทางเลี้ยวระดับพื้น ทิศทางตรงบนทางหลวงหมายเลข 1006 ออกแบบให้ใช้ทางลอด สำหรับรถที่สูงไม่เกิน 3.50 เมตร

โดยช่วงระหว่าง กม. 0+000 ถึง กม.12+200 ที่ผ่านทา งแยกสะเมิง แยกกองทราย และแยกซุปเปอร์ไฮเวย์ ตรวจสอบพบว่าเป็นพื้นที่อ่อนไหวที่ต้องศึกษาและประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ปัจจุบันอยู่ระหว่างการจัดทำรายงานเพื่อเสนอสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.)

ส่วนแยกสันกลาง และแยกต้นเปาพัฒนาหรือแยกหลุยส์ นั้น สามารถดำเนินการก่อสร้างเพื่อปรับปรุงและแก้ไขปัญหาจราจรได้ก่อน โดยใช้งบประมาณทั้งสิ้น 1,500 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มดำเนินการในปีงบประมาณ 2565 และคาดว่าใช้เวลาก่อสร้างอย่างน้อย 2 ปีโดยประมาณ

เมื่อโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จจะช่วยแก้ไขปัญหาการจราจรในพื้นที่ เพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการเดินทาง ช่วยพัฒนาโครงข่ายคมนาคมในจังหวัดเชียงใหม่และพื้นที่ใกล้เคียงให้มีความสมบูรณ์ เพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งสินค้าให้มีความสะดวกรวดเร็ว รวมถึงสนับสนุนแผนงานโครงการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของประเทศไทยในอนาคต

Adblock test (Why?)


กรมทางหลวงทุ่ม 1.5 พันล้าน ทะลวงจุดตัด 5 ทางแยก แก้ปัญหารถติดเชียงใหม่ - ประชาชาติธุรกิจ
Read More

'ศาลอาญาระหว่างประเทศ' ผู้ช่วยเหลือมนุษยชาติ หรือเครื่องมือทางการเมือง? - ไทยรัฐ


ศาลอาญาระหว่างประเทศ คืออะไร

ศาลอาญาระหว่างประเทศ (International Criminal Court: ICC) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2002 โดยประชาคมนานาชาติ จุดประสงค์ของการก่อตั้งเพื่อแก้ปัญหาการก่ออาชญากรรมร้ายแรง อาทิ การสังหารหมู่หรือการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ การก่ออาชญากรรมใดๆ ที่ส่งผลกระทบต่อมนุษยชาติ อาชญากรรมสงคราม ดังเช่นกรณีของ ซัดดัม ฮุสเซน หรือ โอซามา บิน ลาเดน และอาชญากรรมอันเป็นการรุกราน (มาตรา 5) ศาลอาญาระหว่างประเทศ จะทำหน้าที่ไต่สวนเมื่อศาลระดับประเทศไม่สามารถหรือประสงค์จะปฏิบัติหน้าที่ได้

ทว่ามีหลายประเทศที่ไม่ได้ร่วมเป็นรัฐภาคี หรือเป็นสมาชิกของ ICC เช่น จีน รัสเซีย อินโดนีเซีย อินเดีย และอีกจำนวนหนึ่งที่ไม่ได้ลงนามในธรรมนูญกรุงโรม (Rome Statute of the International Criminal Court) อย่างเป็นทางการ หรือเกิดการถอนลายเซ็นออก เช่น สหรัฐอเมริกา อิสราเอล ซูดาน และฟิลิปปินส์

หลายปีที่ผ่านมา เกิดเสียงวิพากษ์ถึงการทำงานของ ICC ว่ามีอุปสรรคหลายอย่าง นับตั้งแต่กรณีของบางชาติที่ไม่ได้เป็นสมาชิก ทำให้ศาลไม่มีอำนาจเข้าไปสอบสวนคดีอาชญากรรมร้ายแรง หรือเรื่องที่ศาลไม่มีเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายเป็นของตัวเอง

