Rechercher dans ce blog

Thursday, November 30, 2023

"เศรษฐกิจไทย" จุดอ่อนสำคัญและช่องทางแก้ไข - กรุงเทพธุรกิจ

ข่าวที่ได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นอันมากในช่วงนี้คือ สถิติที่สำนักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รายงานออกมาว่า ผลผลิตมวลรวมประชาชาติ (GDP) ของไทยขยายตัวในอัตราที่ชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่องในไตรมาสที่ 1, 2 และ 3 ของปีนี้ ที่ 2.6%, 1.8% และ 1.5% ตามลำดับ 

ทั้งนี้ ในระยะ 20 ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจไทยโดยเฉลี่ยก็ได้ขยายตัวช้าลงตลอดมาจาก 5.62% ต่อปีในปี 2546-2550 เป็น 3.30% ต่อปีในปี 2551-2555, 2.88% ต่อปีในปี 2556-2560 และ 0.86% ต่อปีในปี 2561-2565 เนื่องจากในยุคของโลกาภิวัตน์ดังเช่นปัจจุบัน ก่อให้เกิดการแข่งขันระหว่างประเทศเป็นอันมาก 

บทความนี้จึงมีจุดประสงค์ที่จะประเมินดูว่า ที่ผ่านมาไทยมีวิวัฒนาการของโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจไทยระยะยาวเป็นอย่างไรบ้าง เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย และเวียดนาม 

อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจโดยเฉลี่ยในแต่ละช่วง 5 ปีที่ผ่านมาตามที่แสดงในตารางที่ 1 ชี้ว่าไทยคงประสบอุปสรรคขั้นพื้นฐานบางประการที่ทำให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวช้าลงอย่างต่อเนื่อง หรือขาดความยืดหยุ่นที่พอจะมีบ้างในประเทศเพื่อนบ้าน

บางฝ่ายอาจตั้งประเด็นคำถามไว้ 2 ด้านด้วยกันว่า เศรษฐกิจไทยกำลัง “โตต่ำกว่าศักยภาพ” หรือ “ศักยภาพของเศรษฐกิจไทยโตต่ำลง” 

เพื่อตอบคำถามเหล่านี้ บทความนี้จึงเพ่งความสนใจไปที่ (ก) ค่าใช้จ่ายด้านการลงทุน (เพราะการลงทุนช่วยสร้างศักยภาพ) และ (ข) ทรัพยากรมนุษย์ (เพราะมีบทบาทที่สำคัญทั้งในการใช้และ/หรือเปลี่ยนแปลงระดับของศักยภาพ)

อัตราส่วนที่แสดงในตารางที่ 2 ชี้ให้เห็นว่า สัดส่วนการลงทุนที่แท้จริงของไทย (โดยเฉพาะประเภท FDI) ได้ลดลงมากกว่าประเทศเพื่อนบ้านอย่างชัดเจน โดยเฉพาะตั้งแต่วิกฤตการณ์แฮมเบอร์เกอร์ในสหรัฐและวิกฤติโควิด-19 การลดลงของสัดส่วนการลงทุนนี้ ย่อมส่งผลลบต่อศักยภาพของเศรษฐกิจไทยอย่างแน่นอน 

"เศรษฐกิจไทย" จุดอ่อนสำคัญและช่องทางแก้ไข

แต่เพื่อเป็นการยืนยันข้อสรุปเช่นนั้น เราควรพิจารณามุมมองของชาวต่างชาติบ้างว่า มองทรัพยากรมนุษย์ของไทยอย่างไร เพราะทรัพยากรมนุษย์เป็นปัจจัยที่สำคัญเป็นอันมากแก่การลงทุน และจะส่งผลกระทบต่อความสามารถของไทยในการแข่งขันในโลกยุคดิจิทัลเช่นนี้อย่างแน่นอน 

จากผลการศึกษาของสถาบัน INSEAD ในฝรั่งเศส ดัชนี Global Talent Competitiveness Index (GTCI) ในปี 2566 สามารถช่วยวัดศักยภาพของแรงงานและบุคลากรระดับสูงได้ในหลายด้าน เช่น ทักษะ การเรียนรู้ ทักษะวิชาชีพ และเทคนิค ความสามารถในการใช้ดิจิทัลเทคโนโลยี การส่งเสริมความยั่งยืนและทันสมัยของความรู้และทักษะเหล่านั้น 

สำหรับตารางที่ 3 แสดงผลการคำนวณดัชนี GTCT และรวมคะแนน พร้อมทั้งจัดอันดับของศักยภาพของแรงงาน/บุคลากรใน 134 ประเทศทั่วโลก พบว่าจุดอ่อนสำคัญของเศรษฐกิจไทย คือ ทรัพยากรมนุษย์ และมี 2 ช่องทางหลักที่จะช่วยแก้ไขจุดอ่อนนี้ ได้แก่ (1) การปฏิรูปการศึกษา (2) การส่งเสริมงานวิจัยและพัฒนา (R&D)

"เศรษฐกิจไทย" จุดอ่อนสำคัญและช่องทางแก้ไข

การปฏิรูปการศึกษานั้น ไทยได้พยายามทำมาหลายทศวรรษแล้วแต่ก็ยังอยู่ภายใต้โครงสร้างพื้นฐานเดิม เช่น แบ่งแยกแผนกออกเป็นวิทยาศาสตร์และศิลปศาสตร์ ตามรูปแบบของประเทศอังกฤษ ทั้งๆ ที่ควรกระจายความรู้ให้กว้างขึ้นตามรูปแบบของสหรัฐ

นักศึกษาที่จะประสบความสำเร็จในการทำงานในยุคปัจจุบัน ควรมีความเชี่ยวชาญในหลายสาขานอกเหนือจากภาษาอังกฤษ เช่น STEM (Science, Technology, Engineering, Mathematics) และดิจิทัลเทคโนโลยี นอกจากนั้นในช่วงปลายการศึกษาก็ควรเสริมด้วยการฝึกงาน (Training) กับบริษัทเอกชนด้วย เพื่อเพิ่มทักษะและสร้างความมั่นใจให้แก่ทั้งสองฝ่าย 

การประสานงาน (Collaboration) นี้เป็นสิ่งที่ทางรัฐควรผลักดันและ/หรือจูงใจงาน R&D ให้ไปในทิศทางที่เหมาะสมด้วย เพื่อที่จะสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ขึ้นมาและ/หรือสามารถตอบโจทย์ความต้องการที่แท้จริงของภาคเอกชนและสังคมในโลกปัจจุบัน 

ข้อเสนอเกี่ยวกับการปรับปรุงแก้ไขหรือปฏิรูประบบการศึกษา และสนับสนุน R&D ของไทยนี้ อาจฟังดูไม่น่าเชื่อถือหรือนำไปปฏิบัติอย่างแท้จริงไม่ได้ แต่เมื่อเปรียบเทียบสัดส่วนการลงทุนใน R&D/GDP ของไทยในปี 2565 (0.63%) กับของสิงคโปร์ (2.22%) ญี่ปุ่น (3.17%) เกาหลีใต้ (4.84%) และสหรัฐ (3.05%) แล้ว 

จะเห็นได้ชัดว่า การปรับปรุงแก้ไขระบบการศึกษาและ R&D ของไทยตามข้อเสนอแนะข้างต้นเป็นสิ่งที่ทำได้จริง หากรัฐพยายามเชื่อมการศึกษาและ R&D ให้ใกล้ชิดกับบริษัทเอกชนมากขึ้น ตัวอย่างเช่น การจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ร่วมกันระหว่างมหาวิทยาลัยและบริษัทเอกชน และเน้นกรณีศึกษาที่เกิดขึ้นจริง

นอกจากนั้น ไทยยังสามารถเรียนรู้จากประสบการณ์ของต่างประเทศที่ประสบความสำเร็จ ในการปฏิรูประบบการศึกษาและ R&D ด้วย

การยกระดับศักยภาพของแรงงานและบุคลากร จะเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน ผลพลอยได้หนึ่งที่จะได้รับจากความพยายามที่กล่าวข้างต้น คือ ช่วยลดความเหลื่อมล้ำของการกระจายรายได้.

Adblock test (Why?)


"เศรษฐกิจไทย" จุดอ่อนสำคัญและช่องทางแก้ไข - กรุงเทพธุรกิจ
Read More

Wednesday, November 29, 2023

ทอ. จัดใหญ่พร้อมเชิญเข้าชม การแข่งขันการปฏิบัติการทางอากาศยุทธวิธี 2567 - ไทยรัฐ

กองทัพอากาศ จัดใหญ่การสาธิตการใช้กำลังทางอากาศ ในพิธีเปิดการแข่งขันการปฏิบัติการทางอากาศยุทธวิธี ประจำปี 2567 พร้อมเชิญชวนเข้าชมการสาธิตการปฏิบัติการครั้งนี้

Adblock test (Why?)


ทอ. จัดใหญ่พร้อมเชิญเข้าชม การแข่งขันการปฏิบัติการทางอากาศยุทธวิธี 2567 - ไทยรัฐ
Read More

'เอสโซ่' ขอบคุณคนไทยตลอด 129 ปี ยุติช่องทางสื่อสารลูกค้า 1 ธ.ค. - กรุงเทพธุรกิจ

รายงานข่าวระบุว่า "เอสโซ่" ได้สื่อสารผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียว่า ขอแจ้งปิดบริการ LINE Official : Esso Thailand และเว็บไซ์ www.essosmiles.com/th ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2566 เป็นต้นไป พร้อมขอบคุณคนไทยที่เคียงข้างกันมาตลอด 129 ปี ยุติช่องทางสื่อสารลูกค้า 1 ธ.ค.2566 เป็นต้นไป พร้อมข้อความระบุว่า "อย่าลืมโอนคะแนนและสมัครสมาชิกบางจากกรีนส์กันนะ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อลูกค้าเอสโซ่คลิกเข้าไปที่ลิ๊งที่ระบุไว้ก็จะเข้าสู่แอพพลิเคชั่นของบางจากเพื่อดำเนินการสมัครสมาชิกและโอนคะแนนพร้อมรับทราบข้อมูลสิทธิพิเศษต่าง ๆ แทน

'เอสโซ่' ขอบคุณคนไทยตลอด 129 ปี ยุติช่องทางสื่อสารลูกค้า 1 ธ.ค.

รายงานข่างระบุว่า ภายหลังจากที่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ดำเนินการชำระราคาซื้อขายหุ้นสามัญของบริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (เอสโซ่) จำนวน 2,283,750,000 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 65.99 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดของบริษัทเอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เสร็จสิ้นในราคาประมาณ 9.8986 บาทต่อหุ้นเมื่อปลายเดือนสิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา

บางจาก ได้ทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ที่เหลือทั้งหมดของ เอสโซ่ (ประเทศไทย) อีกร้อยละ 34.01 โดยกำหนดระยะเวลาทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ตั้งแต่ วันที่ 8 กันยายน ถึง 12 ตุลาคม 2566 พร้อมเข้าดำเนินการโรงกลั่นน้ำมันขนาดกำลังการกลั่น 174,000 บาร์เรลต่อวัน รวมโรงกลั่นบางจากพระโขนงและโรงกลั่นบางจาก ศรีราชา จะมีกำลังการกลั่นน้ำมันสูงสุดในประเทศรวมเกือบ 300,000 บาร์เรลต่อวัน พร้อมเครือข่ายคลังน้ำมันและสถานีบริการน้ำมันทั่วประเทศกว่า 800 แห่ง รวมกันกว่า 2,200 แห่ง

การที่บางจากรับโอนใบหุ้นจากการซื้อหุ้นเอสโซ่สำเร็จ ส่งผลให้เวลา 00.01 น.วันที่ 1 ก.ย.2566 น้ำมันในปั๊มเอสโซ่ได้เปลี่ยนเป็นสูตรบางจาก โดยสังเกตจากสติกเกอร์ที่หัวจ่าย ส่วนปั๊มจะใช้เวลาเปลี่ยนผ่าน 2 ปี โดยปั๊มที่เอสโซ่ลงทุนบริหารเอง 280 จะรีแบรนด์ทันทีภายในปีนี้ อาจเริ่มจากสาขาพระราม 4 ก่อน ส่วนที่เป็นดีลเลอร์กว่า 500 สาขา จะต้องดูสัญญา และเชิญชวนให้เปลี่ยนมาเป็นแบรนด์บางจาก ซึ่งจะใช้เวลารีแบรนด์ทั้งหมดภายใน 2 ปี

ส่วนลูกค้าเอสโซ่ซึ่งเป็นสมาชิกบัตรเอสโซ่สไมลส์สามารถสะสมคะแนนและแลกคะแนนเอสโซ่สไมล์ได้อีก 1 ปีจนถึงวันที่ 31 ส.ค. 2567 ภายใต้บัตรเดิม หรือสามารถโอนคะแนนสะสมมาเป็นสมาชิกบางจากกรีนไมลส์ โดยจะได้รับคะแนนโบนัสพิเศษเพิ่ม 100 คะแนน หากทำการโอนย้ายคะแนนภายในวันที่ 30 พ.ย. 2566 

ล่าสุด วันที่ 30 พ.ย. 2566 เอสโซ่ จึงได้ใช้ช่องทางการสื่อสารผ่านออนไลน์เพื่อแจ้งปิดการใช้บริการในการสื่อสารทุกแพลตฟอร์มกับลูกค้าอย่างเป็นทางการวันที่ 1 ธ.ค. 2566 และให้ลูกค้าติดตามและรับข้อมูลต่าง ๆ บนแพลตฟอร์มของบางจากแทน

Adblock test (Why?)


'เอสโซ่' ขอบคุณคนไทยตลอด 129 ปี ยุติช่องทางสื่อสารลูกค้า 1 ธ.ค. - กรุงเทพธุรกิจ
Read More

เบ๊น อาปาเช่ เจอแท็กซี่จอดกลางทาง บอกขับไม่ไหว สุดท้ายสลับบทกันเฉย พีกมาก! - Sanook

จบพีก! เบ๊น อาปาเช่ เจอแท็กซี่จอดกลางทาง บอกขับต่อไม่ไหว สุดท้ายสลับบทกันเฉย แซวตัวเองชีวิตเจอแต่คอนเทนต์

เป็นเรื่องที่ชาวเน็ตแชร์และคอมเมนต์กันอย่างมาก หลัง นายอัครเดช โยธาจันทร์ หรือ เบ๊น อาปาเช่ ยูทูบเบอร์และอินฟลูเอนเซอร์คนดัง ได้โพสต์เฟซบุ๊ก Benz Apache - เบ๊น อาปาเช่ เป็นภาพถ่ายเซลฟี่กับโชเฟอร์แท็กซี่สูงอายุ ตอนแรกก็เป็นผู้โดยสารนั่งเบาะหลังตามปกติ ก่อนจะสลับหน้าที่ไปเป็นคนขับ และให้โชเฟอร์มานั่งเบาะหลังแทน พร้อมเล่าประสบการณ์นั่งแท็กซี่สุดพีกของตัวเอง โดยระบุว่า 

"ชีวิตเจอแต่คอนเท้น
นั่งรถลุงไปสักพักแกบอกวันนี้ยังไม่ได้พักเลยปวดขามากขอจอดพักแปป แล้วแกถามว่าจะเปลี่ยนคันใหม่หรือจะขับเอง น้องขับได้ไหม ?!?
อืม งั้นลุงไปนั่งหลังละกันเดี๋ยวขับให้"

พร้อมระบุเพิ่มเติมภายหลังว่า "ถึงบ้านแล้วครับ เสร็จจากคนนี้น้าบอกกลับบ้านพักผ่อนเลย แกอายุ 65 แล้วครับ แกน่ารักดี รถแกเกียร์กระปุกด้วยครับ คลัชแข็งมาก รถติดๆ ในเมืองขับทั้งวันถึงเป็นงี้"

อย่างไรก็ตาม ชาวเน็ตต่างเข้ามาชื่นชมน้ำใจของ เบ๊น อาปาเช่ ที่มีน้ำใจต่อผู้อื่น เข้าใจลุงคนขับซึ่งน่าจะมีปัญหาสุขภาพแต่ยังต้องออกมาทำงานหาเลี้ยงชีพ ถ้าเป็นคนอื่นอาจจะด่าลุงไปแล้ว บ้างก็เข้ามาแซวว่า ให้หารค่ารถกับลุงบ้าง หรือไม่ก็บอกให้ขับไปส่งลุงที่บ้าน ขณะที่บางคอมเมนต์ก็เตือนด้วยความปรารถนาดีว่าที่ต่างประเทศมีกรณีคล้ายแบบนี้ พอสบโอกาสก็เอามีดจี้ผู้โดยสารที่มาเป็นคนขับ 

ต่อมา มีเพื่อนบ้านของลุงแท็กซี่คนดังกล่าวได้เข้ามาคอมเมนต์ พร้อมบอกว่า ลุงเป็นคนน่ารักแต่ขาไม่ค่อยดี ตามที่เบ๊นเล่าในเพจจริงๆ

Adblock test (Why?)