เมื่อไม่มีผู้ทำหน้าที่คล้ายตำรวจของหน่วย ส่งผลให้ ICC ต้องขอความร่วมมือกับประเทศสมาชิกเพื่อให้ทางรัฐบาลส่งตัวผู้ต้องสงสัยในคดีต่างๆ มาเพื่อพิจารณาคดี เกิดเป็นกระบวนการที่กินเวลานาน และบางครั้งยังไม่ค่อยได้รับความร่วมมือเท่าไรนัก เนื่องจากหลายประเทศมองว่าการให้ศาลอาญาระหว่างประเทศเข้ามาจัดการปัญหา ถือเป็นการเปิดโอกาสให้อำนาจจากภายนอกเข้ามาละเมิดอธิปไตยของชาติ


ศาลอาญาระหว่างประเทศขอตรวจสอบคดีในฟิลิปปินส์

วันที่ 14 มิถุนายน 2021 ศาลอาญาระหว่างประเทศ สำนักงานใหญ่ในกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ออกแถลงการณ์ว่า ฟาตู เบนซูดา (Fatou Bensouda) อัยการสูงสุดศาลอาญาระหว่างประเทศ และคณะอัยการ ICC มีมติเห็นชอบให้เริ่มกระบวนการสอบสวนสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในประเทศฟิลิปปินส์

ในแถลงการณ์กล่าวถึงพนักงานในสำนักงานตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์ และ ‘บุคคลที่เกี่ยวข้อง' ที่อาจร่วมมือกระทำการเกินขอบเขตกฎหมายในสงครามปราบปรามยาเสพติด ส่งผลให้พลเรือนเสียชีวิตจำนวนมาก โดยประกาศของ ฟาตู เบนซูดา ถือเป็นการทิ้งทวนหนึ่งวันก่อนพ้นจากตำแหน่งอัยการศาลอาญาระหว่างประเทศ

มาตรการปราบปรามยาเสพติดของฟิลิปปินส์ มีความตึงเครียดและรุนแรง โดยเฉพาะช่วงปี 2016-2019 เมื่อดูเตร์เตชนะการเลือกตั้ง เขาทำตามคำหาเสียงที่ให้ไว้ คือการทำสงครามกับยาเสพติด

รายงานตัวเลขอย่างเป็นทางการระบุว่า นับตั้งแต่กรกฎาคม 2016 มีผู้เสียชีวิตจากการปราบปรามยาเสพติดมากกว่า 6,000 คน ส่วนใหญ่เป็นการวิสามัญโดยเจ้าหน้าที่ จากการลงพื้นที่กว่า 200,000 ครั้ง ซึ่งองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนบางแห่งคาดการณ์ว่า ตัวเลขอาจมีมากกว่าที่ระบุไว้หลายเท่า

ศาลอาญาระหว่างประเทศพยายามตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับสงครามที่เกิดขึ้น จนทำให้ฟิลิปปินส์ขอถอนตัวออกจากธรรมนูญกรุงโรมว่าด้วยศาลอาญาระหว่างประเทศเมื่อปี 2018 และอยู่ในช่วงดำเนินการ 1 ปี จึงพ้นจากการเป็นสมาชิกในปี 2019

หลังการเคลื่อนไหวของศาลอาญาระหว่างประเทศ กระทรวงต่างประเทศฟิลิปปินส์ออกแถลงการณ์โต้ตอบ มีใจความสำคัญว่า รู้สึกผิดหวังเป็นอย่างยิ่งต่อสิ่งที่เกิดขึ้นในครั้งนี้

วันที่ 15 มิถุนายนที่ผ่านมา แฮร์รี่ โรเก (Harry Roque) โฆษกประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ระบุว่า ประธานาธิบดีดูเตร์ เตจะไม่ให้ความร่วมมือกับศาล ในการสอบสวนสงครามยาเสพติดจนกว่าตนจะพ้นจากตำแหน่งผู้นำในวันที่ 30 มิถุนายน 2022

ถ้อยแถลงของเขายืนยันว่าศาลอาญาระหว่างประเทศไม่มีอำนาจศาลในดินแดนฟิลิปปินส์ เนื่องจากฟิลิปปินส์ถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกแล้ว การพยายามเข้ามาในครั้งนี้ของ ICC อาจละเมิดหลักการพื้นฐานการต่อต้านการแทรกแซงทางการเมือง มิชอบด้วยกฎหมาย มีนัยการเมืองแอบแฝง โดยใช้ประเด็นละเอียดอ่อนอย่างเรื่องสิทธิมนุษยชนเข้ามาเกี่ยวข้อง

อย่างไรก็ตาม เบนซูดาชี้แจงเรื่องขอบเขตอำนาจศาลไว้ว่า ICC ยังสามารถสอบสวนคดีอาชญากรรมขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นแบบย้อนหลังได้ มั่นใจว่ามีหลักฐานบ่งชี้ว่า เจ้าหน้าที่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์ และบุคคลที่เกี่ยวข้องอีกจำนวนหนึ่งละเมิดกฎหมาย ก่อการสังหารพลเรือนนับหมื่นราย


มองข้อพิพาทต่อศาลอาญาระหว่างประเทศผ่านคดีต่างๆ

หลายปีที่ผ่านมา ศาลอาญาระหว่างประเทศถูกวิพากษ์วิจารณ์ในหลายแง่ ทั้งความล้มเหลวของการทำงาน การโต้เถียงเรื่องเดิมซ้ำๆ หรือการวนเวียนอยู่กับการไต่สวนคดีแค่เฉพาะบางพื้นที่ ไปจนถึงเรื่องความกังวลต่อการถูกแทรกแซงหรือรับอิทธิพลทางการเมืองระหว่างประเทศ

25 มีนาคม 2016 ศาลอาญาระหว่างประเทศ มีคำพิพากษาให้ ณอง-ปิแอร์ เบมบา (Jean-Pierre Bemba) อดีตรองประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก มีความผิดฐานเป็นผู้ก่ออาชญากรรมสงคราม ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง โดยใช้ความรุนแรงทางเพศเป็นเครื่องมือก่อการสังหารหมู่ และถูกจำคุก 18 ปี

ช่วงที่เบมบามีอำนาจ เป็นผู้นำกองกำลังขบวนการปลดปล่อยคองโก (Congolese Liberation Movement: MLC) เคยสั่งการให้ทหารสังหารหมู่ในสงครามกับแอฟริกากลาง ปล้นสะดม ข่มขืน ส่งผลให้เมื่อถูกนำตัวมาศาล มีพยานและเหยื่อรวมแล้วกว่า 5,000 คน ร่วมเข้าฟังคำพิจารณาคดีด้วย ซึ่งคดีดังกล่าวได้รับเสียงชื่นชมถึงการทำงานของ ICC หลังก่อนหน้านี้เคยถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นศาลที่ตั้งขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ทางการเมือง และสนใจแค่บางประเด็นในบางพื้นที่เท่านั้น

การอพยพของชนกลุ่มน้อยโรฮีนจาในเมียนมามากกว่า 700,000 คน ในปี 2017 จากการถูกกองทัพเมียนมากวาดล้าง ที่ประชุมของศาลอาญาระหว่างประเทศ ได้ปรึกษาถึงขอบเขตประเด็นดังกล่าวพร้อมกับข้อสรุป

แม้เมียนมาไม่ได้เป็นสมาชิกของศาลอาญาระหว่างประเทศ แต่ศาลยืนยันว่ามีอำนาจในการสอบสวนเรื่องนี้ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นนับเป็นอาชญากรรมที่ส่งผลต่อมนุษยชาติแบบมีลักษณะข้ามพรมแดน ผู้อพยพส่วนใหญ่เดินทางข้ามฝั่งไปยังประเทศบังกลาเทศ ซึ่งเป็นสมาชิก ICC อย่างไรก็ตาม ประเด็นดังกล่าวยังไม่คืบหน้าเท่าไรนัก