เบ๊น อาปาเช่ เจอแท็กซี่จอดกลางทาง บอกขับไม่ไหว สุดท้ายสลับบทกันเฉย พีกมาก! - Sanook
Read More

Tuesday, November 28, 2023

เคทีซี จับมือพันธมิตร เปิดมุมมองพลังงานทางเลือก เป็นพลังงานทางรอด สู่ความยั่งยืน - ไทยรัฐ

เคทีซี จับมือ กรมพัฒนาพลังงานทดแทนฯ และเอสซีจี เปิดเวทีเสวนา "ถึงเวลาพลังงานทางเลือก เป็นพลังงานทางรอด" แนวโน้มของการใช้งานรถพลังงานไฟฟ้าและโซลาร์เซลล์ในประเทศไทย

วันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 มีรายงานว่า เคทีซี จัดงานเสวนา KTC FIT Talks ครั้งที่ 10 ในหัวข้อ "ถึงเวลาพลังงานทางเลือก เป็นพลังงานทางรอด" เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับประชาชน โดยเชิญตัวแทนภาครัฐและภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับพลังงานทดแทน ร่วมเปิดมุมมองต่อพลังงานทางเลือก แนวโน้มของการใช้งานรถพลังงานไฟฟ้าและโซลาร์เซลล์ในประเทศไทย รวมถึงโอกาสในการเข้าถึงพลังงานทางเลือกในระดับครัวเรือน และสิทธิพิเศษเพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายสมาชิกบัตรเครดิตและผู้บริโภค

นายวัชรินทร์ บุญฤทธิ์ ผู้อำนวยการกองพัฒนาพลังงานแสงอาทิตย์ กรมพัฒนาพลังงานทดแทน และอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) กล่าวว่า พลังงานทดแทน คือพลังงานที่ทดแทนพลังงานฟอสซิล ซึ่งปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้โลกร้อน ส่วนพลังงานทดแทนคือพลังงานที่ไม่ปล่อยคาร์บอน หมุนเวียนได้ ใช้แล้วไม่มีวันหมดไป เช่น โซลาร์ รูฟ (Solar Roof) ที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ เป็นสิ่งที่ประชาชนเข้าถึงได้ง่ายและใกล้ตัวที่สุด ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงพลังงานได้นำพลังงานทดแทนเข้ามาใช้ ในสัดส่วนประมาณ 15% ของพลังงานไฟฟ้า และพยายามเพิ่มสัดส่วนพลังงานทดแทนให้มากขึ้น 

ขณะเดียวกัน ภาคเอกชนเองก็พยายามใช้พลังงานทดแทนด้วยการติดโซลาร์ รูฟท็อป บริเวณหลังคาโรงงานกันมากขึ้น เนื่องจากช่วยลดค่าใช้จ่าย ซึ่งมีข้อดี คือ ช่วยในเรื่องสิ่งแวดล้อม ช่วยลดต้นทุน เช่นเดียวกับการใช้รถไฟฟ้า ก็จะช่วยสิ่งแวดล้อมได้เช่นกัน

"กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน ดำเนินการส่งเสริม สนับสนุนการผลิตและการใช้พลังงานทดแทนอย่างต่อเนื่อง ตามแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก พ.ศ. 2561-2580 (AEDP 2018) โดยกำหนดเป้าหมายการใช้พลังงานทดแทนที่ร้อยละ 30 ภายในปี พ.ศ. 2580 และมุ่งให้ความสำคัญกับการพัฒนาพลังงานทดแทน ทั้งในส่วนของพลังงานไฟฟ้า พลังงานความร้อน และเชื้อเพลิงในภาคขนส่ง ซึ่งขับเคลื่อนผ่านมาตรการต่างๆ"

นายวัชรินทร์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ กระทรวงพลังงานยังจัดทำแผนพลังงานชาติฉบับใหม่ ที่มีเป้าหมายการมุ่งสู่ Carbon Neutrality 2050 หรือความเป็นกลางทางคาร์บอน ซึ่งหมายถึงการลด ดูดซับ หรือชดเชยคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ในปริมาณที่เท่ากับการปล่อย CO2 ตามกรอบแผนพัฒนาพลังงานชาติ (National Energy Plan) ซึ่งกำหนดเป้าหมายการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนไว้ที่สัดส่วนไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 โดยมุ่งเพิ่มการใช้พลังงานทดแทน ส่งเสริมการประหยัดพลังงานให้เข้มข้นมากขึ้น รวมทั้งมีนโยบายส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้า ภายใต้ขอบเขตของการร่วมมือในการพัฒนาส่งเสริมการใช้พลังงานทางเลือกระหว่างภาครัฐและเอกชนที่สามารถร่วมกันเพื่อขับเคลื่อนสังคม พร้อมส่งเสริมการใช้พลังงานทางเลือกในบริบทต่างๆ เช่น การส่งเสริมการลงทุนในธุรกิจสีเขียว การใช้พลังงานสะอาดให้มากขึ้น รวมถึงการแลกเปลี่ยนความรู้ ความเชี่ยวชาญและมุมมองความต้องการในเชิงธุรกิจ

นายสุวัฒน์ เทพปรีชาสกุล ผู้บริหารสูงสุด ฝ่ายการตลาดบัตรเครดิต "เคทีซี" หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เคทีซีตระหนักและให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจภายใต้ ESG หรือแนวคิดการดำเนินธุรกิจที่มุ่งเน้นความยั่งยืนมาตลอด ซึ่งหนึ่งในนั้นคือเรื่องของการร่วมสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับสังคมไทยเพื่อส่งต่อให้กับคนรุ่นหลัง และพลังงานทางเลือกจากธรรมชาติกำลังเป็นความจำเป็นที่เข้ามาทดแทนพลังงานแบบเดิม เราจึงพยายามวางแผนกลยุทธ์การตลาดต่างๆ เพื่อร่วมขับเคลื่อนให้คนไทยและสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซีที่สนใจเรื่องของพลังงานทดแทน สามารถเข้าถึงและจับต้องได้ 

โดยเฉพาะตลาดยนต์ไฟฟ้า หรือ รถยนต์ EV ซึ่งในประเทศไทยมีหลักๆ อยู่ 3 ประเภท ได้แก่ 1. BEV (Battery Electric Vehicle) 2. HEV (Hybrid Electric Vehicle) และ 3. PHEV (Plug-in Hybrid Vehicle) จากการศึกษาพบว่าตลาดรถยนต์ไฟฟ้าได้รับความนิยมสูงขึ้นเรื่อยๆ และฐานข้อมูลการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเคทีซีในหมวดรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า (Electronic Vehicle – EV) ตั้งแต่ต้นปี 2566 ถึงปัจจุบัน ยังพบว่ามีการเติบโตต่อเนื่องถึง 60% และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ EV / เครื่องชาร์จระบบรถยนต์ไฟฟ้า ตลอดจนประกันภัย สำหรับรถยนต์ EV โดยเฉพาะ และพร้อมมองหาโอกาสในการต่อยอดเพื่อเป็นหนึ่งในการสรรค์สร้างสังคมสู่ความยั่งยืนต่อไป

นายวชิระชัย คูนำวัฒนา Head of Smart System Solution Business ในธุรกิจซีเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี กล่าวว่า จากเมกะเทรนด์ ที่ผลักดันให้ระบบโซลาร์ได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความต้องการใช้รถไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้น เทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ประสิทธิภาพของวัสดุอุปกรณ์ของระบบดียิ่งขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนของระบบโซลาร์ต่ำลง และเข้าถึงง่ายมากยิ่งขึ้น ซึ่งในปัจจุบันระบบโซลาร์แบบออนกริด (On-Grid) ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจาก คืนทุนรวดเร็วที่สุด และสามารถขายคืนการไฟฟ้าในโครงการโซลาร์ภาคประชาชน หากต้องการติดตั้งระบบโซลาร์ นอกเหนือจากพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าของเจ้าของบ้านแล้ว ควรพิจารณาถึงมาตรฐานของอุปกรณ์ในระบบ ผู้ให้บริการติดตั้งที่เชื่อถือได้ เพื่อการดูแลในระยะยาว ซึ่งเอสซีจี โซลาร์รูฟ โซลูชัน ได้พัฒนาสินค้านวัตกรรมให้มีคุณภาพและบริการให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อขับเคลื่อนและผลักดันให้พลังงานสะอาดสามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายยิ่งขึ้น

นายณัฐสิทธิ์ สุนทราณู ผู้บริหารสูงสุด ฝ่ายการตลาดบัตรเครดิต "เคทีซี" หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า อีกมุมหนึ่งของการดำเนินธุรกิจที่เคทีซีคำนึงถึงมาโดยตลอด คือการบูรณาการกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน ภายใต้กรอบความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจต่างๆ ที่มีการดำเนินงานให้สอดคล้องสนับสนุนในทุกมิติ ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคมและธรรรมาภิบาล โดยเคทีซีได้คัดสรรสิทธิประโยชน์ที่เหมาะสม คุ้มค่าและตรงกับความต้องการของสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซีเป็นสำคัญ ซึ่งเรื่องของที่พักอาศัยถือเป็นปัจจัยหลักพื้นฐานของมนุษย์

ทั้งนี้ เคทีซีจึงจัดเตรียมสิทธิพิเศษที่ช่วยตอบโจทย์แนวคิดและวิถีชีวิตไลฟ์สไตล์ส่วนใหญ่ของสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซีที่เป็นคนรุ่นใหม่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังมองหาความคุ้มค่าในการใช้จ่ายอย่างชาญฉลาด เพื่อให้สมาชิกเคทีซีและผู้บริโภคสามารถเข้าถึงพลังงานทางเลือกได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของผลิตภัณฑ์โซลาร์รูฟ และการเข้าถึงผลิตภัณฑ์โซลาร์รูฟได้ง่ายขึ้น โดยในช่วงปี พ.ศ. 2564 - 2566 ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเคทีซีในการติดตั้งโซลาร์รูฟเติบโตเฉลี่ย 10%. 

Adblock test (Why?)


เคทีซี จับมือพันธมิตร เปิดมุมมองพลังงานทางเลือก เป็นพลังงานทางรอด สู่ความยั่งยืน - ไทยรัฐ
Read More

เช็คเงินไร่ละ 1000 ธ.ก.ส. ผ่าน 2 ช่องทาง chongkho.inbaac.com - A-Mobile - ฐานเศรษฐกิจ

เช็คเงินไร่ละ 1000 ปี 66 67 ล่าสุด ธ.ก.ส. Kick off โอนเงินวันแรก 28 พฤศจิกายนให้กับเกษตรกรที่ขึ้นทะเบีpนผู้ปลูกข้าว สามารถเช็คผ่าน 2 ช่องทาง ผ่าน chongkho.inbaac.com หรือ แอปพลิเคชั่น ธ.ก.ส. A-Mobile

เช็คเงินไร่ละ 1000  ปี 66 67 ล่าสุด  ธ.ก.ส. Kick off  โอนเงินเข้าบัญชีให้กับเกษตรที่ขึ้นทะเบียนผู้ปลูกข้าวในวันนี้ 28 พฤศจิกายน 2566 เป็นกลุ่มแรก ทั้งนี้สืบเนื่องจากที่ประชุมบอร์ด ธ.ก.ส. อนุมัติให้ ธ.ก.ส. ดำเนินการจ่ายเงินโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2566/67 หรือเงินไร่ละ 1000 ไม่เกิน 20 ไร่ วงเงินรวม 5.6 หมื่นล้าน

สำหรับเงินไร่ละ 1000 จะดำเนินการโอนเงินในรอบที่ 1  

  • ให้กับเกษตรกร 868,802 ราย
  •  วงเงินกว่า 9,700 ล้านบาท 

เช็คเงินไร่ละ 1000  ปี 66 67 ล่าสุด เกษตรกรสามารถตรวจสอบ ได้ผ่าน  2 ช่องทาง ดังนี้

ผ่านช่องทางออนไลน์ 
1. คลิกไปที่เว็บไซต์ https://chongkho.inbaac.com
2. กรอกเลขที่บัตรประชาชนจำนวน 13 หลัก
3. หลังจากกรอกเลขบัตรประชาชนจำนวน 13 หลัก จะมีรายละเอียดบัญชี จำนวนเงิน และ โครงการช่วยเหลือที่ได้รับ

เช็คเงินไร่ละ 1000  ปี 66 67 ล่าสุด

 

ผ่านแอปพลิเคชั่น ธ.ก.ส. A-Mobile

  • บริการเตือนเงินเข้า เงินออก ผ่านบริการ sms alert
  • (แจ้งเตือนผ่าน เอสเอ็มเอส) สมัครใช้บริการได้ที่สาขา
  • บริการเตือนเงินเข้า เงินออก ทางไลน์ ผ่านบริการ BAAC Connect สมัครได้ที่ ไลน์ BAAC Family

ขั้นตอนการสมัครแอป BAAC Mobile จาก ธ.ก.ส. ดังนี้

  • ดาวน์โหลดแอป BAAC Mobile จาก App Store ระบบ iOS และจาก Play Store ระบบ Android
  • กดติดตั้ง และสมัครใช้บริการแอป BAAC Mobile ทำตามขั้นตอน
  • เปิดแอป BAAC Mobile เข้าใช้งาน โดยลูกค้าใหม่ต้องลงทะเบียนและทำการยืนยันตัวตน e-KYC ก่อนใช้บริการ

คลิกทุกขั้นตอน >> ขั้นตอนการสมัครใช้บริการแอป BAAC Mobile

คลิกขั้นตอนสมัคร >> BAAC Connect เพิ่มเพื่อนทางไลน์ BAAC Family แจ้งเตือนเมื่อมีเงินเข้าทันที

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ เบอร์โทร Call Center 0-2555-0555

ขั้นตอนการสมัครแอป BAAC Mobile จาก ธ.ก.ส.

ทั้งนี้เกษตรกรที่ได้รับเงินสามารถ กดถอนผ่าน ATM ได้ทุกตู้บริการ ทั่วประเทศ สำหรับตู้ATM ธ.ก.ส. ธ.กรุงไทย และ ธ.กรุงศรีฯ ฟรีค่าธรรมเนียมการถอนเงินผ่านตู้ATM ในเขตพื้นที่เดียวกัน**

กรณี เบิกถอนผ่านเคาเตอร์ธนาคาร ขอความร่วมมือเป็นไปตามการนัดหมายของสาขานั้น ๆ เพื่อความสะดวกและรวดเร็ว

นอกจาก เงินไร่ละ 1000 ล่าสุด ธ.ก.ส. พร้อมจัดมาตรการคู่ขนานในการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือกและเสริมสภาพคล่องชาวนา ผ่านสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี และสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร ปีการผลิต 2566/67 

สำหรับรายละเอียดมาตรการคู่ขนาน

เงินไร่ละ 1000 ล่าสุด ธ.ก.ส.พร้อมโอนวันนี้

ติดตามข่าวสารจาก ธ.ก.ส.ล่าสุดได้ที่

  • Facebook : ธกส BAAC Thailand
  • Instagram : @baacthailand
  • LINE : @baacfamily
  • TikTok : @baacthailand
  • Website : www.baac.or.th
  • Call Center : 02 555 0555

ที่มา: ธ.ก.ส.