ปัญหาความขัดแย้งของหลายประเทศกับศาลอาญาระหว่างประเทศ มีมาให้เห็นหลายต่อหลายครั้ง ตั้งแต่การที่สหรัฐฯ เคยระบุว่า ICC มีส่วนบ่อนทำลายอธิปไตย การสอบสวนคดีส่วนใหญ่มักมุ่งเน้นไปยังทวีปแอฟริกาอย่างน่าสงสัย

สหรัฐฯ ยุค ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ถึงขั้นออกคำสั่งคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่ศาลอาญาระหว่างประเทศในแผ่นดินสหรัฐฯ จากการสืบสวนการก่อสงครามในอัฟกานิสถานช่วงปี 2003-2014 พยายามสอบสวนบุคลากรอเมริกันโดยปราศจากความยินยอม รัฐบาลสหรัฐฯ ในช่วงเวลานั้นกล่าวว่ารัสเซียอาจอยู่เบื้องหลังความพยายามสืบสวนเรื่องดังกล่าว

เมื่อ โจ ไบเดน (Joe Biden) เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ เขายกเลิกมาตรการคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่ศาลอาญาระหว่างเทศ ยืนยันว่าจะส่งเสริมความร่วมมือระหว่างสหรัฐฯ กับ ICC

เดือนกรกฎาคม 2020 ชาวอุยกูยร์ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยในประเทศจีน เดินเรื่องยื่นฟ้องต่อศาลอาญาระหว่างประเทศ ในประเด็นที่เจ้าหน้าที่ของจีนประพฤติมิชอบและละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อชาวอุยกูร์ในค่ายกักกันรัฐซินเจียง ที่รัฐบาลจีนเรียกว่า ‘โรงเรียนปรับทัศนคติมุสลิมอุยกูร์’

ผู้ยื่นฟ้องระบุอีกว่า นอกจากเกิดการใช้แรงงานผิดกฎหมาย อีกกิจกรรมหนึ่งที่จะต้องทำเป็นประจำในค่ายกักกัน คือการนั่งฟังบรรยายเพื่อให้ทุกคนรับทราบถึงวัฒนธรรมและความเป็นอยู่ของชาวจีน ปรับทัศนคติ ปรับวิถีชีวิต ศาสนา และชาติพันธุ์ให้เหมือนกับชาวจีน

นอกจากนี้ มีการกล่าวหาว่ารัฐบาลจีนขอความร่วมมือเชิงกดดันให้ประเทศทาจิกิสถาน ที่ตั้งอยู่ในบริเวณเอเชียกลาง และประเทศกัมพูชา ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ให้ส่งตัวชาวอุยกูร์ในพื้นที่เขตแดนของตัวเองกลับสู่ประเทศจีน

การยื่นเรื่องฟ้องร้องกินเวลายาวนานหลายเดือน จนกระทั่งเดือนธันวาคม 2020 ฟาโต เบนซูดา ได้ออกมาชี้แจ้งว่า ศาลไม่สามารถดำเนินการสั่งฟ้องสาธารณรัฐประชาชนจีน กรณีค่ายกักกันอุยกูร์ เนื่องจากประเทศจีนไม่ได้เป็นหนึ่งในผู้ลงนามกับ ICC ทำให้ทางผู้ยื่นฟ้องแย้งประเด็นดังกล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดบนแผ่นดินจีนเท่านั้น และทาจิกิสถานกับกัมพูชาก็เป็นสมาชิกของ ICC แต่เรื่องกลับจบลงเพราะศาลยืนยันว่าไม่สามารถดำเนินการต่อได้

ในเดือนมีนาคม 2021 ศาลอาญาระหว่างประเทศ เตรียมไต่สวนอาชญากรรมสงครามที่ก่อความเสียหายในบริเวณเขตเวสต์แบงก์ และฉนวนกาซา พื้นที่พิพาทระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ ซึ่ง ICC ยืนยันว่าจะเกิดการไต่สวนด้วยความเป็นธรรม และมุ่งเน้นไปยังเรื่องความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับประชาชนจำนวนมาก

ด้านปาเลสไตน์และกลุ่มฮามาสต่างออกแถลงการณ์ชื่นชมการทำงานของ ICC ยืนยันขึ้นศาลเพื่อแก้ต่างในทุกประเด็น ส่วนด้าน เบนจามิน เนทันยาฮู (Benjamin Netanyahu) นายกรัฐมนตรีอิสราเอลขณะนั้น ระบุว่า พร้อมโต้แย้งทุกข้อกล่าวหาของกลุ่มฮามาส เนื่องจากอิสราเอลเป็นฝ่ายถูกโจมตี ก่อนมองว่า การตัดสินใจของศาลอาญาระหว่างประเทศ อาจเป็นกระบวนการสำคัญของลัทธิต่อต้านยิว

ส่วน กมลา แฮร์ริส (Kamala Harris) รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศจุดยืนว่าไม่เห็นด้วยกับการเปิดการไต่สวนอาชญากรรมสงครามในดินแดนปาเลสไตน์ เนื่องจาก ICC ไม่มีอำนาจที่จะทำได้

Irishtimes เคยกล่าวถึงปัญหาเรื่องชาติสมาชิก ICC ตามทฤษฎีแล้ว ขอบเขตอำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศถือเป็นสากล แต่ในทางปฏิบัติศาลสามารถเข้ามามีส่วนร่วมได้แค่เฉพาะชาติที่ร่วมภาคี และศาลจะพิจารณาคดีในรัฐที่ไม่ได้เป็นสมาชิกก็ต่อเมื่อ รัฐที่ไม่ใช่ภาคียอมรับขอบเขตอำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศ จากนั้นคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ จะส่งต่อเรื่องต่อไปยังศาลอาญาระหว่างประเทศ โดยมีข้อตกลงว่ารัฐที่เกี่ยวข้องต้องยอมรับข้อกำหนดของกฎหมายระหว่างประเทศ

มุมมองเรื่องความเที่ยงตรงของศาลอาญาระหว่างประเทศ จะยังคงถูกพูดถึงไปตลอด เนื่องจากการตีความและมุมมองของหลายคนต่างมองคดีที่เกิดขึ้นแตกต่างกัน


อ้างอิง:
theguardian.com
twitter.com/inquirerdotnet
aljazeera.com
irishtimes.com
senate.go.th
aljazeera.com

Adblock test (Why?)


'ศาลอาญาระหว่างประเทศ' ผู้ช่วยเหลือมนุษยชาติ หรือเครื่องมือทางการเมือง? - ไทยรัฐ
Read More

ล่าชื่อปลด "หมอยง" จาก หน.ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาฯ - ประชาชาติธุรกิจ

หมอยงโดนล่าชื่อถอดถอน
ภาพจากมติชน

หมอยงงานเข้า ผู้ใช้นามแฝงแพทย์คนหนึ่งในประเทศไทย สร้างแคมเปญผ่าน Change.org ร้องเรียนจุฬาฯ ปลดออกจากตำแหน่งหัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก

วันที่ 28 มิถุนายน 2564 ผู้ใช้นามแฝงว่า แพทย์คนหนึ่งในประเทศไทย ได้สร้างแคมเปญรณรงค์ผ่าน Change.org ร้องเรียน Chulalongkorn University และผู้มีอำนาจตัดสินใจอื่นอีก 1 คน ให้ปลด นพ​.​ยง ภู่วรวรรณ ออกจากตำแหน่งหัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ให้เหตุผลว่า มีความเห็นในด้านวัคซีนที่ผิดเพี้ยนไปจากบทความทางวิชาการ ข้อความทั้งหมดมีดังนี้

เนื่องด้วยสถานการณ์ Covid-19 ที่กำลังระบาดอยู่ในประเทศไทยและทั่วโลก ปัจจุบันมีผลการศึกษาเกี่ยวกับประสิทธิภาพของวัคซีนออกมามากมายหลายชนิด และทางแพทย์รวมถึงประชาชนทั่วไปได้รับทราบถึงประสิทธิภาพของวัคซีนชนิดต่าง ๆ มากมาย ผ่านบทความทางวิชาการ ผ่านข่าวสารทั้งในและต่างประเทศมากมาย