Adblock test (Why?)


เช็คเงินไร่ละ 1000 ธ.ก.ส. ผ่าน 2 ช่องทาง chongkho.inbaac.com - A-Mobile - ฐานเศรษฐกิจ
Read More

Monday, November 27, 2023

“อนุทิน-พวงเพ็ชร” เปิดตัว “ทางรัฐ” ช่วยผู้สูงอายุ-คนพิการ สู่ รบ.ดิจิทัล - ไทยรัฐ

“อนุทิน-พวงเพ็ชร” จับมือ เปิดตัวแอปฯ “ทางรัฐ” เดินหน้า สู่ รัฐบาลดิจิทัล บริการประชาชน-ช่วยผู้สูงอายุ-ผู้พิการ สะดวก รวดเร็ว เข้าถึงได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น 

วันที่ 27 พ.ย. 2566 เมื่อเวลา 10.00 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแล สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (สพร.) ร่วมเป็นประธานในพิธีเปิดบริการตรวจสอบเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและเบี้ยความพิการ โดยใช้บริการผ่าน Super App “ทางรัฐ” ซึ่งเป็นความร่วมมือของ สพร. และ กระทรวงมหาดไทย

โดยนายอนุทิน กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นประโยชน์ต่อประชาชน และเป็นการประยุกต์ใช้ระบบดิจิทัลเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนทุกกลุ่ม เพื่อให้สามารถเข้าถึงการบริการได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย ใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลาตลอด 24 ชั่วโมง แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการผลักดันประเทศไทยก้าวสู่สังคมดิจิทัล และพัฒนาภาครัฐสู่การเป็น Digital Government โดยสมบูรณ์ตามนโยบายของรัฐบาล โดยอาศัยการบริหารจัดการข้อมูลกลาง (Portal) ที่เชื่อมโยงข้อมูลถึงกัน ลดขั้นตอนเข้าถึงบริการ ประชาชนสามารถใช้บริการได้สะดวก ผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ ลดขั้นตอน และลดการใช้เอกสารต่างๆ

ด้าน นางพวงเพ็ชร กล่าวว่า การที่กระทรวงมหาดไทยได้ให้เกียรตินำบริการ “ตรวจสอบเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและเบี้ยความพิการ” มาไว้ในแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ที่พัฒนาโดย สพร. สะท้อนให้เห็นถึงการก้าวสู่องค์กรดิจิทัล ที่มีความสอดคล้อง คล่องตัว เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน ที่รัฐบาลต้องการผลักดันให้ “ทางรัฐ” เป็นเสมือน “ซุปเปอร์แอปของภาครัฐ” ทำประชาชนสามารถเข้าถึงบริการภาครัฐได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ในแอปพลิเคชันเดียว แสดงให้เห็นถึงศักยภาพ และความพร้อมในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาขับเคลื่อนประเทศไทย และร่วมกันสร้างประเทศให้ทันสมัย (Smart Nation) เพื่อชีวิตของคนไทยที่ง่ายขึ้น (Smart Life) ส่งผลให้ประชาชนทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุและผู้พิการ สามารถใช้บริการตรวจสอบเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและเบี้ยความพิการได้ง่าย ไม่ยุ่งยาก โดยใช้บริการผ่าน Super App  “ทางรัฐ” นี้

Adblock test (Why?)


“อนุทิน-พวงเพ็ชร” เปิดตัว “ทางรัฐ” ช่วยผู้สูงอายุ-คนพิการ สู่ รบ.ดิจิทัล - ไทยรัฐ
Read More

Sunday, November 26, 2023

สธ.จีนเผย เชื้อโรคหลายชนิด ทำเด็กป่วยทางเดินหายใจพุ่ง - ไทยรัฐ

หน่วยงานสาธารณสุขของจีนระบุว่า การเพิ่มขึ้นของจำนวนเด็กที่ป่วยโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันในช่วงที่ผ่านมา มีสาเหตุจากเชื้อโรคหลายชนิด ทั้งไข้หวัดใหญ่และอื่นๆ

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 พ.ย. 2566 คณะกรรมการสาธารณสุขแห่งชาติ (NHC) ของจีน ออกมาระบุว่า สาเหตุที่ทำให้จำนวนเด็กที่ป่วยโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันเพิ่มสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา เกิดจากเชื้อโรคหลายชนิด ในขณะที่สถาบันกุมารเวชทั่วประเทศกำลังรับมือกับผู้ป่วยที่มีมากขึ้น

นายหมี่ เฟิง โฆษกของ NHC ระบุว่า การเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ป่วยถูกผลักดันโดยไวรัสก่อโรคไข้หวัดใหญ่ชนิดต่างๆ นอกจากนั้นยังมี ไรโนไวรัส (rhinovirus), แบคทีเรีย ไมโครพลาสมา นิวโมเนีย (mycoplasma pneumoniae), ไวรัสอาร์เอสวี (RSV) และ อะดีโนไวรัส (adenovirus)

นายหมี่ยังเรียกร้องให้สถาบันการแพทย์อัปเดตข้อมูลเกี่ยวกับ ปริมาณความต้องการบริการรักษาผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยเด็ก รวมทั้งให้ สถานที่สำคัญที่มีประชากรหนาแน่นอย่าง โรงเรียน, สถานรับเลี้ยงเด็ก และบ้านพักคนชราหรือผู้ป่วย บังคับใช้มาตรการป้องการโรคระบาดอย่างมีประสิทธิภาพ และใช้มาตรการควบคุมอย่างเพียงพอ

มาตรการดังกล่าวรวมถึงการจำกัดการเคลื่อนย้ายสถานที่ของบุคคลและการเข้าเยี่ยม ขณะที่โรงพยาบาลต่างๆ ได้รับแจ้งให้พัฒนาความสามารถในการจัดลำดับผู้ป่วยตามความรุนแรงของการติดเชื้อ เพื่อให้ระบุตัวผู้ป่วยหนักได้ดียิ่งขึ้น

ทั้งนี้ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของจีน (CDC) ระบุว่า กลุ่มคนหลากหลายช่วงอายุกำลังได้รับผลกระทบจากเชื้อโรคหลายชนิดแตกต่างกัน โดยเชื้อไมโครพลาสมา นิวโมเนียพบมากที่สุดในหมู่เด็กอายุ 5-14 ปี ส่วนที่เหลือล้มป่วยด้วยเชื้อไวรัส

CDC ไม่ได้ระบุว่า มีเด็กได้รับผลกระทบจำนวนเท่าใด แต่รัฐบาลจีนแจ้งต่อองค์การอนามัยโลกเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า จำนวนผู้ป่วยนอกที่เป็นเด็กและเด็กที่ต้องแอดมิตรับการรักษาในโรงพยาบาลจากการติดเชื้อ ไมโครพลาสมา นิวโมเนีย เริ่มเพิ่มสูงขึ้นในเดือนพฤษภาคม

ส่วนผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจที่มีสาเหตุจากเชื้อโรคอื่นๆ อย่าง อาร์เอสวี, อะดีโนไวรัส และไวรัสไข้หวัดใหญ่ เพิ่มพุ่งสูงขึ้นในเดือนตุลาคม โดยไวรัสโควิด-19 เป็นหนึ่งในเชื้อโรคที่ยังคงหมุนเวียนอยู่ แต่ไม่ถูกระบุชื่อว่าเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้จำนวนผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้นในครั้งนี้

ด้านคณะกรรมการสาธารณสุขกรุงปักกิ่งระบุว่า ไข้หวัดใหญ่กลายเป็นโรคที่พบมากที่สุดในทุกช่วงอายุมา 5 สัปดาห์ติดต่อกันแล้ว

ขณะที่โรงพยาบาลกุมารเวช เทียนจิน ในเมืองเทียนจิน ทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงปักกิ่ง กำลังรับมือผู้ป่วยเด็กมากกว่า 13,000 คนต่อวันทั้งที่แผนกผู้ป่วยนอกและแผนกฉุกเฉิน

ส่วนโรงพยาบาลแม่และเด็กในมณฑลเหอเป่ย ทางเหนือของจีน ต้องรวมแผนกนรีเวชกับสูติเวชเข้าด้วยกัน เพื่อให้มีห้องรองรับผู้ป่วยเด็กได้มากขึ้น

ที่มา : cna

Adblock test (Why?)


สธ.จีนเผย เชื้อโรคหลายชนิด ทำเด็กป่วยทางเดินหายใจพุ่ง - ไทยรัฐ
Read More

ช็อกทั้งเครื่องบิน ป้าถกกางเกงจะฉี่กลางทางเดิน จบพีก ผดส.งงแบบนี้ก็ได้เหรอ - Sanook

ผู้โดยสารเล่านาทีระทึก แอรโฮสเตสบอกห้องน้ำบนเครื่องบินใช้ไม่ได้ชั่วคราว มนุษย์ป้าฉุนถกกางเกงจะฉี่กลางทางเดิน ตะโกนห้ามยังโดนขู่ฆ่า

เว็บไซต์ HK01 รายงานว่า เกิดเหตุการณ์สุดระทึกบนเครื่องบิน เมื่อผู้หญิงคนหนึ่งต้องการเข้าห้องน้ำ แต่พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินบอกว่าห้องน้ำไม่สามารถใช้งานได้ชั่วคราว แต่จู่ ๆ เธอก็หันกลับมาที่ทางเดิน ถอดกางเกงออก และตะโกนลั่นว่าจะฉี่ตรงนั้น ทำเอาผู้โดยสารถึงกับตกตะลึง

คลิปวิดีโอหญิงรายหนึ่งถอดกางเกงขณะเดินผ่านห้องโดยสารบนเครื่องบินถูกแพร่สะพัดในอินเทอร์เน็ต โดยเหตุเกิดบนเครื่องบินโดยสารของสายการบินอเมริกันต้นทุนต่ำ โดยผู้โดยสารหญิงชุดแดงพูดว่า "ขอโทษนะทุกคน" แล้วหันหลังกลับ เธอถอดกางเกงออกและเผยบั้นท้ายของตัวเอง

ผู้โดยสารที่อยู่รอบ ๆ ต่างอุทานออกมาและพยายามห้ามปรามเธอ โดยตะโกนว่ามีเด็กอยู่บนเครื่อง แต่ผู้โดยสารหญิงรายนี้ก็พูดซ้ำ ๆ ว่า "ฉันไม่สนหรอก" และ "ฉันต้องฉี่" ก่อนจะแกล้งทำเป็นฉี่

แต่สุดท้ายก็ทนแรงกดดันจากผู้คนไม่ไหว เธอจึงรีบดึงกางเกงขึ้น และขอให้พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินให้เธอเข้าไปในห้องน้ำบนเครื่องบิน พร้อมทั้งต่อว่าผู้โดยสารที่อยู่รอบตัวเธอ

จูลี โวเชลล์ ฮาร์ตแมน ผู้โดยสารซึ่งถ่ายทำเหตุการณ์ดังกล่าว เล่าว่า นี่เป็น “ประสบการณ์ที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่เคยมีมา” เหตุการณ์เกิดขึ้นบนเที่ยวบินจากฟลอริดาไปฟิลาเดลเฟีย เมื่อวันที่ 20 พ.ย. ที่ผ่านมา

ก่อนหน้านี้ พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินบอกกับผู้โดยสารหญิงรายนี้ว่าห้องน้ำไม่สามารถใช้งานได้ชั่วคราว และขอให้เธอกลับไปนั่งที่เดิมก่อน ซึ่งขณะเกิดเหตุมีเด็กสองคนเห็นเหตุการณ์ด้วย

ขณะที่อีกคลิป เผยให้เห็นว่าผู้โดยสารหญิงรายนี้โต้เถียงกับผู้โดยสารคนอื่น ๆ โดยใช้ภาษาอังกฤษผสมกับคำสบถภาษาสเปน และพนักงานต้อนรับหญิงประกาศผ่านไมโครโฟนว่าให้เธอกลับไปนั่งที่

ฮาร์ตแมน กล่าวอีกว่า เธอก็ตะโกนให้ผู้โดยสารหญิงคนดังกล่าวกลับไปนั่งที่เช่นกัน แต่กลับถูกข่มขู่แทน ผู้โดยสารหญิงรายนี้ถึงกับขู่ว่าจะฆ่าผู้โดยสารคนหนึ่งที่พยายามห้ามปรามเธอ ฮาร์ตแมน กล่าวว่า ผู้หญิงคนนี้ควรถูกจับกุมและห้ามไม่ให้ขึ้นเครื่องบิน

ขณะที่ ลอเรตต์ มิลเลอร์ ผู้โดยสารอีกรายในเที่ยวบินเดียวกัน ก็เข้ามาคอมเมนต์เล่าเหตุการณ์ด้วยว่า เธอนั่งอยู่ด้านหลังฮาร์ตแมน 2-3 แถว ส่วนผู้หญิงที่ก่อเหตุในเวลาต่อมาก็เดินออกจากเครื่องบินไปพร้อมคนที่ดูเหมือนจะเป็นญาติ และพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน แต่ไม่ได้ถูกจับกุม

มิลเลอร์ พบผู้ก่อเหตุในลานจอดรถหลังจากลงจากเครื่องบินได้ 15 นาที ไม่มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่ใกล้ ๆ เธอวิพากษ์วิจารณ์สายการบินว่าไม่ทำอะไรเลย และถึงแม้พวกเขาจะขู่ว่าจะฆ่าใครสักคน แต่ก็ไม่ถูกจับกุม

มิลเลอร์ ตอบสื่อท้องถิ่นและชี้ให้เห็นว่าพนักงานดูเหมือนจะไม่สนใจพฤติกรรมของผู้โดยสารหญิงที่มีปัญหาดังกล่าว สิ่งที่ทำให้เธอประหลาดใจมากที่สุดก็คือ ผู้โดยสารรายนี้ไม่ถูกจับกุม และไม่มีแม้แต่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสนามบิน และเจ้าหน้าที่ตำรวจขึ้นมาควบคุมตัวไปออกไปจากเครื่องบิน

ทั้งนี้ สื่อท้องถิ่นได้สอบถามกับสายการบินดังกล่าว แต่ไม่ได้รับการตอบกลับ

Adblock test (Why?)