และผลการศึกษานั้น ยังได้บ่งบอกถึงประสิทธิภาพของวัคซีนชนิดต่าง ๆ ตั้งแต่ Sinovac ที่ไม่สามารถลดอัตราการแพร่เชื้อ ในประเทศชิลี ตุรกี บราซิล และอินโดนิเซียได้ โดยทั้ง 4 ประเทศที่ใช้ Sinovac เป็นวัคซีนหลัก ยังไม่สามารถลดจำนวนผู้ป่วยใหม่ลงได้ เช่นในประเทศชิลี ที่มีอัตราการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มไปแล้ว ถึง 50% แต่ก็ยังมีจำนวนผู้ป่วย Covid-19 รายใหม่ไม่ได้ลดลงเลย และในประเทศอินโดนิเซีย ยังมีรายงานว่าบุคลากรทางการแพทย์จำนวนมากยังมีการติดเชื้อ Covid-19 อยู่ ทั้ง ๆที่ได้รับวัคซีน Sinovac ครบ 2 เข็มไปแล้ว

ในทางกลับกัน วัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูง เช่นวัคซีน mRNA ของบริษัท Pfizer หรือ Moderna ก็ได้มีบทความทางวิชาการและสถิติที่ชัดเจนว่าสามารถลดอัตราการแพร่กระจายเชื้อได้เป็นอย่างดี ถึงแม้จะมีการฉีดวัคซีนที่ครบ 2 เข็มเพียง 50% เท่านั้น และในบางประเทศ ประชาชนสามารถที่จะใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงกับปรกติแล้ว

และเมื่อกล่าวถึง นพ. ยง ภู่วรวรรณ ที่เป็นตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาสถานการณ์โรคระบาดโควิด 19 ให้กับรัฐบาลพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับมีความเห็นในด้านวัคซีนที่ผิดเพี้ยนไปจากบทความทางวิชาการ และหลายต่อหลายครั้งที่สนับสนุนวัคซีนที่ด้อยประสิทธิภาพอย่าง Sinovac โดยไม่มีหลักฐานทางวิชาการมารองรับ

ยกตัวอย่างเช่น 1.ระยะห่างในการฉีดวัคซีน Astrazeneca ที่ตามคำแนะนำให้ฉีด 2 เข็มห่างกัน 12 สัปดาห์ แต่นายแพทย์ยงกลับแนะนำให้ฉีดห่างกัน 16 สัปดาห์ โดยไม่มีข้อสนับสนุนทางวิชาการ

2.ประสิทธิภาพของวัคซีน Sinovac เข็มที่ 3 ที่ไม่มีการศึกษาวิจัยเลย มีแต่คำพูดของประธานบริษัทผู้ผลิต Sinovac ที่กล่าวอ้างว่าอาจจะมีประสิทธิภาพดี แต่ นายแพทย์ยง กลับนำเรื่องการฉีดวัคซีน Sinovac เข็มที่ 3 มาให้คำแนะนำกับประชาชน ทั้งๆที่ไม่เคยมีหลักฐานทางวิชาการมาก่อนเลย

3.นายแพทย์ยง ไม่เคยแนะนำให้ประเทศนำเข้าวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูงเข้ามาในประเทศ ทั้ง ๆ ที่ผลการศึกษาเกี่ยวกับประสิทธิภาพของวัคซีนแตกต่างกันอย่างชัดเจน และราคาก็ไม่ได้แตกต่างกัน แต่ยังคงออกมาปกป้องวัคซีน Sinovac โดยที่ไม่มีหลักฐานทางวิชาการเพียงพอ

ในฐานะที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นสถาบันหลักของประเทศชาติในการดำรงไว้ซึ่งหลักการทางวิทยาศาสตร์ที่ถูกต้อง จึงขอเรียกร้องให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ดำเนินการกับแพทย์ที่ไม่ทำตามหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ แพทย์ไม่ทำตามผลการศึกษาที่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ แพทย์ที่ขายจรรยาบรรณของตนเองเพื่อรับใช้ทางการเมือง เพื่อให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นมหาวิทยาลัยที่คงไว้ซึ่งความตรงไปตรงมาตามหลักการทางวิทยาศาสตร์ต่อไป

Adblock test (Why?)