ช็อกทั้งเครื่องบิน ป้าถกกางเกงจะฉี่กลางทางเดิน จบพีก ผดส.งงแบบนี้ก็ได้เหรอ - Sanook
Read More

อียูเผย มลพิษทางอากาศ คร่าชีวิตคนในยุโรป เกือบ 4 แสนคนในปี 2021 - ไทยรัฐ

สหภาพยุโรปเผย มีประชาชนเกือบ 400,000 คนในยุโรป เสียชีวิตจากปัญหามลพิษทางอากาศในปี 2021

สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน สำนักงานสิ่งแวดล้อมยุโรป (EEA) เปิดเผยรายงานวานนี้ (24 พ.ย.) พบว่าในปี ค.ศ. 2021 มีประชาชนเกือบ 400,000 คน จากชาติสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) เสียชีวิตจากปัญหามลพิษทางอากาศ อาทิ มลพิษที่เกิดจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM 2.5 โดยหลายรายสามารถหลีกเลี่ยงการเสียชีวิตได้หากประเทศต่างๆ ควบคุมมลพิษทางอากาศให้อยู่ในระดับที่องค์การอนามัยโลกแนะนำ

รายงานระบุว่า ในปี 2021 ปัญหามลพิษทางอากาศที่เป็นเหตุให้มีคนเสียชีวิตจำนวนมากในประเทศสมาชิก EU คือ ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM 2.5 ซึ่งการสูดฝุ่น PM2.5 ส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้ที่เป็นโรคหัวใจโดยเฉพาะ ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 253,000 ราย ตามมาด้วยปัญหามลพิษจากไนโตรเจนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นอันตรายต่อผู้ป่วยโรคเบาหวานมากที่สุด ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 52,000 ราย และปัญหามลพิษจากแก๊สโอโซนที่ไม่ดี ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 22,000 ราย

รายงานของสำนักงานสิ่งแวดล้อมยุโรปยังเปิดเผยอีกว่า ในปี 2021 มีประชาชนอีกราว 389,000 รายจากประเทศในยุโรปที่ไม่ได้เป็นสมาชิก EU ที่เสียชีวิตจากปัญหามลพิษทางอากาศ

"ความเข้มข้นของมลพิษทางอากาศของยุโรปในปี 2021 สูงกว่าระดับที่องค์การอนามัยโลกแนะนำ วิธีที่จะช่วยป้องกันการเสียชีวิตจากปัญหามลพิษทางอากาศ คือ ต้องพยายามลดมลพิษให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม" รายงานระบุ

สำหรับประเทศที่พบผู้เสียชีวิตจากปัญหามลพิษทางอากาศมากที่สุดในปี 2564 คือ โปแลนด์ อิตาลี และเยอรมนี ขณะที่ประเทศแถบยุโรปเหนือ เช่น ไอซ์แลนด์ สแกนดิเนเวีย และเอสโตเนีย ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด

Adblock test (Why?)


อียูเผย มลพิษทางอากาศ คร่าชีวิตคนในยุโรป เกือบ 4 แสนคนในปี 2021 - ไทยรัฐ
Read More

ภูมิธรรม ลั่น นายกเดินสายลงพื้นที่ ไร้นัยยะแฝงทางการเมือง - Post Today

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงประเด็นการลงพื้นที่ ตลอด 2 สัปดาห์ของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ว่าไม่มีนัยยะทางการเมือง แต่เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ดี ที่ควรทำ และตัวนายกรัฐมนตรีเองยังถือว่า รู้จักพื้นที่ไม่มากพอ จึงอยากมีโอกาสสัมผัสกับประชาชนด้วยตัวเอง ไปรับฟังความรู้สึก  ปัญหาต่างๆในพื้นที่ด้วยตัวเอง  

เมื่อถามว่าการลงพื้นที่คู่ขนานกับนางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นการปูทางเพื่อเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปหรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า นางสาวแพทองธาร ลงพื้นที่พร้อมนายกเศรษฐาแค่บางครั้ง ซึ่งภารกิจของนางสาวแพทองธารคือเน้นในเรื่องของ Soft Power ซึ่งหากจะทำได้ดีต้องลงพื้นที่ไปดูด้วยตัวเอง  

นอกจากนี้ นางสาวแพทองธาร เป็นหัวหน้าพรรค และประกาศชัดเจนไปแล้วว่าจะพัฒนาพรรคเพื่อไทย ปรับระบบพรรคและทำให้พรรคสามารถทำประโยชน์ให้กับประชาชนได้มากที่สุด พร้อมเป็นสะพานเชื่อมในการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน นำไปถ่ายทอดให้กับรัฐบาล

ทั้งนี้ รัฐบาลยังมีเวลาอีก 3 ปีกว่า ยังไม่รีบร้อน ซึ่งขณะนี้นางสาวแพทองธาร ได้เข้ามาประชุมร่วมกับรัฐบาลในคณะต่างๆ ก็ได้รับรู้ ได้มีส่วนช่วยสนับสนุนมากอยู่แล้ว ซึ่งการได้มาทำงานโดยมีเป้าหมายในการทำงานให้กับประชาชน ถือเป็นการเรียนรู้ที่ดี

Adblock test (Why?)


ภูมิธรรม ลั่น นายกเดินสายลงพื้นที่ ไร้นัยยะแฝงทางการเมือง - Post Today
Read More

Friday, November 24, 2023

"ลีโอ อธิป" ปล่อยซิงเกิลใหม่ "มาลัย" กับเสียงหวานทางถนัดเอาใจแฟน! - TrueID - Music

เติบโตไปพร้อมๆ กับผลงานและความสำเร็จ สำหรับขวัญใจไมค์หมดหนี้ “ลีโอ อธิป โสดา” หนุ่มน้อย ศิลปินค่ายยุ้งข้าวเรคคอร์ด ที่ออกซิงเกิลแรก “ขอลา” ก็ทะลุล้านอย่างรวดเร็ว มาถึงซิงเกิลนี้ ลีโอ ตั้งใจมอบเป็นของขวัญให้กับแฟนคลับ พ่อแม่พี่น้องที่ติดตามและเป็นกำลังใจมาตลอด กับซิงเกิล "มาลัย" ซึ่งซิงเกิลนี้ ถือเป็นทางถนัดของเขาเลย กับเพลงลูกทุ่งแท้ๆ บทเพลงของชัชชัย ชัชวาลย์ ถือว่าเป็นการนำเพลงเก่ามาเล่าใหม่ งานนี้จะสวยงามถูกอกถูกใจแฟนๆ ขนาดไหน ลีโอเผยว่า 

ลีโอ เผยว่า  "ซิงเกิลนี้ตั้งใจมากๆ ครับ เพราะเป็นการนำเพลงเก่ามาเล่าใหม่ เปลี่ยนสไตล์การร้องให้เป็นแบบฉบับของผมเอง ค่อนข้างยาก เพราะเวอร์ชั่นต้นฉบับ ทำมาตราฐานไว้สูง ผมมาร้องก็ไม่ทิ้งต้นฉบับ แต่เพิ่มความเป็นตัวเองเข้าไป เพิ่มลายเซ็นต์ของผม การเล่นรายละเอียดของเพลงลูกคอ ลูกเอื้อน ให้เป็นตัวของผมเอง

ส่วน MV ไม่อยากให้พลาดชมนะครับ เราบินไปถ่ายทำกันที่ขอนแก่น ก็จะได้บรรยากาศดี ๆ ฟ้าใส ๆ อยากให้ทุกคนเชียร์และเป็นกำลังใจให้กับเพลงใหม่ของลีโอด้วยนะครับ ขอมอบ "มาลัย" ซิงเกิลนี้ ให้เป็นของขวัญปีใหม่ ต้อนรับปีใหม่ล่วงหน้าเลยนะครับ ฝากติดตามรับชมรับฟังกันเยอะ ๆ นะครับ" ติดตามรับชมรับฟังได้ทาง YouTube : ยุ้งข้าวเรคคอร์ด” ได้แล้ววันนี้ 

Adblock test (Why?)


"ลีโอ อธิป" ปล่อยซิงเกิลใหม่ "มาลัย" กับเสียงหวานทางถนัดเอาใจแฟน! - TrueID - Music
Read More

สรุปหุ้นเด่นทางเทคนิค (24/11/66) - efinanceThai

เปิดโผ 20 หุ้นฟรีโฟลตสูง คาดได้แรงหนุนจากกองทุนใหม่ แนะทยอยสะสมรับภาวะตลาดเบาบาง

23 พฤศจิกายน 2566 10:00

Adblock test (Why?)


สรุปหุ้นเด่นทางเทคนิค (24/11/66) - efinanceThai
Read More

Wednesday, November 22, 2023

WHO แจ้ง พบคลัสเตอร์เด็กป่วยโรคทางเดินหายใจ ปอดบวมในจีน 'ยังไม่รู้ที่มา' - ไทยรัฐ

(ภาพประกอบ)

องค์การอนามัยโลก (WHO) ออกแถลงการณ์แจ้งผ่านแพลตฟอร์ม X หรือทวิตเตอร์เดิม รายงานพบคลัสเตอร์ หรือกลุ่มเด็กทางภาคเหนือของจีน ป่วยด้วยโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ และยังมีรายงานพบคลัสเตอร์เด็กป่วยโรคปอดอักเสบ หรือปอดบวมด้วย แต่ขณะนี้ยังไม่ทราบที่มาว่าเป็นเชื้อโรคชนิดใด

องค์การอนามัยโลกระบุว่า เมื่อ 22 พ.ย. 2566 ทางองค์การอนามัยโลกได้ขอให้ทางการจีนแจ้งข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับระบาดวิทยา (การศึกษาเรื่องโรค การแพร่กระจายของโรคฯ) และข้อมูลทางคลินิก ซึ่งเป็นการรักษาหรือตรวจผู้ป่วย เช่นเดียวกับผลวิเคราะห์จากห้องแล็บต่างๆ ที่รายงานเกี่ยวกับคลัสเตอร์เด็กป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจและปอดอักเสบ

นอกจากนั้น องค์การอนามัยโลกยังระบุว่า ได้ขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวโน้มการระบาดของเชื้อโรค รวมทั้งเชื้อไข้หวัดใหญ่ SARS-CoV-2 RSV และเชื้อไมโคพลาสมา ที่ก่อให้เกิดโรคปอดอักเสบ

ก่อนหน้านี้ เมื่อ 13 พ.ย. 2566 เจ้าหน้าที่จากคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีนรายงาน พบเด็กป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจเพิ่มขึ้น และทำให้เจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขของจีนยกระดับมาตรการคุมเข้มด้านการป้องกันโรคโควิด-19 มากขึ้น รวมทั้งโรคติดต่อที่มีการแพร่ระบาด อย่างเช่น เชื้อไวรัส influenza ไข้หวัดใหญ่ ไวรัส RSV เชื้อไวรัสโควิด-19 เจ้าหน้าที่จีนได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการปรับปรุงการเฝ้าระวังโรคในสถานพยาบาลและชุมชน รวมถึงการเสริมสร้างขีดความสามารถของระบบสาธารณสุขเพื่อรองรับผู้ป่วย

ต่อมา วันที่ 21 พ.ย. 2566 สื่อและ ProMED รายงานพบคลัสเตอร์เด็กป่วยด้วยโรคปอดอักเสบที่ยังวินิจฉัยไม่ได้ว่าเป็นเชื้อโรคชนิดใด ทางภาคเหนือของจีน และยังแน่ชัดว่าเกี่ยวข้องกับการเพิ่มขึ้นโดยรวมของการติดเชื้อทางเดินหายใจ ที่ทางการจีนรายงานก่อนหน้านี้หรือไม่

อย่างไรก็ตาม ขณะที่ WHO พยายามหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเชื้อโรคสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจในกลุ่มเด็กๆทางเหนือของจีนนั้น  ได้แนะนำให้ประชาชนในจีนควรปฏิบัติตนตามมาตรการลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อโรคทางเดินหายใจ ไม่ว่าจะเป็นการเว้นระยะห่างจากคนป่วย ควรอยู่บ้านเมื่อมีอาการป่วย ตรวจหาเชื้อและเข้ารับการรักษาหากมีความจำเป็น สวมหน้ากากอนามัย  และล้างมือสม่ำเสมอ รวมทั้งแนะนำให้ได้รับการฉีดวัคซีน 

Adblock test (Why?)


WHO แจ้ง พบคลัสเตอร์เด็กป่วยโรคทางเดินหายใจ ปอดบวมในจีน 'ยังไม่รู้ที่มา' - ไทยรัฐ
Read More

ด่วน! 'มาดามแป้ง' แถลงแยกทาง 'มาโน่' แล้ว - ตั้ง 'อิชิอิ' คุมทัพช้างศึกชุดใหญ่ - มติชน

ด่วน! ‘มาดามแป้ง’ แถลงแยกทาง ‘มาโน่’ แล้ว – ตั้ง ‘อิชิอิ’ คุมทัพช้างศึกชุดใหญ่

“มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทัพช้างศึก ประกาศอย่างเป็นทางการแยกทาง มาโน โพลกิ้ง จากหัวหน้าผู้ฝึกสอน หลังผลงานคัดบอลโลก 2 นัดแรกไม่เป็นไปตามเป้าหมาย โดยตั้ง มาซาทาดะ อิชิอิ ทำหน้าที่แทนทันที พร้อมยืนยันในฐานะผู้จัดการทีมทำงานภายใต้บทบาทหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่มาตลอด และไม่เคยแทรกแซงโค้ชในด้านเทคนิคฟุตบอล

“สำหรับการแข่งขันฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 ที่เพิ่งผ่านไป 2 นัด ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกคนคาดหวังและตั้งความหวังไว้มากที่สุด เช่นเดียวกับแป้งและนักกีฬาทุกคน แต่ในเมื่อผลงานไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยเฉพาะนัดแรกที่เราเปิดบ้านแพ้ จีน 1-2 ซึ่งเสียหาย และมีผลอย่างมากต่อโอกาสลุ้นเข้ารอบ 3 ในช่วง 4 เกมที่เหลือ แป้งจึงมีการแจ้งท่านนายกสมาคมฯ ให้รับทราบ และมีการพูดคุยกับโค้ชมาโน ซึ่งคิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น เพื่อให้ทีมชาติไทยมีความพร้อมมากขึ้นยามที่จะเจอทีมในระดับเอเชีย โดยก่อนที่เราจะแยกทางกันด้วยดี ในฐานะผู้จัดการทีม แป้งต้องขอบคุณโค้ชมาโน รวมถึงทีมงานสตาฟฟ์โค้ชที่ทุ่มเทและมุ่งมั่นในการทำหน้าที่ตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ที่อย่างน้อยได้ทำให้คนไทยมีความสุข คือการพาทีมชาติไทยคว้าแชมป์อาเซียน 2 สมัยติดต่อกัน”

“สำหรับตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอนคนใหม่ เราได้มีการพิจารณาอย่างดีที่สุด ก่อนได้บทสรุปว่าเราจะแต่งตั้ง มาซาทาดะ อิชิอิ โค้ชชาวญี่ปุ่นพร้อมทีมงานสตาฟฟ์โค้ชส่วนตัวเ ข้ามาทำหน้าที่แทนทันที เพราะด้วยเงื่อนไขเวลาที่จำกัด ก่อนถึงเอเชียน คัพ รอบสุดท้ายที่กาตาร์ในเดือน มกราคม 2567 และคัดบอลโลกที่เหลืออีก 4 นัด เราต้องเลือกโค้ชที่รู้จัก คุ้นเคย และมีข้อมูลผู้เล่นทีมชาติไทยมากที่สุด รวมถึงโค้ชอิชิอิยังมีประสบการณ์ และผลงานอันเป็นที่ประจักษ์ในระดับเจลีก ไทยลีก รวมถึงบนเวทีฟุตบอลระดับชิงแชมป์สโมสรโลกด้วย และที่สำคัญ ญี่ปุ่นยังเป็นประเทศต้นแบบในเชิงฟุตบอลของเอเชีย และอยู่ในอันดับท็อป 20 ของโลก ดังนั้น เชื่อว่าโค้ชอิชิอิ คือบุคคลที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเราในตอนนี้ และแป้งพร้อมสนับสนุนการทำงานอย่างเต็มที่”

“นอกจากนี้ แป้งยังขอเปิดใจในหน้าที่ผู้จัดการทีม แป้งรับหน้าที่นี้มาตั้งแต่ปี 2021 มีหน้าที่บริหารจัดการ อำนวยความสะดวกเรื่องอาหารการกิน ที่พัก การเดินทาง อุปกรณ์ต่าง ๆ ความเป็นอยู่ ทุกข์สุขของทุกคนในทีม ทั้งในและนอกสนาม ขวัญและกำลังใจของนักกีฬา รวมทั้งค่าตอบแทนพิเศษ หรือเงินอัดฉีด ซึ่งเป็นเงินส่วนตัวและเพื่อนฝูงที่มีใจรักฟุตบอล แป้งคิดว่าตนเองได้ทุ่มเทอย่างเต็มที่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา 16 ปี ตั้งแต่เป็นผู้จัดการฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย จนมาถึงปัจจุบันกับทีมฟุตบอลชาย แป้งมีความเข้าใจในบทบาทและหน้าที่ของผู้จัดการทีมดี ไม่เคยเข้าไปแทรกแซงการทำหน้าที่ของหัวหน้าผู้ฝึกสอนในด้านเทคนิคฟุตบอล ทั้งในการเลือกผู้เล่น แผนการเล่น การจัดตัวหรือการเปลี่ยนตัวระหว่างการแข่งขัน มีเพียงการยกหูเพื่อขอตัวนักเตะจากประธานสโมสรทุก ๆ ทีมทั้งในไทยลีกและต่างประเทศ ตามรายชื่อที่หัวหน้าผู้ฝึกสอนต้องการเท่านั้น เพราะมีความจำเป็นให้ทีมชาติไทยได้นักกีฬาที่ดีที่สุดมา ซึ่งจะได้หรือไม่นั้น ก็ย่อมเป็นดุลพินิจของสโมสรอีกชั้นหนึ่ง”

“แป้งจึงขอความเห็นใจ และความเป็นธรรมในการทำหน้าที่ผู้จัดการทีม ซึ่งที่ผ่านมาได้ทำอย่างเต็มที่มาโดยตลอดภายใต้ขอบเขตหน้าที่ความรับผิดชอบของแป้ง แต่เมื่อใดที่ผลการแข่งขันไม่เป็นดังหวัง แป้งก็เสียใจไม่ต่างจากทุกคน และยินดีน้อมรับคำแนะนำต่าง ๆ ด้วยเหตุและผล ภายใต้ความหวังดีของทุกคน อันจะเป็นประโยชน์ต่อการบริหารจัดการทีม เพื่อนำไปพัฒนา ปรับปรุง เพื่อสร้างความสำเร็จให้แก่ทีมชาติไทย แป้งไม่สามารถหักห้ามความคิดใครได้ แต่ก็ยอมรับแบบตรงไปตรงมาว่าในบางคอมเมนต์ ย่อมสร้างความเสียใจ บั่นทอนความรู้สึกในการทำงานของทุกคนไปมาก ทั้งที่แป้งเองตั้งใจและทุ่มเทอย่างสุดความสามารถ และรักในการทำหน้าที่นี้อย่างแท้จริง ด้วยความหวังและความฝันที่อยากเห็นฟุตบอลไทยประสบความสำเร็จเช่นเดียวกับทุกคน” มาดามแป้ง ปิดท้าย

มาซาทาดะ อิชิอิ กุนซือคนใหม่ทัพช้างศึก และอดีตกุนซือบุรีรัมย์ ชาวญี่ปุ่นที่พาทีมคว้า 3 แชมป์ในฤดูกาลที่ผ่านมา
QR Code

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่

Line Image

Adblock test (Why?)


ด่วน! 'มาดามแป้ง' แถลงแยกทาง 'มาโน่' แล้ว - ตั้ง 'อิชิอิ' คุมทัพช้างศึกชุดใหญ่ - มติชน
Read More

เกาหลีใต้ระงับข้อตกลงทางทหารบางส่วน โต้เกาหลีเหนือปล่อยดาวเทียมจารกรรม - ไทยรัฐ

เกาหลีใต้ประกาศระงับข้อตกลงทางทหารบางส่วนกับเกาหลีเหนือทันที ตอบโต้รัฐบาลเปียงยางปล่อยดาวเทียมสอดแนมขึ้นสู่วงโคจร โดยไม่สนใจคำเตือนจากรบ.เกาหลีใต้ และละเมิดมติสหประชาชาติ

เมื่อวันที่ 22 พ.ย. 2566 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน รัฐบาลเกาหลีใต้ได้ระงับข้อตกลงทางทหารบางส่วนกับเกาหลีเหนือที่ลงนามกันไว้เมื่อปี 2561 เพื่อตอบโต้เกาหลีเหนือปล่อยดาวเทียมจารกรรมหรือดาวเทียมสอดแนมขึ้นสู่วงโคจรในอวกาศแล้วเมื่อคืนวันอังคารที่ 21 พ.ย. ที่ผ่านมา

รายงานระบุว่า ประธานาธิบดี ยุน ซอก-ยอล ของเกาหลีใต้ ซึ่งอยู่ระหว่างเยือนสหราชอาณาจักรอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของประมุขรัฐ (state visit) ได้อนุมัติการระงับข้อตกลงทางทหารบางส่วนกับเกาหลีเหนือ หลังเสร็จสิ้นการประชุมผ่านวิดีโอกับคณะรัฐมนตรี และหัวหน้าหน่วยข่าวกรองเกาหลีใต้ ซึ่งการระงับข้อตกลงทางทหารบางส่วนกับเกาหลีเหนือนี้จะมีผลบังคับใช้เมื่อเวลา 15.00 น. ของวันที่ 22 พ.ย.ตามเวลาท้องถิ่น ส่งผลให้กองทัพเกาหลีใต้สามารถกลับมาปฏิบัติการเฝ้าระวังทางอากาศบริเวณน่านฟ้าของทั้ง 2 ชาติได้ทันที

ข้อตกลงดังกล่าว หรือมีชื่อเรียกเต็มว่า ข้อตกลงทางทหารที่ครอบคลุม (Comprehensive Military Agreement) มีจุดมุ่งหมายเพื่อลดความตึงเครียดระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ ซึ่งผู้นำทั้ง 2 ชาติ อดีตประธานาธิบดีมุน แจอิน ของเกาหลีใต้ และคิม จอง อึน ของเกาหลีเหนือ ได้ลงนามระหว่างการประชุมสุดยอดเมื่อปี 2561 

อย่างไรก็ดี ข้อตกลงนี้ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากหลายฝ่ายในเกาหลีใต้ และถูกเรียกร้องให้ยกเลิกข้อตกลงนี้ เนื่องจากมองว่าข้อตกลงนี้ทำให้ความสามารถของเกาหลีใต้ในการติดตามการกระทำของเกาหลีเหนือบริเวณชายแดนอ่อนแอลง 

ขณะที่โฆษกรัฐบาลเกาหลีใต้ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ข้อตกลงลดความตึงเครียดทางทหารถูกระงับบางส่วนแล้ว และต่อจากนี้กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ก็มีหน้าที่แจ้งให้กับทางการเกาหลีเหนือทราบ แต่เนื่องจากการสื่อสารกับเกาหลีเหนือถูกตัดขาด กระทรวงกลาโหมจึงต้องออกเป็นประกาศสาธารณะ

ทั้งนี้ เมื่อคืนวานนี้ มีรายงานจาก KCNA สื่อท้องถิ่นของเกาหลีเหนือ เปิดเผยว่า ทางการเกาหลีเหนือได้ยิงจรวดส่งดาวเทียมสอดแนมขึ้นสู่วงโคจรในอวกาศเป็นที่เรียบร้อย เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่รัฐบาลเปียงยางแจ้งต่อประเทศญี่ปุ่นว่าเกาหลีเหนือเตรียมปล่อยดาวเทียมสอดแนมครั้งที่ 3 ในไม่กี่วันข้างหน้า หลังจากประสบความล้มเหลวมาก่อนหน้านี้ 2 ครั้ง

จรวดลำดังกล่าวถูกปล่อยจากฐานยิงในจังหวัดพย็องอันเหนือ เพื่อนำดาวเทียมจารกรรม "Malligyong-1" ขึ้นสู่วงโคจร โดยสื่อท้องถิ่นรายงานว่า คิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือได้มาเป็นสักขีพยานในการปล่อยจรวดส่งดาวเทียมจารกรรม

ทั้งนี้ การใช้เทคโนโลยีขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ เคยถูกประณามโดยเลขาธิการสหประชาชาติ อันโตนิโอ กูเตอร์เรส ขณะที่รัฐบาลสหรัฐฯ เรียกการกระทำนี้ว่าเป็น "การละเมิดอย่างไร้ยางอาย” ต่อการคว่ำบาตรของสหประชาชาติ

Adblock test (Why?)


เกาหลีใต้ระงับข้อตกลงทางทหารบางส่วน โต้เกาหลีเหนือปล่อยดาวเทียมจารกรรม - ไทยรัฐ
Read More

ดรามาห้างดัง! ทางเดิน "พื้นกระจกใส" ห่วงความปลอดภัยอาจมีขาหื่นรอส่องใต้กระโปรงผู้หญิง - ผู้จัดการออนไลน์



โลกออนไลน์แห่วิจารณ์กันเพียบ โซนใหม่ของห้างดัง​ใจกลางเมือง "พื้นเป็นกระจกใส" ชาวเน็ตห่วงเรื่องความปลอดภัยและส่อไปทางคุกคามทางเพศ กรณีเวลาผู้หญิงใส่กระโปรงต้องมาใช้บริการจริงๆ อาจมีขาหื่นรอส่องใต้กระโปรงผู้หญิง

เมื่อวันที่ 19 พ.ย. เพจ "Propholic" ได้โพสต์ภาพการเปิดตัวดีไซน์ใหม่ซึ่งเป็น “พื้นกระจกใส” ของทางห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่งใจกลางเมือง แต่กลายเป็นประเด็นที่สังคมออกมาตำหนิกันเป็นจำนวนมาก เรื่องความปลอดภัยและส่อไปทางคุกคามทางเพศ กรณีเวลาผู้หญิงใส่กระโปรงต้องมาใช้บริการจริงๆ แล้วคนที่เดินด้านล่างอาจมองเห็นได้

โดยทางเพจระบุข้อความว่า " ห้างสรรพสินค้า..... เพิ่มของเล่นใหม่ เป็นพื้นกระจกใสสุดเสียว ที่ชั้น 2 แถวๆ ASIA BOOK ติดกันมีพื้นจอภาพ เหยียบแล้วมีวงคลื่นแบบ INTERACTIVE ด้วยนะ เพิ่งเห็นครับ ไม่รู้เปิดนานยัง

**พี่น้องที่มาจากทวิตเตอร์ครับ ใจเย็นๆ ครับ วันที่ผมไปถ่ายดูในภาพสิครับ มีเชือกอะไรกั้น มีป้ายอะไรบอกว่าพื้นที่ยังไม่เปิดมั้ยครับ ผมยังถามแม่บ้านเลยว่าไม่เสียวเหรอ เขาบอกชินแล้ว เช็ดมาหลายวันแล้ว แล้วการไปยืนบนพื้นกระจกใส นอกจากคำว่าเสียวแล้ว จะเขียนว่าอะไรที่จะบรรยายความรู้สึกนั้นได้บ้างครับ สุดน่ากลัว ? สุดโหด ? , สุดอันตราย ? , สุดกลัวตก ? , ท้ามฤตยู? ,สุดระทึก? , สุดตื่นเต้น ?

อย่างไรก็ตาม มีชาวเน็ตแห่แสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นจำนวนมาก เช่น เพิ่งทำไม่นานค่ะ ไปเดินมาวันก่อนตกใจเหมือนกัน , เน้นความสวย แต่ไม่เน้นการใช้งานได้จริง ลำบากผู้หญิง , ต้องระวังพวกรองเท้าที่มีเกือกเหล็ก หมุดเหล็ก หรือมีเศษเหล็ก ไปขีดเพียงนิดเดียว กระจกนิรภัยก็สามารถแตกร้าวได้ เป็นต้น


Adblock test (Why?)


ดรามาห้างดัง! ทางเดิน "พื้นกระจกใส" ห่วงความปลอดภัยอาจมีขาหื่นรอส่องใต้กระโปรงผู้หญิง - ผู้จัดการออนไลน์
Read More

6 ปัจจัยเสี่ยงทำผู้ชายเสื่อมสมรรถภาพทางเพศไว ไม่อยากเป็น! ต้องรู้ - Sanook

ภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ เป็นภาวะที่เกิดจากความผิดปกติในการตอบสนองทางเพศ  ซึ่งบางคนอาจมีความพึงพอใจและความมั่นใจทางเพศลดลง อาจนำไปสู่ปัญหาความสัมพันธ์ได้ สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่าความผิดปกติทางเพศ อาจส่งผลต่อทั้งชายและหญิง แต่ภายในบทความนี้จะมุ่งเน้นไปที่สมรรถาพทางเพศของผู้ชายที่ลดลง จาก 6 ปัจจัยเสี่ยงต่อไปนี้

1.ปัจจัยด้านอายุ

ตามรายงานทางการแพทย์ เกี่ยวกับผู้ชายที่มีอายุระหว่าง 40-70 ปี ในประเทศไทย พบว่าร้อยละ 37 ประสบปัญหาความเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ น่าแปลกที่มีเพียงไม่ถึง 1 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ที่ขอความช่วยเหลือจากแพทย์เกี่ยวกับปัญหานี้ ซึ่งในความเป็นจริง ผู้ที่ประสบปัญหานี้มีจำนวนมาก นั่นหมายความว่าภาวะนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน แม้แต่ผู้ที่มีอายุน้อยอีกด้วย

2.การเป็นโรคความดันโลหิตสูง

ผู้ชายที่เป็นความดันโลหิตสูง หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการรักษา อาจเกิดความเสียหายต่อหลอดเลือดได้ สิ่งนี้สามารถนำไปสู่หลอดเลือดแดงที่ตีบตันและแข็งตัว ทำให้การไหลเวียนโลหิตมีประสิทธิภาพน้อยลง ส่งผลให้การไหลเวียนของเลือดไปยังอวัยวะสืบพันธุ์ลดลง ทำให้ยากต่อการรักษาสมรรถภาพทางเพศ

3.สูบบุหรี่จัดและดื่มแอลกฮอล์เป็นประจำ

การสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ นิสัยเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการทำลายหลอดเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ยากขึ้น ส่งผลให้การไหลเวียนของเลือด ไปยังอวัยวะสืบพันธุ์ลดลง ส่งผลให้สมรรถภาพทางเพศลดลงไปด้วย

4.พักผ่อนน้อย และเครียดมาก

ความเครียดเรื้อรังอาจ ส่งผลเสียต่อฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน นำไปสู่ความเหนื่อยล้าทางร่างกาย เหนื่อยล้าทางจิตใจ  ส่งผลเสียต่อคุณภาพการนอนหลับ และรบกวนความสมดุลของฮอร์โมน ทำให้เกิดการสะสมของคอร์ติซอล หรือฮอร์โมนความเครียดในร่างกาย ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อการทำงานและคุณภาพชีวิตโดยรวม รวมถึงสมรรถภาพทางเพศ

5.มีภาวะไขมันในเลือดสูง

การลงพุงของผู้ชาย ทำให้เกิดความไม่สมดุลของฮอร์โมน และอาจนำไปสู่ระดับ LDL-C คอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีผิดปกติ  และระดับ HDL-C คอเลสเตอรอลชนิดดี ในระดับต่ำ ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และหลอดเลือดที่อุดตัน จะจำกัดการไหลเวียนของเลือดไปยังอวัยวะสืบพันธุ์ ส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลง และกลายเป็นความเสื่อมที่มากขึ้นเรื่อย ๆ

6.มีความเสี่ยงของโรคเบาหวาน

โรคเบาหวาน มีผลกระทบโดยตรงต่อเส้นประสาทและหลอดเลือด ในบริเวณอวัยวะเพศ ส่งผลให้การไหลเวียนโลหิตบกพร่อง ส่งผลให้การไหลเวียนของเลือดไปยังอวัยวะสืบพันธุ์ ไม่เหมาะสมเท่าที่ควร ระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงขึ้น ส่งผลเสียต่อฮอร์โมน ส่งผลให้เกิดภาวะดื้อต่ออินซูลิน พร้อมขัดขวางการผลิตฮอร์โมนในร่างกาย โดยเฉพาะฮอร์โมนเพศ ซึ่งผลิตในปริมาณที่น้อยกว่า ส่งผลให้ความต้องการทางเพศลดลง

ความผิดปกติทางเพศ สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน อย่างไรก็ตาม ความรุนแรงของอาการในผู้ชาย มีแนวโน้มที่จะน้อยกว่าในผู้หญิง อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีปัญหาทางเพศควรไปพบแพทย์เพื่อรับคำปรึกษาและการรักษาที่เหมาะสม เพื่อให้ชีวิตรักยังคงตอบสนองเรื่องบนเตียงได้อย่างมีความสุข

Adblock test (Why?)