ล่าชื่อปลด "หมอยง" จาก หน.ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาฯ - ประชาชาติธุรกิจ
Read More

Sunday, June 27, 2021

ไทยยูเนี่ยน จับมือ วีฟู้ดส์ ขยายธุรกิจอาหารทางเลือกจากพืช Plant-Based - ประชาชาติธุรกิจ

ไทยยูเนี่ยนจับมือวีฟู้ดส์ ขยายธุรกิจอาหารทางเลือกจากพืช ตั้งเป้าลุยตลาดใน-ต่างประเทศ

วันที่ 28 มิถุนายน 2564 ผู้สื่อข่าว ”ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่าบริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และ บริษัท วี ฟู้ดส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศความร่วมมือในธุรกิจ Plant-Based Food อาหารทางเลือกจากพืชร่วมกัน โดยได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือในการพัฒนาธุรกิจโปรตีนทางเลือกจากพืชร่วมกัน

ความร่วมมือดังกล่าวยังครอบคลุมถึงการศึกษาโอกาสและความเป็นไปได้ในการผลิตสินค้าต่างๆ ของบริษัท วี ฟู้ดส์ด้วยเทคโนโลยีและฐานกำลังผลิตของไทยยูเนี่ยน ตลอดจนความร่วมมือในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ร่วมกัน นอกจากนี้ไทยยูเนี่ยนและวี ฟู้ดส์ยังเล็งเห็นโอกาสในการร่วมมือกันขยายตลาดไปยังช่องทางต่างๆ ที่แต่ละบริษัทมีความเชี่ยวชาญ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ไทยยูเนี่ยนให้ความสำคัญกับนวัตกรรมในการดำเนินธุรกิจมาโดยตลอด ผลิตภัณฑ์โปรตีนทางเลือกนับเป็นหนึ่งในสินค้านวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี ไทยยูเนี่ยนมีความยินดีที่ได้จับมือกับวี ฟู้ดส์ ซึ่งมีวิสัยทัศน์ในการดำเนินธุรกิจอาหารไปในแนวทางเดียวกับเรา และพร้อมเดินหน้าร่วมมือขยายความร่วมมือและโอกาสทางธุรกิจต่อไป

นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท วี ฟู้ดส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทวีฟู้ดส์ให้ความสำคัญกับนวัตกรรมในการดำเนินธุรกิจตั้งแต่การวิจัยพัฒนาและส่งเสริมเครือข่ายเกษตรกรในการจัดหาวัตถุดิบที่มีคุณภาพในการผลิตสินค้าคุณภาพ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพและมีส่วนร่วมในการดูแลสิ่งแวดล้อมด้วยการเลือกบริโภคอาหารที่มีความยั่งยืน

“บริษัทมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้มีโอกาสร่วมทำงานกับบริษัทไทยยูเนี่ยนในการพัฒนาตลาดโปรตีนทางเลือกจากพืช และอาหารทางเลือกจากพืชพร้อมทานจากประเทศไทยให้เติบโตและขยายตลาดสู่ต่างประเทศ”

Adblock test (Why?)


ไทยยูเนี่ยน จับมือ วีฟู้ดส์ ขยายธุรกิจอาหารทางเลือกจากพืช Plant-Based - ประชาชาติธุรกิจ
Read More

นักวิชาการ มธ. เสนอกลไกทางเลือกแก้ PM 2.5 - ไทยโพสต์

นักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อม ม.ธรรมศาสตร์ แนะ ควรให้ ‘อำนาจสั่งการ’ คกก.อากาศสะอาด ดำเนินมาตรการข้ามหน่วยงาน พร้อม ‘บูรณาการงบประมาณ’ ตามภารกิจ...