6 ปัจจัยเสี่ยงทำผู้ชายเสื่อมสมรรถภาพทางเพศไว ไม่อยากเป็น! ต้องรู้ - Sanook
Read More

Tuesday, November 21, 2023

'เจ้าฟ้านเรนทร' หลานรัก บวชตลอดชีวิต เปิดทาง 'พระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ' ขึ้นครองราชย์ - ข่าวสด

‘เจ้าฟ้านเรนทร’ หลานรัก บวชตลอดชีวิต เปิดทาง ‘พระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ’ ขึ้นครองราชย์ แม้เป็นสายเลือดอันดับหนึ่ง แต่ทรงปฏิเสธราชบัลลังก์ และยกให้ผู้เป็นอาแทน

วันที่ 21 พ.ย. 2566 ละครพรหมลิขิต EP.15 ตัวละครพุดตานได้ร่วม งานจองเปรียง ที่วัดพุทไธศวรรย์ ซึ่งต่อมาพัฒนาสู่ “ลอยกระทง” ภายในงานมีการละเล่น จุดดอกไม้ไฟ ลอยโคม ชมหนังใหญ่

โดยช่วงหนึ่ง กรมพระราชวังบวรสถานมงคล (พระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ) พระราชอนุชาของสมเด็จพระเจ้าท้ายสระ ได้พูดคุยทักทายกับ เจ้าฟ้านเรนทร พระราชโอรสพระองค์ใหญ่ในพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ ซึ่งเจ้าฟ้านเรนทร ได้แจ้งว่าอยากบวช เจ้าฟ้ากรมขุนสุเรนทรพิทักษ์ หรือเจ้าฟ้านเรนทร เป็นหลานรักของพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ช่วงปลายรัชกาลพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ เกิดการแย่งชิงอำนาจในกรุงศรีอยุธยา เจ้าฟ้านเรนทรผู้ทรงมีสิทธิ์ทางสายเลือดอันดับหนึ่งทรงปฏิเสธราชบัลลังก์ และเลือกที่จะยกให้ผู้เป็นอาแทน

นิตยสารศิลปวัฒนธรรม ระบุว่า ประเด็นนี้อาจมองได้หลายมุมต่างกัน เจ้าฟ้านเรนทรอาจเห็นสมควรว่าพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศขณะดำรงพระยศเป็นกรมพระราชวังสถานมงคลมีสิทธิ์ที่จะครองราชย์ตามกฎ หรืออาจมองได้ว่าเจ้าฟ้านเรนทรทรง “เกรงกลัว” อำนาจของอาตนเอง จึงยอมยกราชบัลลังก์ให้

การออกบวชของเจ้าฟ้านเรนทรเปิดทางให้พระเจ้าอยู่หัวบรมโกศได้ครองราชย์โดยสำเร็จ แม้จะต้องลงมือปราบกลุ่มต่อต้านไปบ้างก็ตาม ดังนั้น เจ้าฟ้านเรนทรจึงทรงครองบรรพชิตไปตลอดชีวิต เพื่อใช้พระศาสนาเป็นร่มคุ้มกันภยันตรายอย่างไม่ต้องสงสัย อันเป็นธรรมเนียมที่ถือปฏิบัติกันเรื่อยมาในกรุงศรีอยุธยา

Adblock test (Why?)


'เจ้าฟ้านเรนทร' หลานรัก บวชตลอดชีวิต เปิดทาง 'พระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ' ขึ้นครองราชย์ - ข่าวสด
Read More

เกาหลีเหนือ ยิงขีปนาวุธ ไปทางโอกินาวา รบ.ญี่ปุ่น แจ้งเตือนประชาชนหลบภัยทันที - มติชน

เกาหลีเหนือ ยิงขีปนาวุธ ไปทางโอกินาวา รบ.ญี่ปุ่น แจ้งเตือนประชาชนหลบภัยทันที

เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า NHK สื่อญี่ปุ่น ได้รายงานข่าวว่า รัฐบาลญี่ปุ่น ได้เปิดเผยว่า เกาหลีเหนือ ยิงขีปนาวุธอย่างน้อย 1 ลูก ไปยังจ.โอกินาวาของญี่ปุ่น และขอให้ประชาชนหลบภัยทันที

โดยโทรทัศน์ทุกช่องในญี่ปุ่น ได้ประกาศแจ้งเตือนให้ประชาชนหลบภัยโดยทันที

NHK รายงานอีกว่า เสนาธิการร่วมของเกาหลีใต้ ได้ระบุว่า เกาหลีเหนือ ได้ปล่อยสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นดาวเทียมสอดแนมของทหาร ไปทางทิศใต้ เมื่อเวลา 22.47 น.

ต่อมา NHK ได้รายงานเพิ่มเติมว่า รัฐบาลกล่าวว่า สิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นขีปนาวุธของเกาหลีเหนือนั้น น่าจะเคลื่อนผ่านญี่ปุ่นไปทางมหาสมุทรแปซิฟิก เมื่อเวลา 22.55 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) โดยได้ยกเลิกการเรียกอพยพ และ เตือนไม่ให้เข้าใกล้พื้นที่และติดต่อตำรวจหรือหน่วยดับเพลิงทันที

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมา ทางการญี่ปุ่น ระบุว่า สิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นขีปนาวุธนี้ น่าจะเป็นดาวเทียม

ทั้งนี้ ช่วงเช้าของวันนี้ (21 พฤศจกิายน) สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เกาหลีเหนือได้แจ้งญี่ปุ่นว่าเปียงยางมีแผนจะปล่อยดาวเทียมในระหว่างวันที่ 22 พฤศจิกายนถึง 1 ธันวาคมนี้ ซึ่งญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ชี้ว่าอาจเป็นความพยายามครั้งที่ 3 ของเกาหลีเหนือที่จะส่งดาวเทียมสอดแนมขึ้นสู่วงโคจร ซึ่งจะเป็นการละเมิดคำสั่งห้ามขององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น)

นายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ออกมาประณามเกาหลีเหนือในทันทีหลังได้รับแจ้งถึงแผนดังกล่าว โดยกล่าวว่าแม้จุดประสงค์คือการปล่อยดาวเทียม แต่การใช้เทคโนโลยีขีปนาวุธ ถือเป็นการละเมิดข้อมติของคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็น และว่า จะเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบอย่างมากต่อความมั่นคงของชาติด้วย อย่างไรก็ดี ญี่ปุ่นจะทำงานร่วมกับสหรัฐอเมริกา เกาหลีใต้และชาติอื่นๆ ในการเรียกร้องอย่างแข็งขันไม่ให้เกาหลีเหนือดำเนินตามแผนดังกล่าว

ทั้งนี้ ญี่ปุ่นมีระบบป้องกัน ซึ่งรวมถึงเรือพิฆาตเอจิสและขีปนาวุธป้องกันทางอากาศ แพค-3 ไว้เตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดที่อาจเกิดขึ้น

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ญี่ปุ่น-โสมขาวเต้น โสมแดงแจ้งแผนปล่อยดาวเทียมหน 3 ซัดใช้สอดแนม-ละเมิดมติยูเอ็น

QR Code

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่

Line Image

Adblock test (Why?)


เกาหลีเหนือ ยิงขีปนาวุธ ไปทางโอกินาวา รบ.ญี่ปุ่น แจ้งเตือนประชาชนหลบภัยทันที - มติชน
Read More

ครม. แก้กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ให้คนหลากหลายทางเพศหมั้นและสมรสกันได้ - ไทยรัฐ

คณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบ ร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เพื่อให้บุคคลสองคน ไม่ว่าเป็นเพศใดทำการหมั้นหมายและสมรสกันได้ พร้อมให้แก้คำว่า “ชาย” “หญิง” และ “สามีภรรยา” เป็น “บุคคล” “ผู้หมั้น” “ผู้รับหมั้น” และ “คู่สมรส” 

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 21 พฤศจิกายน 2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เนื่องจากปัจจุบันประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายรองรับสิทธิในการก่อตั้งครอบครัวของคู่รักเพศเดียวกัน ซึ่งแตกต่างไปจากสภาพสังคมในปัจจุบันที่คู่รักเพศเดียวกันอยู่ร่วมกันจำนวนมาก โดยขาดเครื่องมือทางกฎหมายในการจัดการความสัมพันธ์ทางครอบครัว ส่งผลให้เกิดปัญหาครอบครัวหลากหลายทางเพศหลายประการ ครม. จึงมีมติแก้ไขร่างกฎหมายดังกล่าวตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอมา เพื่อให้บุคคลสองคน ไม่ว่าเป็นเพศใดทำการหมั้นหมายและสมรสกันได้ รวมทั้งจะแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติอื่นๆ เช่นแก้คำว่า “ชาย” “หญิง” “สามี” “ภรรยา” และ “สามีภรรยา” เป็น “บุคคล” “ผู้หมั้น” “ผู้รับหมั้น” และ “คู่สมรส” เพื่อให้มีความหมายครอบคลุมคู่หมั้นและคู่สมรสไม่ว่าเพศใด และเพิ่มเหตุเรียกค่าทดแทน และเหตุฟ้องหย่าให้ครอบคลุมกรณีคู่สมรสฝ่ายหนึ่งไปมีความสัมพันธ์กับบุคคลอื่นไม่ว่าเพศใด   เพื่อให้บุคคลนั้นมีสิทธิและหน้าที่และสถานะทางครอบครัว เท่าเทียมกับคู่สมรสที่เป็นชายหญิง 

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลชุดก่อนหน้านี้ เคยมีการเสนอ พ.ร.บ.คู่ชีวิต เข้าสู่สภาฯ แต่กฎหมายยังไม่เสร็จสิ้น เมื่อรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาทำหน้าที่ แต่ไม่ได้ยืนยันกฎหมายภายในกรอบเวลา 60 วัน ทำให้กฎหมายตกไป รัฐบาลเห็นความสำคัญของสิทธิการอยู่ร่วมกันของความหลากหลายทางเพศ เราจึงปรับปรุงกฎหมายฉบับนี้โดยรับฟังความคิดเห็นอย่างครบถ้วนแล้ว โดยหลังจากนี้จะส่งเรื่องไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อตรวจสอบหลักการร่างกฎหมาย ก่อนส่งกลับมายังคณะรัฐมนตรีเพื่อเสนอเข้าสู่สภาฯ ต่อไป

Adblock test (Why?)


ครม. แก้กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ให้คนหลากหลายทางเพศหมั้นและสมรสกันได้ - ไทยรัฐ
Read More

สาวแทบช็อก รถหวิดลงข้างทาง ขับมาดึก ๆ เจอคนผมยาวชุดขาวนั่งบนซันรูฟ นึกว่าผี - Sanook

สาวรถหวิดตกข้างทาง ขับมาดึก ๆ เจอคนใส่ผมยาวชุดขาว นั่งบนซันรูฟ แวบแรกนึกว่าผี ซูมดูเลขทะเบียนให้ดูชัด ๆ เอาใจคอหวย

กลายเป็นคลิปไวรัลที่มีผู้เข้าชมแล้วกว่า 2.5 ล้านวิว หลังจากผู้ใช้ TikTok บัญชี @c.aphisama ได้โพสต์คลิปวิดีโอเหตุการณ์ชวนขนหัวลุก ระบุว่า "เจอแบบนี้ตอน 4 ทุ่ม ก็เกือบลงข้างทางเหมือนกันนะ เข้าใจว่าเปิดซันรูฟ แต่น้องก็นั่งนิ่งเกิ๊น ละใส่ผมยาวชุดขาว #เจอผี“

ในคลิปจะเห็นภาพรถคันหน้า ที่บริเวณหลังคามีคนใส่ชุดขาวผมแดงอยู่บริเวณหลังคารถ สองข้างทางมืดสนิท มีเพียงไฟถนนส่องสว่าง

หลังจากคลิปถูกเผยแพร่ออกไป ก็มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย ทั้งสงสัยว่าเปิดซันรูปออกมาทำไม ทั้งที่ข้างทางมืดขนาดนี้ ขณะที่บางส่วนก็แซวแบบขำ ๆ ถามว่าแน่ใจเหรอว่าไม่ใช่ผี รถป้ายแดงอาจมีของแถมมาด้วยก็ได้

ซึ่งต่อมา ผู้ใช้ TikTok บัญชี @c.aphisama ก็ลงคลิปให้ดูชัด ๆ อีกครั้ง เอาใจคอหวยที่อยากซูมดูทะเบียนรถป้ายแดงชัด ๆ โดยเป็นคลิปขณะที่กำลังแซงรถคันดังกล่าว คล้ายเป็นการยืนยันว่าเป็นคนโผล่ออกมาจากซันรูฟจริง ๆ ไม่ใช่ผี

Adblock test (Why?)


สาวแทบช็อก รถหวิดลงข้างทาง ขับมาดึก ๆ เจอคนผมยาวชุดขาวนั่งบนซันรูฟ นึกว่าผี - Sanook
Read More

Monday, November 20, 2023

ฝ่ายต่อต้าน รบ.ทหารเมียนมา หยุดโจมตี เปิดทาง จนท.ช่วยเหลืออพยพ - ไทยรัฐ

กองกำลังฝ่ายต่อต้านรัฐบาลทหารในรัฐกะยา อ้างหยุดโจมตีในวันจันทร์ เพื่อเปิดทางให้เจ้าหน้าที่องค์กรช่วยเหลือหลายร้อยคนอพยพจากพื้นที่ความขัดแย้ง

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวันจันทร์ที่ 20 พ.ย. 2566 กองกำลังฝ่ายต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมาในรัฐกะยา หยุดการโจมตี เพื่อเปิดทางให้เจ้าหน้าที่องค์กรช่วยเหลือ รวมถึงเจ้าหน้าที่สหประชาชาติจำนวน 228 คน อพยพออกจากเมืองหลอยก่อ (Loikaw) หลังจากเกิดการต่อสู้กับกองทัพรัฐบาลก่อนหน้านี้

รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติเมียนมา (NUG) ซึ่งประกอบด้วยอดีตสมาชิกสภาที่ถูกกองทัพก่อรัฐประหารยึดอำนาจเมื่อปี 2564 จนต้องหนีไปต่างประเทศ ระบุว่า เจ้าหน้าที่ต่างชาติหลายร้อยคนในเมียนมาอพยพไปยังที่ปลอดภัยแล้ว ท่ามกลางการลุกฮือรอบใหม่ เพื่อต่อต้านการปกครองของกองทัพ

“ในขณะที่เจ้าหน้าที่ UN และ NGO บสมาชิกครอบครัวสามารถออกไปได้อย่างปลอดภัย ยังมีคนอีกมากมายที่ติดอยู่ในหลอยก่อ” NUG ระบุในแถลงการณ์ซึ่งเผยแพร่ผ่าน X โดยเผยด้วยว่า เจ้าหน้าที่องค์กรช่วยเหลือดังกล่าวถูกพาไปยังเมืองตองยี (Taunggyi) ในรัฐฉาน ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลทหาร

ทั้งนี้ กองกำลังติดอาวุธกลุ่มชาติพันธ์ุ 3 กลุ่ม ได้แก่ กองทัพโกก้าง (MNDAA) กองทัพตะอาง (TNLA) และกองทัพอาระกัน (AA) จับมือเป็นพันธมิตร เปิดฉากโจมตีกองทัพรัฐบาลหลายจุดตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม และกำลังกลายเป็นความท้ายทายใหญ่หลวงที่สุดที่รัฐบาลทหารเมียนมาต้องเผชิญ นับตั้งแต่การรัฐประหารในปี 2564

การต่อสู้ทำให้ชาวต่างชาติหลายร้อยคน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากประเทศเพื่อนบ้าน ติดอยู่ตามที่ต่างๆ โดยเฉพาะในรัฐฉาน ซึ่งมีชายแดนติดต่อกับจีน และที่รัฐกะยา ที่มีชายแดนติดต่อกับประเทศไทย

เมื่อวันจันทร์ ทางการจีนออกมาระบุว่า พวกเขากำลังช่วยเหลือชาวต่างชาติออกจากเมียนมา และบอกให้พลเมืองของพวกเขาย้ายออกจากพื้นที่ความขัดแย้ง ขณะที่ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีชาวไทยมากกว่า 250 คน, ชาวฟิลิปปินส์ 6 คน และสิงคโปร์อีก 1 คน อพยพหนีการต่อสู้ผ่านประเทศจีนเข้าสู่ไทยได้สำเร็จ

ที่มา : cna

Adblock test (Why?)


ฝ่ายต่อต้าน รบ.ทหารเมียนมา หยุดโจมตี เปิดทาง จนท.ช่วยเหลืออพยพ - ไทยรัฐ
Read More

Sunday, November 19, 2023

หุ่นยนต์สุนัขอัจฉริยะ ทางออกใหม่สำหรับผู้พิการทางสายตา - Post Today

Unitree A1 หุ่นยนต์สุนัขอัจฉริยะรุ่นใหม่

          ผลงานนี้เป็นของทีมวิจัยจาก Binghamton University กับการคิดค้นพัฒนาหุ่นยนต์สุนัขนำทางอัจฉริยะ Unitree A1 ที่มีศักยภาพในการนำทางแก่ผู้บกพร่องทางสายตาได้ใกล้เคียงกับสุนัขนำทางที่ได้รับการฝึกฝนตามระบบ ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงและคุณภาพชีวิตของผู้พิการได้อีกมาก

          ตัวหุ่นได้รับการติดตั้งเซ็นเซอร์ช่วยตรวจจับสิ่งกีดขวางรูปแบบต่างๆ จึงมีศักยภาพในการนำทางผู้มีความบกพร่องทางสายตาเพื่อนำทาง หลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวาง ไปจนสามารถพาผู้ใช้งานไปสู่เส้นทางที่ปลอดภัย อีกทั้งยังสามารถควบคุมตัวหุ่นผ่านสายจูงให้เคลื่อนที่ไปตามทิศทางที่กำหนด ใกล้เคียงกับแนวทางออกคำสั่งที่ได้รับการฝึกฝนจากสุนัขนำทางของจริง

          จากการทดสอบการใช้งานทีมวิจัยพบว่า หุ่นยนต์สุนัขอัจฉริยะมีคุณสมบัติพาผู้ใช้งานไปตามทิศทางที่กำหนดได้แม่นยำในพื้นที่โถงทางเดินในอาคาร รวมถึงตอบสนองต่อคำสั่งลากจูงและปรับทิศทางตามผู้ใช้งานได้อย่างอิสระ แม้จะยังห่างไกลจากคำว่าสมบูรณ์แต่ก็เป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยี

          ในขั้นต่อไปพวกเขากำลังพัฒนาอินเตอร์เฟสภาษาในการสื่อสาร ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสั่งการหุ่นยนต์สุนัขอัจฉริยะให้เคลื่อนไหวตามคำสั่งเสียงเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน รวมถึงพัฒนาระบบนำทางให้เรียนรู้ในการแจ้งเตือนผู้ใช้งาน ในกรณีที่เดินเข้าสู่พื้นที่อันตรายหรือมีพื้นที่เป็นหลุมบ่อ ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถรู้ล่วงหน้าและเตรียมรับมือได้ทันท่วงที

          นี่จึงเป็นอีกตัวเลือกสนับสนุนการใช้ชีวิตที่อาจเข้ามาทดแทนสุนัขนำทางในอนาคต

หุ่นยนต์สุนัขอัจฉริยะ ทางออกใหม่สำหรับผู้พิการทางสายตา

          หุ่นยนต์สุนัขนำทาง อนาคตแห่งการนำทาง

          ถึงตรงนี้หลายท่านที่ยังคงชื่นชอบสุนัขและการเลี้ยงสัตว์อาจยังมองว่าสุนัขนำทางน่าเชื่อถือกว่าในการใช้งานจริง เพราะนอกจากจะคอยช่วยเหลือในชีวิตประจำวัน สุนัขนำทางยังเป็นอีกหนึ่งเพื่อนคู่คิดหรือสมาชิกในครอบครัว จึงอยากชี้แจงอีกมุมมองประกอบการตัดสินใจว่า เหตุใดหุ่นยนต์สุนัขจึงมีแนวโน้มใช้งานสูงกว่า

          จุดเด่นสำคัญที่ทำให้หุ่นยนต์สุนัขได้รับความสนใจมาใช้ทดแทนคือ ค่าใช้จ่าย ตามที่กล่าวไปข้างต้นค่าใช้จ่ายฝึกสอนสุนัขนำทางแต่ละตัวมีราคาสูงมาก ในขณะที่ต้นทุนการผลิตหุ่นแต่ละตัวจะน้อยกว่านั้นราว 4 เท่า หุ่นยนต์สุนัขที่มีขนาดใกล้เคียงกันของ Xiaomi อย่าง Cyberdog แม้ไม่ได้มีติดตั้งระบบนำทางแต่สนนราคาอยู่เพียง 1,550 ดอลลาร์(ราว 56,000 บาท) อีกทั้งยังไม่มีค่าใช้จ่ายด้านอาหาร เครื่องใช้ หรือการรักษาพยาบาล ซึ่งช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายลงมาก

          เมื่อเป็นหุ่นยนต์ไม่ใช่สัตว์จริงจึงลดความรู้สึกต่อต้านของผู้ไม่ชอบสุนัขและสัตว์เลี้ยง รวมถึงแก้ปัญหาเรื่องการเข้าถึงพื้นที่สาธารณะได้โดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังไม่ต้องพะวงเรื่องการหลุดสมาธิระหว่างทำหน้าที่ ถูกรบกวนจากปัจจัยแวดล้อมภายนอก หรือต้องคอยดูแลเอาใจใส่แบบสุนัขจริง จึงมีความเสถียรและสะดวกกว่าสุนัขนำทางของจริงเสียอีก

          อีกหนึ่งข้อแตกต่างสำคัญของหุ่นยนต์สุนัขนำทางคือ ในการใช้งานจริงหุ่นยนต์นำทางรองรับการทำงานได้มากกว่าสุนัขจริง เช่น ตัวหุ่นสามารถเรียกใช้แผนที่และติดตั้งระบบ GPS ทำให้ผู้ใช้งานไปถึงจุดหมายปลายทางได้โดยอาศัยเพียงการป้อนคำสั่ง หรืออาจได้รับการติดตั้งระบบสนับสนุนอื่น เช่น การบรรทุกของ ช่วยลดภาระของผู้ใช้งานได้อีกทาง

          ด้วยเงื่อนไขทั้งหมดประกอบกันนี้เองหากหุ่นยนต์สุนัขอัจฉริยะใช้งานแพร่หลาย การใช้งานสุนัขนำทางอาจไม่ใช่ของส่วนตัวอีกต่อไป ในอนาคตอาจมีการใช้งานหุ่นยนต์สุนัขอัจฉริยะสนับสนุนผู้พิการเป็นการชั่วคราวในสถานที่อย่าง ห้างสรรสินค้า หรือ สนามบิน แบบเดียวกับที่มีการใช้งานกับรถเข็นก็เป็นได้

          แน่นอนผู้ที่กำลังพัฒนาหุ่นยนต์นำทางไม่ได้มีเพียงพวกเขา ทางประเทศจีนเองก็มีการเปิดตัว หุ่นยนต์สุนัขอัจฉริยะ ที่สามารถนำทางนักกีฬาเอเชียนพาราเกมส์ให้สามารถวิ่งคบเพลิงอย่างแม่นยำ ไปจนการพัฒนาไม้เท้าอัจฉริยะ NextGuide ที่สามารถนำทางผู้ใช้งานโดยอัตโนมัติได้เช่นกัน

          จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ในอนาคตการใช้งานสุนัขนำทางจะยิ่งน้อยลงและถูกทดแทนด้วยหุ่นยนต์นำทางซึ่งสะดวกต่อการใช้งานยิ่งกว่า

          ที่มา

          https://www.bbc.com/thai/thailand-49044382

          https://www.posttoday.com/post-next/innovation/695807

          https://www.posttoday.com/lifestyle/701059

          https://www.binghamton.edu/news/story/4565/binghamton-computer-scientists-program-robotic-seeing-eye-dog-to-guide-the-visually-impaired

          https://interestingengineering.com/innovation/engineers-create-a-robotic-eye-seeing-dog-to-aid-the-visually-impaired

Adblock test (Why?)


หุ่นยนต์สุนัขอัจฉริยะ ทางออกใหม่สำหรับผู้พิการทางสายตา - Post Today
Read More

อ่านให้ดี พรุ่งนี้ 'รถไฟ' เริ่มใช้วิธีใหม่ จองตั๋วล่วงหน้า 8 ขบวน ต้องคำนวณตามระยะทาง - มติชน

เริ่มพรุ่งนี้! หลักเกณฑ์ใหม่ จองตั๋วรถไฟล่วงหน้า นำร่อง 8 ขบวนทั่วไทย พร้อมวิธีคำนวณ ต้องดูตามระยะทางขบวนรถ

หลังจาก การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ประกาศข่าวขยายเวลาเปิดจองตั๋วล่วงหน้า 90 วัน นำร่องขบวนรถชุด 115 คัน จำนวน 8 ขบวน เริ่มให้บริการวันที่ 20 พฤศจิกายน 2566 เป็นต้นไป โดยมีการปรับรูปแบบ “การจองตั๋วรถไฟล่วงหน้า” ซึ่งต้องคำนวณระยะทางด้วย

หลักเกณฑ์ดังกล่าว “รถไฟ” อธิบายว่า 1.ผู้โดยสารที่จองตั๋วเดินทางน้อยกว่าร้อยละ 25 ของระยะทางขบวนรถ จองตั๋วล่วงหน้าได้ 1 วัน

2.ผู้โดยสารที่จองตั๋วเดินทาง ตั้งแต่ร้อยละ 25 แต่ไม่ถึง 60 ของระยะทางขบวนรถ จองตั๋วล่วงหน้าได้ภายใน 30 วัน

3.ผู้โดยสารที่จองตั๋วเดินทางตั้งแต่ร้อยละ 60 ของระยะทางขบวนรถขึ้นไป จองตั๋วล่วงหน้าได้ภายใน 90 วัน ซึ่งกำหนดวันข้างต้นให้รวมถึงการเปลี่ยนแปลงการเดินทางด้วย

พร้อมแนบภาพให้ผู้โดยสารได้เข้าใจมากยิ่งขึ้น

ขณะเดียวกัน รฟท.ยกตัวอย่างมาอธิบาย ดังนี้

“หากผู้โดยสารเดินทางจาก สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์-นครสวรรค์ ระยะทาง 246 กิโลเมตร ด้วย ขบวนรถสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์-เชียงใหม่ ซึ่งมีระยะทางทั้งสิ้น 751 กม. ระบบจะคำนวณระยะทางเป็นร้อยละของระยะทางขบวนรถ

ดังนั้น เมื่อผู้โดยสารลงที่สถานีนครสวรรค์จะมีระยะทางเท่ากับ 32.75% ของขบวนรถสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์-เชียงใหม่ ซึ่งจะสามารถจองตั๋วล่วงหน้าได้ภายใน 30 วัน

สำหรับ 8 ขบวนที่จะดีเดย์วันพรุ่งนี้ ประกอบด้วย

สายเหนือ จำนวน 2 ขบวน

  • เที่ยวไป : ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 9 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์-สถานีเชียงใหม่
  • เที่ยวกลับ : ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 10 สถานีเชียงใหม่-สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์

สายตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 4 ขบวน

  • เที่ยวไป : ขบวนด่วนพิเศษที่ 23 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์-สถานีอุบลราชธานี
  • เที่ยวกลับ : ขบวนด่วนพิเศษที่ 24 สถานีอุบลราชธานี-สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์
  • เที่ยวไป : ขบวนด่วนพิเศษที่ 25 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์-สถานีหนองคาย
  • เที่ยวกลับ : ขบวนด่วนพิเศษที่ 26 สถานีหนองคาย-สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์

สายใต้ จำนวน 2 ขบวน

  • เที่ยวไป : ขบวนด่วนพิเศษที่ 31 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์-สถานีหาดใหญ่
  • เที่ยวกลับ : ขบวนด่วนพิเศษที่ 32 สถานีหาดใหญ่-สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์

ผู้โดยสารสามารถจองตั๋วโดยสารล่วงหน้าได้ที่สถานีรถไฟทุกแห่ง หรือระบบจองตั๋วโดยสารออนไลน์ D-Ticket สามารถสอบถามข้อมูลการเดินทางเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือเฟซบุ๊กแฟนเพจ ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

QR Code

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่

Line Image

Adblock test (Why?)


อ่านให้ดี พรุ่งนี้ 'รถไฟ' เริ่มใช้วิธีใหม่ จองตั๋วล่วงหน้า 8 ขบวน ต้องคำนวณตามระยะทาง - มติชน
Read More

เปิด“เคล็ดลับ”ความมั่นคงทางการเงิน รู้หรือไม่? การก่อหนี้ ไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัว หากบริหารจัดการเป็น - ไทยรัฐ

ในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ “การวางแผนการเงิน” กลายเป็นเรื่องสำคัญ และจำเป็นอย่างมาก สำหรับคนทุกกลุ่มวัย และทุกสาขาอาชีพ ยิ่งรู้จักเก็บออมเงินเป็นตั้งแต่เด็ก ก็สามารถนำไปสู่ นิสัยทางการเงินที่ดี ในวัยทำงาน ได้ไม่ยาก 

ขณะความสามารถในการจัดสรร รายรับ-รายจ่าย และเงินออม ได้ตามความเหมาะสม ก็ยิ่งทำให้เราเข้าใกล้คำว่า “ความมั่นคงทางการเงิน” ได้เร็วขึ้น โดยที่ไม่ต้องมานั่งทุกข์ใจ เมื่อยามเรา เกษียณอายุ จากรายได้ลดลง แต่รายจ่ายเพิ่มขึ้น โดยทั้งหมดอาจเริ่มด้วยคำว่า การวางแผนทางการเงิน 

5 ขั้นตอนวางแผน สู่ ความมั่นคงทางการเงิน 

  • ประเมินฐานะการเงิน

สินทรัพย์ - หนี้สิน = ความมั่งคั่งสุทธิ

รายรับ - เงินออม - รายจ่าย = เงินเหลือใช้/เงินขาดมือ

ทั้งนี้ เราควรจดบันทึกรายรับรายจ่ายประจำวัน เพื่อจะได้รู้พฤติกรรมการใช้จ่ายของตนเอง

  • ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน

ควรตั้งเป้าหมายและกำหนดเวลาที่จะพิชิตเป้าหมายให้ชัดเจน ไม่คลุมเครือ มีความเฉพาะเจาะจง ว่าเราจะทำอะไร เพื่ออะไร รวมถึงมีการจัดลำดับความสำคัญของเป้าหมายให้สอดคล้องกับความสามารถทางการเงินในช่วงเวลานั้นๆ 

  • จัดทำแผนการเงิน

ควรมีการจัดทำแผนการบริหารเงินและทรัพย์สินต่างๆ เช่น เราจะใช้จ่ายเงินอย่างไร หารายได้เพิ่มเติมจากแหล่งไหน หรือนำไปลงทุนอย่างไรเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ (แบบไม่กดดันตัวเองจนเกินไป)

  • ดำเนินการตามแผนอย่างเคร่งครัด

จะมีประโยชน์อะไร? ถ้ามีเป้าหมาย แต่ไม่จริงจัง โดยสิ่งที่สำคัญที่สุดคือความมุ่งมั่นและมีวินัย เพราะหากขาดการปฏิบัติที่จริงจังและต่อเนื่อง ก็ยากที่จะบรรลุเป้าหมายได้

  • ตรวจสอบและปรับแผนตามสถานการณ์

ควรหมั่นตรวจสอบแผนอย่างสม่ำเสมออย่างน้อยทุก 6 เดือนว่าทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางไว้หรือไม่ ก่อนปรับแผนให้สอดคล้องกับสิ่งที่เปลี่ยนไป 

เป็นหนี้ได้ แต่ภาระเงินต้นและดอก ต้องไม่เกิน 1 ใน 3 ของรายได้ต่อเดือน

ทั้งนี้ 1 ในเคล็ดลับเพื่อความมั่นคงทางการเงิน หากแต่ยังเป็นเรื่อง การรับมือกับความไม่แน่นอนด้วย ตามทฤษฎีนั้น มีการแนะให้เรา  

  1. ต้องมีเงินออมเผื่อฉุกเฉิน 3-6 เท่าของรายจ่ายจำเป็นและภาระผ่อนหนี้ต่อเดือน
  2. ตรวจสอบสวัสดิการและประกันสุขภาพที่มีอยู่ว่าครอบคลุมแค่ไหน หากไม่เพียงพอ การทำประกันสุขภาพเพิ่มเติมก็อาจเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง
  3. พิจารณาเรื่องความไม่แน่นอนของรายได้ในอนาคต ก่อนตัดสินใจกู้ยืมเงินทุกครั้ง
  4. อาจหาแหล่งรายได้เสริมหรือนำสินทรัพย์ที่มีไปลงทุนให้งอกเงยขึ้น

ทั้งนี้ การวางแผนเก็บเงินเตรียมไว้แต่เนิ่นๆ รวมถึงบริหารเงินออมให้งอกเงย เช่น ฝากธนาคาร ซื้อพันธบัตร ซื้อประกันสะสมทรัพย์ ซื้อกองทุนรวม ฯลฯ ก็เป็นสิ่งจำเป็น 

เช่นเดียวกับ การใช้จ่ายบัตรเครดิต หรือ สินเชื่อส่วนบุคคล โดย ธปท.ชี้ว่า การก่อหนี้ไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวหากมีการบริหารจัดการที่ดี และเลือกก่อหนี้ที่มีประโยชน์ เช่น การกู้ซื้อบ้านหรือกู้เพื่อประกอบอาชีพ 

อย่างไรก็ตาม ควรประเมินความสามารถในการชำระคืนก่อน โดยภาระการชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ยของหนี้ทุกประเภทในแต่ละเดือนรวมกัน ไม่ควรเกิน 1 ใน 3 ของรายได้ต่อเดือน

หากมีหนี้สินเกินตัว ก็ต้องพยายามปลดหนี้ด้วยการประหยัด ทยอยผ่อนชำระ โดยเฉพาะหนี้นอกระบบและหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูง ที่สำคัญไม่ควรก่อหนี้เพิ่ม หากไม่สามารถชำระคืนได้ ก็ควรหารือกับเจ้าหนี้เพื่อหาทางออกร่วมกัน

Adblock test (Why?)


เปิด“เคล็ดลับ”ความมั่นคงทางการเงิน รู้หรือไม่? การก่อหนี้ ไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัว หากบริหารจัดการเป็น - ไทยรัฐ
Read More

แผ่นดินไหวรุนแรงทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์ เสียชีวิตแล้ว 2 ราย - ไทยโพสต์

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันเสาร์ที่ 18 พฤศจิกายน 2566 กล่าวว่า เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 6.7 แม็กนิจูด สั่นสะเทือนทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์เมื่อวันศุกร์ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ขณะที่ผู้คนหนีตายออกจากอาคาร และเพดานห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งพังทลาย

สำนักสำรวจทางธรณีวิทยาสหรัฐ (ยูเอสจีเอส) ระบุว่า ไม่มีภัยคุกคามสึนามิเกิดตามมา ภายหลังแผ่นดินไหวปะทุขึ้นที่ความลึก 78 กิโลเมตร นอกจังหวัดซารังกานีของเกาะมินดาเนาทางตอนใต้

ชายคนหนึ่งและภรรยาของเขาถูกพบเสียชีวิตอยู่ใต้กำแพงคอนกรีตด้านนอกโรงงานไม้แห่งหนึ่งใกล้กับเมืองเจเนอรัลซานโตส ซึ่งเป็นที่ที่ทั้งคู่ทำงานอยู่ โดยกำแพงได้พังถล่มทับร่างของผู้เสียชีวิตระหว่างเกิดแผ่นดินไหว ตามรายงานของตำรวจท้องที่

แรงสั่นสะเทือนสามารถรู้สึกได้ไกลถึงเมืองดาเวา ซึ่งอยู่ห่างจากศูนย์กลางแผ่นดินไหวประมาณ 200 กิโลเมตร

ภาพถ่ายที่เผยแพร่บนโซเชียลมีเดียและตรวจสอบโดยเอเอฟพี แสดงให้เห็นเพดานถล่มภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในเมืองเจเนอรัลซานโตส ซึ่งอยู่ห่างจากจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวไม่ถึง 100 กิโลเมตร

วิดีโอเผยให้เห็นบรรดานักช้อปในห้างสรรพสินค้าอีกแห่งหนึ่งในเมืองเดียวกัน ซ่อนตัวด้วยความหวาดผวาอยู่ใต้โต๊ะตามร้านอาหาร และส่งเสียงกรีดร้องในขณะที่อาคารสั่นสะเทือนและเพดานหล่นลงมา

มีรายงานนักเรียนประมาณ 30 คนในโรงเรียนมัธยมใกล้เคียง ถูกหามส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วนเนื่องจากอาการหายใจลำบากเพราะตกใจระหว่างเกิดแผ่นดินไหวดังกล่าว

จนถึงขณะนี้ นอกจากรายงานผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนหนึ่งแล้ว ถือว่าแผ่นดินไหวครั้งนี้ไม่ได้ก่อให้เกิดความเสียหายสำคัญต่อสถานที่และผู้คนโดยรวม

ฟิลิปปินส์มักประสบกับเหตุแผ่นดินไหวเนื่องจากตั้งอยู่บน 'วงแหวนแห่งไฟ' ซึ่งทอดยาวจากญี่ปุ่นผ่านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และมหาสมุทรแปซิฟิก.

Adblock test (Why?)


แผ่นดินไหวรุนแรงทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์ เสียชีวิตแล้ว 2 ราย - ไทยโพสต์
Read More

ขึ้นเงินเดือนข้าราชการ…พบทางออกหรือเจอทางตัน?! - กรุงเทพธุรกิจ

ความตอนหนึ่งว่า “เงินเดือนข้าราชการเริ่มต้น 25,000 บาท เอาไหมคะ ข้าราชการทั้งหลาย เงินเดือนขึ้นเริ่มต้น 25,000 บาท ถ้าขึ้นทุกตำแหน่งอีก 70% เงินเดือนที่จะขึ้นแบบนี้ต่อไป เอาหรือไม่คะ”

ในประเด็นนี้ นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ระบุว่า การปรับฐานเงินเดือนข้าราชการบรรจุใหม่ มีวัตถุประสงค์เพื่อจูงใจคนเก่งมีความรู้ความสามารถให้เข้าสู่ระบบราชการ

ผู้เขียนเห็นว่า ความคิดดังกล่าวมองผิวเผินเป็นเรื่องดี อย่างไรก็ดี การปรับฐานเงินเดือนบุคลากรภาครัฐมีประเด็นสำคัญหลายด้านที่สมควรต้องพิจารณา

ประการแรก นโยบายปรับฐานค่าจ้าง/เงินเดือนขั้นต่ำ มิได้คำนึงถึงผลกระทบด้านเงินเฟ้อที่จะเกิดขึ้นกับเกษตรกรหรือแรงงานนอกระบบอื่น ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ อาทิ พ่อค้าหาบไข่ปิ้ง แม่ค้าส้มตำไก่ย่าง คนซ่อมรองเท้า คนเก็บขยะขาย ฯลฯ ที่ไม่มีหลักประกันทางรายได้ในแต่ละวันว่าเท่ากับกี่บาทกี่สตางค์

กล่าวคือ ราคาพืชผลทางการเกษตรและรายได้ของคนหาเช้ากินค่ำเหล่านี้ มิได้ปรับเพิ่มขึ้นตามทิศทางของค่าจ้าง/เงินเดือน รวมถึงราคาสินค้าและบริการที่จะทะยานสูงขึ้น คนกลุ่มนี้ที่ปกติมีชีวิตลำบากอยู่แล้วจึงได้รับผลจากนโยบายนี้อย่างรุนแรง

ประการถัดมา การแก้กฎหมายปรับเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำให้แรงงานกับการเพิ่มฐานเงินเดือนข้าราชการ ไม่อาจนำมาเปรียบเทียบกันได้

เพราะค่าแรงขั้นต่ำเป็นหนึ่งในวิธีการแทรกแซง ที่ภาครัฐของนานาอารยประเทศใช้ เพื่อคุ้มครองลูกจ้างที่ไม่มีอำนาจในการต่อรอง ให้ไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบจากกลุ่มนายทุนจนเกินไป เป็นการปกป้องคนงานจากค่าจ้างที่ต่ำเกินควร

นั่นคือ เป็นการแก้กฎหมายเพื่อช่วยให้แรงงานได้รับส่วนแบ่งผลแห่งความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจอย่างยุติธรรม โดยไม่ได้ส่งผลต่อเนื่องถึงภาระการคลังของประเทศอย่างมีนัยสำคัญ

ประการต่อไป ปัจจุบันบุคลากรภาครัฐมีหลายประเภท เช่น ข้าราชการ พนักงานราชการ ลูกจ้าง ฯลฯ โดยข้าราชการเป็นกลุ่มที่ได้รับสิทธิประโยชน์หลายประการมากกว่าบุคลากรของรัฐประเภทอื่น

นอกจากเงินเดือนที่มาจากภาษีของคนทั้งประเทศ ข้าราชการยังมีสวัสดิการด้านการรักษาพยาบาลและเงินบำเหน็จบำนาญเมื่อเกษียณอายุราชการทุกเดือนจนตาย ซึ่งล้วนจัดสรรมาจากงบประมาณแผ่นดินทั้งสิ้น

เมื่อพิจารณาพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.2566 พบว่า รายจ่ายด้านงบบุคลากร เช่น เงินเดือน ค่าจ้างประจำ ค่าจ้างชั่วคราว ค่าตอบแทนพนักงานราชการ เป็นจำนวนเงินมากกว่า 610,000 ล้านบาท

ค่ารักษาพยาบาลบุคลากรภาครัฐและครอบครัว เป็นจำนวนเงิน 76,000 ล้านบาท และค่าเบี้ยหวัด บำเหน็จบำนาญ เป็นจำนวนเงินอีก 322,790 ล้านบาท ซึ่งเป็นรายจ่ายที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ

นโยบายเพิ่มฐานเงินเดือนบุคลากรภาครัฐ ทั้งกลุ่มที่เป็นข้าราชการและไม่ใช่ข้าราชการให้ใกล้เคียงภาคเอกชนแบบหว่านแห ไม่เพียงแต่ส่งผลให้งบรายจ่ายด้านบุคลากรต้องทะยานสูงขึ้นเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่องบประมาณแผ่นดินจำนวนมหาศาลที่ต้องถูกจัดสรรเพิ่มขึ้นเพื่อจ่ายบำเหน็จบำนาญให้แก่ข้าราชการอีกด้วย

เนื่องจากมาตรา 37 แห่งพระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ.2539 (แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติกองทุนบําเหน็จบํานาญข้าราชการ (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2546) บัญญัติว่า “บำเหน็จบํานาญ บําเหน็จดํารงชีพ และบําเหน็จตกทอด ให้จ่ายจากเงินงบประมาณ สําหรับเงินสะสม เงินสมทบ เงินประเดิม เงินชดเชย และผลประโยชน์ตอบแทนเงินดังกล่าวให้จ่ายจากกองทุน...”

มาตรา 63 แห่งพระราชบัญญัติเดียวกัน บัญญัติให้ข้าราชการได้รับเงินบำนาญโดย “...คํานวณจากอัตราเงินเดือนเฉลี่ยหกสิบเดือนสุดท้าย คูณด้วยเวลาราชการ หารด้วยห้าสิบ แต่ต้องไม่เกินร้อยละเจ็ดสิบของอัตราเงินเดือนเฉลี่ยหกสิบเดือนสุดท้าย”

ปัจจุบัน ข้าราชการที่เกษียณอายุราชการได้รับบำนาญโดยเฉลี่ยคนละประมาณ 30,000-70,000 บาทต่อเดือน ซึ่งทั้งหมดมาจากงบประมาณแผ่นดิน

(ไม่นับรวมเงินจาก กบข.ที่มาจากการสมทบระหว่างการทำงานโดยฝ่ายข้าราชการในอัตราร้อยละ 3-27 และฝ่ายรัฐในฐานะนายจ้างอีกร้อยละ 3 ของเงินเดือน ซึ่งเป็นลักษณะคล้ายกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพในบริษัทเอกชน)

แต่ถ้าหากมีการปรับฐานเงินเดือนข้าราชการทั้งระบบเพิ่ม 70% ตามคำปราศรัยของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ข้าราชการที่จะเกษียณจะได้รับบำนาญแต่ละเดือนโดยเฉลี่ยคนละประมาณ 40,000-90,000 บาท

เมื่อพิจารณารายจ่ายเฉพาะส่วนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ ที่ปัจจุบันได้รับการจัดสรรจากงบประมาณแผ่นดินมากกว่า 300,000 ล้านบาท และมีแนวโน้มสูงกว่า 600,000 ล้านบาทภายในระยะเวลาไม่เกิน 10 ปี และอาจสูงกว่า 800,000 ล้านบาท

หากมีการยกเครื่องเงินเดือนข้าราชการใหม่ทั้งระบบตามนโยบายนี้ ย่อมส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังอย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้

เพราะประเทศไทยมีจำนวนผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้น ในขณะที่อัตราการเกิดลดลงอย่างมาก ส่งผลต่อรายได้ภาครัฐ ที่จะนำมาจัดสรรเป็นงบประมาณค่าใช้จ่ายในการบริหารประเทศด้านต่างๆ

หากรัฐบาลยังจะดำเนินนโยบายปรับฐานเงินเดือนข้าราชการ เพื่อป้องกันวิกฤติทางการคลังที่จะเกิดในอนาคต และเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับประชาชนผู้เสียภาษี รัฐบาลสมควรยกเลิกระบบบำนาญข้าราชการปัจจุบัน

และใช้โอกาสนี้สร้างระบบบำนาญใหม่ซึ่งครอบคลุมทุกกลุ่มอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการ คนทำงานภาคเอกชน หรืออาชีพส่วนตัว ให้อยู่ภายใต้ระบบเดียวกัน ซึ่งสามารถศึกษาได้จากหลากหลายประเทศต้นแบบ อาทิ เดนมาร์ก สวีเดน และออสเตรีย

เมื่อถึงเวลานั้น คนไทยจะผาสุกอย่างยั่งยืนถ้วนหน้า!

Adblock test (Why?)


ขึ้นเงินเดือนข้าราชการ…พบทางออกหรือเจอทางตัน?! - กรุงเทพธุรกิจ
Read More

นักวิชาการ มธ. เสนอกลไกทางเลือกแก้ PM 2.5 - ไทยโพสต์

นักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อม ม.ธรรมศาสตร์ แนะ ควรให้ ‘อำนาจสั่งการ’ คกก.อากาศสะอาด ดำเนินมาตรการข้ามหน่วยงาน พร้อม ‘บูรณาการงบประมาณ’ ตามภารกิจ...